หนุ่มครีเอเตอร์ติ๊กต็อกร้อง อ้างถูกกู้ภัยหลอกต่อยคาหน่วยจนเส้นเลือดในตาแตก หลังไลฟ์วิจารณ์การทำงาน
ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากนายกิตติพงศ์ ฉวนศรี ผู้เสียหาย โดยกล่าวว่าเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2567 เวลาประมาณ 18.30 น.ได้มีคนโทรมาบอกตนว่ามีผู้ว่าจ้างให้ไปไลฟ์สดในเขตพื้นที่ อ.บางน้ำเปรี้ยว และให้มาคุยรายละเอียดที่มูลนิธิกู้ภัยฯ ต่อมาตนไม่เอะใจอะไร จึงได้เดินทางมาที่มูลนิธิกู้ภัยและพบกับกลุ่มเจ้าหน้าที่กู้ภัยจำนวนหลายนายนั่งรอตนอยู่ก่อนแล้ว และมีการพูดคุยในเรื่องที่ตนไปไลพัในแอปพลิเคชั่นติ๊กต็อกในช่องของตน ถึงการวิจารณ์การทำงานของเจ้าหน้าที่กู้ภัยกรณีช่วงบ่ายของวันดังกล่าวได้เกิดเหตุมีรถกระบะชนจักรยานยนต์และมีผู้ได้รับบาดเจ็บนอนรอรถพยาบาลอยู่กลางถนนนานกว่าครึ่งชั่วโมง ซึ่งทำให้ตนเป็นห่วงผู้ได้รับบาดเจ็บ แต่ไม่มีรถกู้ภัยที่รับผิดชอบมารับคนเจ็บ
แต่ระหว่างที่นั่งคุยกันอยู่นั้น ได้มีเจ้าหน้าที่กู้ภัยรายหนึ่งไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง เดินเข้ามาต่อยตนเข้าที่เบ้าตาขวาได้รับบาดเจ็บเลือดออกในชั้นเยื่อบุตาขา วโดยตนก็ได้กล่าวคำขอโทษไปแล้ว แต่ก็ยังเข้ามาทำร้ายตนจนทำให้ตนได้รับบาดเจ็บ
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้สัมภาษณ์นายน๊อตผู้ที่ถูกใช้ให้โทรตามผู้เสียหายเข้ามา โดยนายน๊อตได้กล่าวว่าเริ่มต้นเมื่อเวลาประมาณ 18.00 น.ทางหน่วยกู้ภัยได้โทรมาหาตน โทรมาว่ามีธุระจะคุยให้มาหาที่หน่วยหน่อย พอตนไปถึงเขาได้สอบถามตนว่ามีเฟซบุ๊กหรือมีไลน์คนชื่อกบไหม ซึ่งตนก็บอกว่ามี และก็ถามว่ามีอะไรหรือเปล่า ซึ่งเขาก็บอกว่าช่วยติดต่อให้หน่อยจะให้ไปรีวิวร้านอาหารที่บางน้ำเปรี้ยว ตนก็เลยทำการติดต่อให้เพื่อจะได้ให้เข้ามาคุยรายละเอียดกัน เพราะเขาก็บอกอยู่ว่าให้ติดต่อมาคุยกันที่หน่วย
แต่พอผู้เสียหายเข้ามา ปรากฏว่ามันไม่ใช่คุยเรื่องรีวิวร้านอะไรเลย ตนก็เลยถามเจ้าหน้าที่กู้ภัยอีกคนว่ามันมีเรื่องอะไรกัน ก็ได้คำตอบว่าเกี่ยวกับการไลฟในติ๊กต็อกไปพาดพิงอะไรแบบนี้ ซึ่งตนไม่ได้อยู่ในจุดที่คุยกัน แต่อยู่ภายในบริเวณ ซึ่งเขาได้พาคู่กรณีไปคุยกันระหว่างผู้ใหญ่กับผู้ใหญ่ ส่วนตนไม่ได้เข้าไปยุ่งเพราะมันไม่ใช่เรื่องของตน ตนก็แค่ติดต่อให้มาคุยเพราะคิดว่ามาคุยเรื่องการไลฟ์สดร้านค้า ในระหว่างที่คุยนั้นตนก็เห็นยืนกันเต็มไปหมด ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ภายในหน่วยงานทั้งนั้น ซึ่งตนก็ได้ยินอะไรไม่ถนัด เพราะคนเยอะ ส่วนตอนที่ทำร้ายร่างกายนั้นตนไม่เห็น เพราะตนไม่ได้อยู่แต่ได้ยินเสียงเสียงดังและก็ได้ยินว่ามีการห้ามไม่น่าไปทำแบบนี้ จากนั้นตนก็รีบออกมาเนื่องจากสถานการณ์ไม่ดีแล้ว
จากนั้นช่วงเวลา 19.12 น.หน่วยกู้กัยฉะเชิงเทราได้ออกหนังสือชี้แจงลงยังเพจหน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทรา โดยมีข้อความดังนี้
ขอชี้แจงในกรณีช่องติ๊กต็อก"กบแปดริ้ว"ว่ากล่าวกู้ภัยบ้านโพธิ์ซึ่งเป็นพื้นที่รับผิดชอบ ของหน่วยกู้กัยฉะเชิงเทรา ซึ่งเนื้อหาที่ปรากฎมิได้เป็นความจริงจากกรณีที่ช่องติ๊กต็อก"กบแปดริ้ว"ได้ไฟล์สดเมื่อวันที่ 23 พ.ค.2567 โดยเนื้อหาของการไลฟ์สดมีการกล่าวหาหน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทรา ใจความบางช่วงบางตอนดังนี้
กู้ภัยบ้านโพธิ์ไม่ออกมารับคนต้องให้หน่วยกู้ภัยที่อื่นมารับแทน ,น้ำมันมันไม่มีหรืออย่างไรหรือขี้เกียจ กู้ภัยไม่ยอมออกเสือกให้คนอื่นเค้าไปส่งอีก ,รถพยาบาลมันไม่ได้มีกันเดียวซึ่งในพื้นที่ อ.บ้านโพธิ์นั้นมีหน่วยกู้กัยที่รับผิดชอบพื้นที่เพียงหน่วยงานเดียว คือหน่วยกู้กัยฉะเชิงเทรา
โดยในไลฟ์สดดังกล่าวมีผู้ชมสด 480 กว่าคน ซึ่งเนื้อหาที่"กบแปดริ้ว"กล่าวนั้นไม่ได้มีความจริงแต่อย่างไร และทำให้ทางกู้ภัยฉะเชิงเทราเสียหายเป็นอย่างมาก เนื่องจากเคสดังกล่าวศูนย์สั่งการการแพทย์ฉุกเฉิน จ.ฉะเชิงเทรา ได้ประสานงานมาทางศูนย์วิทยุหน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทราแล้วและทางหน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทรา ได้ทำการประกาศขึ้นวิทยุให้อาสาสมัครที่อยู่ใกล้เคียงจุดเกิดเหตุเข้าไปตรวจสอบ แต่เนื่องด้วยเวลาดังกล่าวไม่มีอาสาสมัครตอบรับทางกู้ภัยฉะเชิงเทรา จึงได้แจ้งกลับไปยังศูนย์สั่งการให้รถกู้ชีพร.พ.บ้านโพธิ์ออกดำเนินการ และทางรถกู้ชีพร.พ.บ้านโพธิ์ อาจจะติดเคสด่วนจึงโทรหาผู้แจ้งเหตุคือรถกู้ภัยของอาสาสมัครกู้ภัยจาก จ.ระยอง ให้ช่วยนำผู้บาคเจ็บส่งร.พ.บ้านโพธิ์แทน แต่ทาง"กบแปดริ้ว"อาจไม่ทราบเรื่องราวทั้งหมดได้ว่ากล่าวหน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทราผ่านช่องทางไลฟ์สด ทำให้เกิดความเสียหายเป็นอย่างมาก โดยเมื่อทาง"กบแปคริ้ว"รับทราบที่มาที่ไปของเรื่องราวทั้งหมดแล้ว ก็ยังมิได้แก้ไขเรื่องราวให้ถูกต้องแต่อย่างใด และทางสมาคมสงเคราะห์การกุศลฉะเชิงเทราได้ดำเนินการแจ้งความดำเนินคดีไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทางหน่วยกู้กัยฉะเชิงเทราจึงขอชี้แจงพี่น้องประชาชนว่าทางหน่ายกู้ภัยของเรายังคงยึดมั่นในอุดมการณ์กว่า 35 ปีที่เราช่วยเหลือพี่น้องในเขตพื้นที่ของกู้ภัยฉะเชิงเทราก็ดีหรือว่าพี่น้องผู้ประสบภัยพิบัติต่างๆทั่วประเทศไทยที่เราไปช่วยเหลือ ว่าพวกเราดำเนินการตามขั้นตอนและมาตรฐานที่สำนักงานการแพทย์ฉุกเฉินได้กำหนดไว้ทุกประการ และมีความยินดีที่จะช่วยเหลือคนเจ็บเก็บร่างฯคนตายทุกคน โดยไม่มีการเลือกปฏิบัติและขอขอบคุณพี่น้องประชาชนทุกท่านที่เป็นแรงสนับสนุนและเป็นกำลังใจให้หน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทราและอาสาสมัครกู้ภัยฉะเชิงเทราเสมอมา
นายกิตติพงศ์ ยังกล่าวต่อว่า ข้อความดังกล่าวที่หน่วยกู้ภัยออกมาชี้แจงนั้นไม่ได้ชี้แจงถึงเหตุการณ์ที่หลอกล่อตนเข้าไปทำร้ายร่างกายยังหน่วยงาน ข้อความดังกล่าวนั้นไม่ครบถ้วน ทำให้ตนได้รับความเสียหายอย่างมาก ทำให้สังคมเข้าใจตนผิด ตนพร้อมรับผิดหากมีการไลฟ์สดที่ผิดพลาดจากความผิดตนก็ควรดำเนินการตามกฎหมาย ไม่ใช่หลอกตนเข้าไปทำร้ายร่างกายตนแบบนี้ บ้านเมืองมีกฎหมาย มาใช้กฎหมู่กับตนแบบนี้ไม่ถูกต้อง ซึ่งขณะนี้ตนได้เดินทางไปพร้อมทนายความแจ้งความไว้ยัง สภ.เมืองฉะเชิงเทรา พร้อมตรวจร่างกาย จากนี้ตนขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองฉะเชิงเทราดำเนินการตามกฎหมาย ในส่วนที่เจ้าหน้าที่ทำร้ายตนและส่วนที่คิดว่าตนผิดก็ให้ดำเนินการตามกฎหมายไป.
Advertisement