จำคุก 2 เดือน ปรับ 4 พันบาท ห้ามขับรถ 6 เดือน ลูกชายรัฐมนตรีช่วย เมาแล้วขับ เจ้าตัวขอโทษทำไปเพราะเมาสุรา ด้านรัฐมนตรีช่วย รับลูกชายผิดจริง ไม่อยากให้คนมอง เป็นลูกนักการเมืองแล้วทำอะไรไม่ผิด หรือจะใช้อำนาจทางการเมือง เพราะส่วนตัวชื่นชมการทำงานของตำรวจที่เข้มงวดกวดขัน
จากกรณีที่ชาย อายุ 46 ปี ซึ่งเป็นลูกชายของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงหนึ่ง ดื่มสุราแล้วขับรถชนแผงเหล็กล้ม ไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่ทำการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ ก่อนจะควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนสนประชาชื่นดำเนินคดี 2 ข้อหาคือ "ขับรถในขณะเมาสุรา หรือของเมาอย่างอื่น และฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานจราจร ที่สั่งให้มีการทดสอบว่าผู้ขับขี่ขับรถในขณะเมาสุรา หรือเมาอย่างอื่น"
ความคืบหน้าล่าสุด พันตำรวจเอก สัญญา อุบลวิรัตนา ผู้กำกับการ สน.ประชาชื่น เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุกองบังคับการตำรวจจราจรที่ตั้งด่าน ได้คุมผู้ต้องหามาถึง สน.ประชาชื่น ในช่วงเวลาประมาน 05.00 น. ซึ่งผู้ต้องหาอยู่ในอาการมึนเมาสุรา พูดจาวกวนไปมา ต้องให้นั่งสงบสติอารมณ์จนหายมึนเมาสุรา ถึงจะพูดคุยได้ ผู้ต้องหาก็ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ก่อนจะปรับพินัยในข้อหา "ฝ่าฝืนคำสั่งของเจ้าพนักงานจราจรที่สั่งให้มีการทดสอบผู้ขับขี่ขับรถในขณะเมาสุรา" เป็นจำนวนเงิน 1 พันบาท จนเวลาประมาน 08.00 น. จะควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งฟ้องต่อศาลแขวงพระนครเหนือในข้อหา "ขับรถในขณะเมาสุรา หรือเมาของอย่างอื่น" โดยศาลมีคำพิพากษาจำคุก 2 เดือน ปรับ 4 พันบาท รอลงอาญา 2 ปี พักใบอนุญาตขับขี่ 6 เดือน พร้อมกับให้บำเพ็ญสาธารณประโยชน์เป็นเวลา 12 ชั่วโมง
ทั้งนี้ทีมข่าวอมรินทร์ทีวีได้ติดต่อ ไปยังนายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข และได้พูดคุยกันทางโทรศัพท์ โดยนายสันติยอมรับว่าตัวเองเพิ่งทราบข่าว จากสื่อมวลชนเช่นเดียวกัน ว่าลูกชายเมาแล้วขับ โดยยอมรับว่า ข่าวที่ปรากฏเป็น ลูกชายตัวเองจริง แต่ไม่เคยทราบเรื่อง เนื่องจากว่า ลูกชายโตและแยกครอบครัวออกไปอยู่ต่างหากแล้ว จึงไม่รู้เรื่อง
คาดว่าน่าจะไปสังสรรค์งานเลี้ยงกับกลุ่มเพื่อน ดื่มแอลกอฮอล์มาปริมาณมาก ซึ่งตอนนี้ได้โทรศัพท์ไปเรียกให้ลูกชายเข้ามาพบแล้ว เพื่อสอบถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยส่วนตัวไม่อยากให้คนมองว่าเป็นลูกชายนักการเมืองแล้วทำอะไรไม่ผิด หรือจะใช้อำนาจทางการเมือง เพราะส่วนตัวยังชื่นชมการทำงานของตำรวจที่มีการเข้มงวดกวดขัน ตั้งด่านวัดประมาณแอลกอฮอล์เพื่อป้องกันอุบัติเหตุบนท้องถนนจากคนเมาแล้วขับด้วยซ้ำ
และยังขอบคุณตำรวจ เพราะหาก ไม่ถูกตำรวจจับ หรือเหตุการณ์เลวร้ายไปกว่านี้คือเกิดอุบัติเหตุหรือทำให้ผู้อื่นเสียชีวิตอาจจะต้อง เป็นปัญหาใหญ่กว่านี้
Advertisement