อุทาหรณ์ สาวท้อง 8 เดือนสุพรรณบุรี เผาขยะ โดนกระป๋องสเปรย์ดับกลิ่นปากระเบิด เศษวัสดุเจาะคอเสียเลือกมากดับพร้อมลูก
วันที่ 11 พ.ค. 67 ที่ จ.สุพรรณบุรี พ.ต.ต.ประยุทธ นุชนารถ พนักงานสอบสวน สภ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี รับแจ้งจากโรงพยาบาลศรีประจันต์ว่า มีคนถูกวัสดุไม่ทราบชนิดเจาะที่ลำคอเสียชีวิตระหว่างนำส่ง ขอให้มาร่วมชันสูตรด้วย
หลังรับแจ้งได้เดินทางไปตรวจสอบ พร้อมมูลนิธิเสมอกันกู้ภัยสุพรรณบุรี ที่ห้องปลายฟ้า พบร่างผู้เสียชีวิตทราบชื่อ น.ส.สุธิสา ดีน้อย อายุ 19 ปี นอนเสียชีวิตอยู่บนรถเข็น สภาพศพมีบาดแผล ถูกของมีคมเจาะเข้าที่ลำคอด้านขวา 1 รู
น.ส.วิภาดา คุ้มหมู่ อายุ 35 ปี แม่ผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า เมื่อสองวันก่อนลูกสาวได้มาอยู่กับแม่ที่ห้องพัก และเพิ่งกลับไปอยู่กับแฟนได้เพียง 1 คืน ก่อนหน้านี้ลูกสาวทำงานอยู่ที่ร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งใน อ.ศรีประจันต์ หลังจากท้องก็ได้ลาออก เตรียมจะคลอดลูก วันที่ 8 เดือนหน้านี้ และมารู้ว่าลูกสาวจุดไฟเผาขยะ และมีกระป๋องสเปรย์ที่อยู่ในกองขยะระเบิดใส่คอ จนมาเสียชีวิตที่โรงพยาบาล
ซึ่งเจ้าหน้าที่บอกว่าต้องผ่าเอาเด็กออกก่อน จึงจะนำศพไปบำเพ็ญกุศลได้ ตนจึงขอให้ทางเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลผ่าเอาศพเด็กออก
นายสงบ ทองอินทร์ อายุ 72 ปี เล่าว่า เห็นหลานสะใภ้ได้ตื่นมาตอนเช้า และได้เก็บกวาดใบไม้ขยะบริเวณหน้าบ้านกับเด็กที่เป็นหลานอีกคนหนึ่ง หลังจากกวาดขยะเสร็จหลานสะใภ้ก็ได้จุดไฟเผาขยะ และได้เอาไม้เขี่ยขยะบริเวณรอบเข้ากองไฟ ระหว่างนั้นหลานชายที่ยืนอยู่ด้วยได้เดินไปเข้าห้องน้ำ จากนั้นไม่นานก็ได้ยินเสียงเหมือนมีอะไรระเบิด และได้ยินเสียงหลานสะใภ้ร้องเสียงดัง ตนจึงได้ตะโกนเรียกหลานชายซึ่งเป็นสามีหลานสะใภ้ให้รีบออกมาดู
ส่วนตนเองก็ค่อยๆ เดินมาดูทีหลัง เพราะขาไม่ดี เดินช้า พอเดินมาเห็นก็ได้ลงไปกอดหลาน และเอามืออุดเลือดที่กำลังไหลอยู่บริเวณลำคอ พร้องทั้งให้ญาติรีบเรียกรถพยาบาล หลังจากนั้นไม่นานก็ทราบว่าหลานสะใภ้เสียชีวิตพร้อมกับลูกในท้อง
ด้านนายรัตนพล อาสาเภสัช อาสาสมัครมูลนิธิเสมอกันกู้ภัยสุพรรณบุรี ผู้ที่ผ่าท้องแม่นำร่างทารกที่ตายท้องกลมออกมา กล่าวว่า ไม่ได้รู้สึกกลัวหรือจะมีอาถรรพ์อะไร ตนอยู่ตรงนี้นึกถึงหลักพระพุทธศาสนา ก็คือการดับธาตุขันธุ์ ส่วนตามหลักการแพทย์ก็มีการขออนุญาตตำรวจ และแพทย์ในการผ่าร่างเด็กออกมาตามความประสงค์ของญาติ ซึ่งร่างของทั้งคู่จะนำไปที่วัดเถรพลาย โดยทางร่างแม่จะนำไปทำการสวดอภิธรรม และฌาปนกิจ ส่วนลูกจะนำไปฝังในวัด ซึ่งทางอาสาชุดตนจะมีบริการแต่งหน้าศพทุกศพให้ก่อนที่ญาติจะนำไปบำเพ็ญกุศล ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง เพื่อให้ร่างดูสวยงาม ญาติจะได้คลายความเศร้าลง
พร้อมกันนี้ยังได้ฝากเตือนเป็นอุทาหรณ์ หากจะเผาขยะต้องระวังต้องดูในกองไฟว่ามีอะไรบ้าง เพราะที่จริงเขารณรงค์ไม่ให้เผาให้เก็บรวบรวมนำไปทิ้งในถังขยะดีกว่า ครั้งนี้อยากให้เป็นอุทาหรณ์เกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ก่อนที่ทางก็ภัยจะนำร่างผู้เสียชีวิต 2 แม่ลูกส่งวัดเถรพลายดำเนินการตามประเพณี และจะฌาปนกิจและฝังร่างในวันที่ 13 พ.ค.นี้
Advertisement