พ่อโฟโต้ นำข้าวเหนียวหมูปิ้งเยี่ยมให้กำลังใจลูก ก่อนตำรวจฝากขังวันนี้

พ่อโฟโต้ นำข้าวเหนียวหมูปิ้งเข้าเยี่ยมให้กำลังใจลูก ก่อนตำรวจนำตัวฝากขังวันนี้ เจ้าตัวขอโทษที่ทำให้พ่อผิดหวัง

คอนเทนต์แนะนำ

ดับแล้ว 5 ศพ! นักท่องเที่ยวต่างชาติสังเวยชีวิตให้เหล้าผสมเมทานอลในลาว

ทำถึง! ทีมเชียร์ลีดเดอร์ขอนแก่นวิทยายน จากไวรัลชุดบอดี้มนุษย์และเปรต

รมช.คลัง แนะเข้าเว็บ Welfare.mof.go.th ยืนยันสิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

จากกรณี นายภูริณัฐ กาญจนบรรยงค์ หรือ โฟโต้ อายุ 28 ปี ก่อเหตุใช้อาวุธมีดกระหน่ำแทงนาย ไพศาล ทองอ่อน หรือ โต๊ส อายุ 54 ปี พ่อค้าออนไลน์ เสียชีวิตในห้องพักคอนโดมิเนียม ย่านนนทบุรี เมื่อวันที่ 20 พ.ค. ที่ผ่านมา โดยนำศพไปหมกไว้ในห้องพักนานหลายวัน ก่อนหลบหนีไป จ.ชุมพร จนศพส่งกลิ่นเหม็นเน่าโชยออกมา 

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวนาย ภูริณัฐ หรือ โฟโต้ ผู้ต้องหาฆาตกรรมนายไพศาล เดินทางจาก จ.ชุมพรมา สภ.เมืองนนทบุรีจ.นนทบุรี 

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 2 มิ.ย.67 ที่ สภ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี นายพรชัย อายุ 62 ปี พ่อของนายโฟโต้ ผู้ต้องหา ได้เดินทางมาเยี่ยมลูกชาย ที่ห้องผู้ต้องขัง โดยนำข้าวเหนียวหมูปิ้ง น้ำดื่ม มาให้ลูกชายพร้อมให้กำลังใจ ก่อนตำรวจนำตัวฝากขังต่อศาลจังหวัดนนทบุรีก่อน 12.00 น. วันนี้

นายพรชัย เปิดเผยว่า วันนี้ลูกชายรู้สึกกังวลว่าจะต้องไปอยู่ข้างใน ส่วนเรื่องแฟนเพิ่งจะคบกันได้แค่ 1 เดือน ยังไม่ได้เป็นแฟนกัน ตนเคยเห็นแค่ครั้งเดียว ทางลูกชายขอโทษตนที่ทำให้ผิดหวังและเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ลูกชายตั้งใจว่าเก็บเงินได้ ตั้งใจว่าจะไปเรียนต่างประเทศ เรื่องคดีความให้เป็นไปตามกฎหมาย ถ้ายื่นประกันตัวออกมาก็ต้องไปติดคุกอยู่ดี ส่วนเรื่องทางญาติของผู้เสียชีวิตทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะนัดตนเพื่อให้คุยกับทางญาติของผู้เสียชีวิต แต่จะให้เสร็จงานศพก่อน แต่ถ้าจะให้ตนไปงานศพตนก็พร้อมที่จะไป ตนอยากขอโทษทางญาติ เมื่อกี้เจอลูกชายเอาหมูมาให้ทาน ให้รีบทาน เพราะว่าเดี๋ยวจะต้องไปเรือนจำและได้พูดให้กำลังใจลูก

ทั้งนี้เมื่อวานนี้ (1 มิ.ย. 67 ) สภ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี พล.ต.ท.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผบช.ภ.1 ได้แถลงข่าวผลการจับกุมตัวนายภูริณัฐว่า คดีนี้เป็นคดีที่สนใจและติดตามของประชาชนและสังคม เราต้องใช้เวลาพอสมควร เนื่องจากเราทราบเหตุเมื่อวันที่ 26 พ.ค. 67 และใช้เวลา 5 วันในการติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหา ซึ่งจับที่ จ.ชุมพร 

คดีนี้เหตุเกิดวันที่ 20 พ.ค.67 แต่มาทราบเหตุในวันที่ 26 พ.ค.ดังนั้นศพผู้เสียชีวิตอยู่ในสภาพที่เน่าพอสมควร ขณะนี้อยู่ระหว่างการน์ตรวจพิสูจน์ ซึ่งเบื้องต้นพบว่ามีบาดแผล 15 แห่ง ส่วนที่เราต้องใช้เวลาในการติดตามตัวผู้ต้องหาหลายวันนั้น ผู้ต้องหามีการหลบหนี เปลี่ยนชุด เปลี่ยนวิธีการเดินทางและลักษณะท่าทางในการเดินทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องใช้เวลาติดตาม แต่ยืนยันว่า รักษาราชการแทน ผบ.ตร. ให้ความสำคัญในคดีนี้ และตำรวจภูธรภาค 1 ได้มอบหมายพล.ต.ต.อภิชาติ วรรณภักดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 และรักษาการผู้บังคับการตำรวจนนทบุรี พร้อมทั้งทีมงานติดตามอย่างต่อเนื่อง จนได้ตัวผู้ต้องหา พร้อมของกลาง 

และจากการสอบถามเบื้องต้น ผู้ต้องหาก็รับสารภาพในการฆ่าผู้เสียชีวิต แต่สาเหตุต่างๆ ก็แล้วแต่ในส่วนผู้ต้องหาจะให้การ ซึ่งในขณะนี้เรื่องพยานหลักฐานก็มีเพียงพอ จากการดำเนินการทุ่มเทอย่างต่อเนื่องเราสามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาได้พร้อมของกลาง และจะดำเนินคดีโดยเคร่งครัด 

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ แจ้งข้อกล่าวหา 3 ข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยมีอาวุธและใช้ยานพาหนะ พกพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร 

สำหรับมูลเหตุจูงใจคือเรื่องการทำธุรกิจร่วมกัน เป็นคำให้การของผู้ต้องหาว่าคืนวันเกิดเหตุ ผู้ต้องหามาทวงเงินในส่วนที่ร่วมลงทุนไป แต่เราต้องไปตรวจสอบต่อไปว่ามีการโอนเงิน และทำธุรกิจร่วมกันจริงหรือไม่ การสืบสวนสอบสวนเราจะเน้นเรื่องพยานหลักฐานเป็นหลัก อย่างไรก็ตามผู้ต้องหารู้สึกสำนึกผิด รู้สึกเสียใจ และขอโทษผ่านมาทางคุณพ่อที่สร้างความวุ่นวายให้กับสังคม.