ชาวเมียนมาทั้งพลเรือนและเจ้าหน้าที่ ที่ได้รับบาดเจ็บจากสงคราม ยังเข้าไทยอย่างต่อเนื่อง โรงพยาบาลแม่สอดรับศึกหนัก มีผู้ได้รับบาดเจ็บกว่า 100 คนแล้ว ขณะทหารเมียนมาเสริมกำลังเข้ามาจำนวนมาก เพื่อจะเข้าไปช่วยเหลือที่เหลือในพื้นที่เมียวดี
เมื่อวันที่ 22 เมษายน 67 ผู้สื่อข่าวรายงานจาก อ.แม่สอด จ.ตาก ถึงเหตุการณ์การสู้รบระหว่างทหารฝ่ายต่อต้านทหารเมียนมา ซึ่งประกอบด้วยทหารสหภาพแห่งขาติกะเหรี่ยง (เคเอ็นยู) กองพลน้อยที่ 6และเคเอ็นยูพีซี. รวมทั้งกองกำลังพีดีเอฟ. กองกำลังปกป้องประชาชนของรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ (เอ็นยูจี) ในพื้นที่ จ.เมียวดี ตรงข้าม อ.แม่สอด จ.ตากนั้น
ในเช้าวันนี้ (22 เม.ย. 67) เสียงปืนยังสงบในพื้นที่ใกล้ชายแดน ตั้งแต่ทางฝ่ายทหารเมียนมาได้ส่งเครื่องบินมาทิ้งระเบิด เช้าวันที่ 21 เม.ย. 67 ขณะที่ผู้ได้รับบาดเจ็บจากการสู้รบ ซึ่งมีทั้งพลเรือนและเจ้าหน้าที่ฝั่งเมียนมา รวมทั้งฝ่ายต่อต้านยังคงเดินทางมารับการรักษาที่โรงพยาบาลแม่สอดไม่ขาดสาย ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บกว่า 100คนแล้ว โดยผู้ได้รับบาดเจ็บส่วนหนึ่งมาจากในเมืองเมียวดี ส่วนหนึ่งมาจากท่าขนส่งสินค้า หรือท่าข้ามตามแนวชายแดนจากอำเภอต่าง ๆโรงพยาบาลแม่สอดต้องรับมือในสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยรับการรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บตลอด24ชั่วโมง
สำหรับสถานการณ์การสู้รบที่ผ่านมาทหารเมียนมาได้เสริมกำลังทหารเข้ามาจำนวนมาก และยังอยู่บริเวณถนนสายเอเชีย บนถนนสายกอกาเลก มีเป้าหมายที่จะเข้าไปช่วยเหลือทหารเมียนมาในพื้นที่เมียวดีโดยเฉพาะบริเวณบ้านเหย่ปู่ ห่างจากด่านพรมแดนไทยเมียนมา (แม่สอดเมียวดี) ตรงข้ามบ้านวังตะเคียนใต้ ตำบลท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก ประมาณ 1.5 กิโลเมตร
ด้านหน่วยเฉพาะกิจราชมนู อ.แม่สอด จ.ตาก แจ้งถึงสถานการณ์ผู้ลี้ภัยที่หนีภัยสงครามเข้ามายังเขตประเทศไทยมีทั้งหมดจำนวน 2,090 คน ณ เวลา 08.00 น. วันที่ 22 เมษายน 67 อยู่ในพื้นที่ อ.แม่สอด 2 แห่ง 2,013 คน และที่ อ.อุ้มผาง 77 คน โดยมีทหารฝ่ายปกครองสาธารณสุขและตำรวจในพื้นที่ช่วยดูแลนอกจากนี้ฝ่ายทหารยังคงเฝ้าระวังและออกตระเวนตามแนวชายแดนตลอดทั้งคืน
ล่าสุดมีรายงานว่าวันนี้นายชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข จะลงพื้นที่ อ.แม่สอด และจุดแรกที่จะไปตรวจคือโรงพยาบาลแม่สอด
Advertisement