อ.เจษฎา เบรกเอี๊ยด ช่วยย้ำอีกเสียง ไม่ได้นะครับ! ปมดรามาทุเรียนขึ้นรา แม่ค้าบอกให้ตัดทิ้งแล้วกินส่วนอื่น
จากกรณีที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์เล่าเรื่องราวในกลุ่มเฟซบุ๊ก “พวกเราคือผู้บริโภค” แชร์ประสบการณ์การซื้อทุเรียนผ่านร้านค้าออนไลน์ โดยสภาพผลไม้ที่ได้มานอกจากจะแตกทั้งลูกแล้ว ยังขึ้นราจนกินไม่ได้อีกด้วย ที่พีกคือเมื่อแจ้งทางร้านกลับได้คำตอบที่ทำเอาพูดไม่ออก
โดยหญิงสาวเจ้าของโพสต์เล่าว่า "แบบนี้บ่นได้ไหมคะ ซื้อทุเรียนจากร้านนึง สภาพมากแตกทั้งลูก และขึ้นรา ทางร้านจะให้เราตัดเฉพาะส่วนที่ราขึ้นและกิน เราบอกรามันลาม สุดท้าย เราส่งกลับทางร้าน โดยการค่าส่งกลับลูกค้ารับผิดชอบเอง และเรายังคิดว่าไม่ได้อยากได้เงิน อยากเปลี่ยนลูกใหม่ เพิ่มเงินเอา”
“สรุป ซื้อทั้งหมด 333 บาท รวมค่าส่งแล้ว ถ้าเคลมคืนจะได้คืนแค่ค่าทุเรียน ค่าส่งมาและส่งกลับลูกค่ารับผิดชอบเอง สรุปกินก็ไม่ได้กิน อยู่ๆ ต้องมาเสียค่าส่งไปกลับเอง ขอบ่นๆๆๆๆๆ หน่อยนะคะ"
ล่าสุดวันที่ 15 พ.ค. 67 ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ความรู้ในประเด็นดังกล่าวผ่านทางเฟซบุ๊ก “Jessada Denduangboripant” โดยระบุชัดเจนว่า
"ไม่ได้นะครับ ! ถ้าเป็นผลไม้เนื้อนุ่ม แล้วเห็นเชื้อราขึ้น แสดงว่าเส้นใยของเชื้อรามันแพร่ไปด้านในของเนื้อผลไม้แล้ว ซึ่งเราจะมองไม่เห็น และสร้างอับสปอร์ขึ้นมาด้านบน เราจึงมองเห็นได้ ถ้าตัดทิ้งแล้วกินที่เหลือ จะเสี่ยงอันตรายจากการได้รับสารพิษจากเชื้อรา จึงควรทิ้งทั้งหมดครับ"
พร้อมแนบข้อมูลคำแนะนำของ กระทรวงการเกษตร ประเทศสหรัฐอเมริกา (USDA) เกี่ยวกับอาหารที่ขึ้นรา การทานอาหารขึ้นรา ควรหลีกเลี่ยง เพราะไม่คุ้มต่อสิ่งที่เกิดขึ้นกับร่างกาย หากรู้สึกไม่ดี หลังทานอาหารที่อาจหมดอายุและมีเชื้อราขึ้นควรไปปรึกษาแพทย์เฉพาะทาง เมื่อเห็นว่าอาหารขึ้นรา ห้ามดมกลิ่น เพราะอาจก่อให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับระบบทางหายใจ
การกำจัดอาหารขึ้นรานั้น ควรนำใส่ถุงพลาสติกให้มิดชิด ก่อนที่จะนำใส่ถังขยะ เพื่อป้องกันการกระจายตัวของเชื้อราทำความสะอาดให้รอบบริเวณที่อาหารขึ้นรา และตรวจสอบอาหารและสิ่งของใกล้เคียงให้แน่ใจว่าไม่มีเชื้อราตกค้าง
Advertisement