หนุ่มใหญ่งงใบสั่งฝ่าไฟแดงส่งมาบ้าน ทั้งที่ขายรถไป10ปี ถามเต็นท์รถบอกเลี่ยงภาษี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
หนุ่มใหญ่อุดรธานี ร้องสื่อ มีใบสั่งฝ่าไฟแดงส่งมาที่บ้าน ทั้งที่รถขายไปแล้วเมื่อ 10 ก่อน โร่ถามเต็นท์รถกลับได้รับคำตอบว่าเลี่ยงภาษี
วันที่ 1 มิ.ย. 67 ที่จ.อุดรธานี นายวีระพล รักเสมอวงศ์ แอดมินเพจบ้านดุงอัพเดท ได้รับแจ้งจากนายโสภณ ญาติประชุม อายุ 49 ปี ชาวอำเภอบ้านดุงว่า มีใบสั่งกระทำความผิด ฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจรส่งมาที่บ้าน โดยรถที่ทำผิดเป็นรถยนต์ที่ขายให้เต็นท์รถมือสองไปเมื่อ 10 ปีก่อน ทำให้ได้รับความเดือดร้อน และเสียหาย หลังรับแจ้งจึงลงพื้นที่สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
นายโสภณ เล่าให้ฟังว่า ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้มากกว่า 10 ปี ตนมีรถกระบะ จากนั้นได้เอาไปขายให้เต็นท์รถมือสองแห่งหนึ่งในตัว อ.เมืองอุดรธานี ซึ่งการขายก็เป็นการขายขาด และตอนนั้นตนก็เซ็นมอบเอกสารให้ไปทุกอย่าง เราก็คิดว่าทางเต็นท์จะเปลี่ยนชื่อจากของเราไปเป็นเจ้าของคนใหม่
ต่อมาวันที่ 30 พ.ค. 67 มีใบสั่งจากสถานีตำรวจทางหลวง 3 กองกำกับการ 4 แจ้งมาว่าเราได้กระทำความผิด ขับรถฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร ที่บริเวณแยกสามพร้าว อ.เมือง จ.อุดรธานี
ตอนไปรษณีย์มาส่งใบสั่งที่บ้าน เราก็เซ็นรับไป เนื่องจากเป็นชื่อของเรา เมื่อเปิดดูหลักฐานกลับพบว่าเป็นรถที่เราขายไปแล้วเมื่อ 10 ปี ที่ผ่านมาตอนนั้นขายไปในราคา 100,000 บาท แต่ดูทะเบียนรถแล้ว ไม่ใช่ทะเบียนของเราที่เคยใช้ทะเบียน ตอนนั้นเราใช้หมวดอักษร กฉ 1779 สงขลา แต่ในใบสั่งนั้นทะเบียนรถหมายเลขทะเบียนอุดรธานี แม้ทะเบียนจะไม่ตรงกัน แต่ในใบสั่งเป็นชื่อ และบ้านเลขที่ของตน
นายโสภณ เล่าต่อว่า เห็นแล้วก็ตกใจจึงรีบไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองบ้านดุง จากนั้นได้เข้าไปสอบถามทางเต็นท์รถ โดยได้รับคำตอบจากพนักงานของเต็นท์รถแห่งนั้นว่า รถคันนั้นมีคนมาซื้อผ่อนจากเต็นท์ไปแล้ว ตนถามกลับไปว่าถ้าหากผ่อนกับเต็นท์ทำไมไม่โอนเปลี่ยนชื่อไปตั้งแต่ขาย แต่กลับได้รับคำตอบว่าเป็นการหลีกเลี่ยงภาษีอีกอย่างหนึ่ง
ซึ่งเราก็ไม่เข้าใจว่าเขาจะหลีกเลี่ยงภาษีได้อย่างไร แต่นี่คือคำตอบที่เราได้จากทางเต้นท์รถ ทั้งนี้เรื่องดังกล่าวทางเจ้าของเต็นท์รับรู้แล้ว เบื้องต้นตนได้เอาใบสั่งให้ทางเต็นท์รถไปจ่ายค่าปรับให้ โดยวันอังคารนี้เต็นท์รถบอกว่าจะโอนเปลี่ยนชื่อให้
“ตอนนี้รู้สึกกังวลมาก สมมติคนที่ซื้อแล้วเอารถคันนี้ไปใช้ขนยาเสพติด ผมจะไม่ต้องรับผิดไปด้วยเหรอ ที่สำคัญไม่รู้ว่าเต็นท์รถทำแบบนี้กับใครบ้างหรือเปล่า”
Advertisement
