ดิ้นแล้ว! ผอ.สำนักพุทธฯ หาช่องทางเอาผิดเด็กเชื่อมจิต ชี้ส่งผลกระทบต่อหลักธรรม คำสอนผิดเพี้ยน หลังทนายอนันต์ชัย จี้ให้เวลาจัดการภายใน 3 วัน
จากกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า “ลัทธิเชื่อมจิตสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติทำอะไรอยู่ ? ผมขอถามนายอินทพร จั่นเอี่ยม ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ มีเด็กคนหนึ่งอายุประมาณ 8 ขวบอ้างว่าตนเองเป็นบุตรของพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าส่งมาเกิดเป็นพระอนาคา มีเป็นพญานาคลงมาเกิดใช้ฤทธิสอนธรรมสอนธรรมะด้วยวิชา #เชื่อมจิตซึ่งไม่มีอยูในพระไตรปิฎกของศาสนาพุทธนิกายเถรวาทเป็น #สัทธรรมปฏิรูปถือเป็น #ลัทธิเชื่อมจิตเป็นอำนาจหน้าที่ของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติหรือไม่ ? ที่จะออกมาดำเนินการกับเด็กคนดังกล่าวที่สอนธรรมที่พระะพุทธเจ้าไม่ได้สอนไว้ซึ่งบัญญัติไว้ในพระไตรปิฎก?ช่วยตอบคำถามหน่อยครับอย่าเงียบทำงานหน่อย……ให้เวลา 3 วันที่ถามเพราะหากไม่ใช่หน้าที่มูลนิธิทนายกองทัพธรรมจะได้จัดการเอง!ทนายอนันต์ชัยไชยเดช(ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม)
ล่าสุดวันนี้(24เม.ย.67)นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา บอกว่าต้องขอบคุณทนายอนันต์ชัย หากมีอะไรจะแนะนำในเรื่องนี้ก็ถือว่า ท่านมีส่วนร่วมในฐานะมูลนิธิกองทัพธรรม
โดยในส่วนของทางราชการนั้น ตนเองได้สั่งการตามคำสั่งของนางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด ประสานกับผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฏร์ธานีร่วมกับสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด และตํารวจทำงานร่วมกัน
โดยตนเองจะลงพื้นที่ตรวจสอบในไม่กี่วันนี้ เนื่องจากมีผู้คนที่เข้าไปอยู่เชื่อมจิตเป็นจำนวนมาก ซึ่งส่งผลกระทบต่อหลักธรรม และรับคำสอนที่อาจจะผิดเพี้ยนไป
โดยเรื่องนี้ทางสำนักพุทธนั้น เราทำมาตั้งแต่ต้นแล้ว เนื่องจากเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับหลักธรรมคำสอนทาง ซึ่งได้ปรึกษากับฝ่ายกฎหมายว่าหากเป็นเด็กที่ไม่ใช่พระภิกษุสามเณร จะสามารถเข้าไปดำเนินการกับเด็กและผู้ปกครองได้หรือไม่ เพราะข้อกฎหมายยังไม่สามารถเอาผิดได้ กรณีที่หลบหลู่ศาสนสถาน ศาสนวัตถุ ตลอดจนการก่อความวุ่นวาย และการแต่งกายเรียนแบบสงฆ์ เพราะองค์ประกอบยังไปไม่ถึง อีกทั้งไม่มีผู้เสียหายที่ซื้อคอร์สแล้วมาร้องทุกข์กล่าวโทษแต่อย่างใด เพราะฉะนั้นจึงต้องใช้อำนาจหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการ ซึ่งก็คาดว่าจะมีช่องทางในการดำเนินคดีทางกฎหมายได้
จากเหตุการณ์นี้ สำนักพุทธฯ ก็ได้มีการเข้าไปดำเนินการในเรื่องของพระสงฆ์ที่เข้าไปเกี่ยวข้อง 2 ครั้ง โดยครั้งแรกที่มีภาพพระประสงค์ปรากฏในโรงแรมที่มีการเชื่อมจิต ซึ่งจากการตรวจสอบพระสงฆ์รูปดังกล่าวได้มีการแจ้งว่าไม่เกี่ยวข้อง เพียงแต่รับนิมนต์ไปรับสังฆทานเพียงเท่านั้น
ส่วนพระสงฆ์อีกรูปที่ปรากฏคลิปไปกราบเด็กนั้น ก็ได้แจ้งไปที่พระผู้ปกครองดำเนินการ ให้ออกจากวัดไปจำพรรษาที่อื่น
ก็มาดิครับ! เพจนิรมิตเทวาจุติ โพสต์พร้อมคุยสำนักพุทธฯ ไม่ต้องไปถึงสุราษฏร์ฯ
ขณะที่เพจเฟซบุ๊ก นิรมิตเทวาจุติ โพสต์ทันที ระบุข้อความว่าเนื่องจากมีกระแสข่าวออกมาว่าสำนักพุทธ จะเดินทางมาที่สุราษฏร์ธานี ขอแจ้งว่า ช่วงระหว่างวันที่ 24-27 เมษายน 2567 อยู่นอกสถานที่ใกล้กรุงเทพฯ หากสำนักพุทธ ประสงค์จะพูดคุย สามารถประสานติดต่อมาได้ เพื่อจะได้พูดคุยข้อเท็จจริง ซึ่งก็ตรงกับวัตถุประสงค์ ที่ทางเราจะเรียนชี้แจงอยู่แล้ว
Advertisement