แก๊งมอดไม้เหิมเกริม ย่องตัดไม้ใน ป่าสงวนแห่งชาติ ไม่สนกฎหมายบ้านเมือง
คอนเทนต์แนะนำ
แก๊งมอดไม้เหิมเกริมหนัก ย่องลักลอบตัดไม้ใน ป่าสงวนแห่งชาติ แถมขับรถชนอดีตเจ้าหน้าที่ป่าไม้ เปิดทางหลบหนี ไม่สนกฎหมายบ้านเมือง
วันที่ 7 ก.ค. 67 นายอรุณ สิงห์โต ผอ.ส่วนป้องกันรักษาป่า และควบคุมไฟป่า พร้อมด้วย นายศุภกร ศรีสุระ พนักงานพิทักษ์ป่า เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ พบ.1 (ยางชุม) เจ้าหน้าที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดเพชรบุรี ชุดปฏิบัติการพิเศษป่าไม้ สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 10 สาขาเพชรบุรี ฝ่ายปกครองอำเภอชะอำ
ได้สนธิกำลังลงพื้นที่ตรวจสอบ ป่าสงวนแห่งชาติป่าชะอำ-บ้านโรง และเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบ้านโรง กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชพิ กัดโซน47P595786E1418724N พิกัดตำแหน่งแปลงที่ดิน (GPS) ระบบUTM พื้นหมุดหลักฐาน WGS84 แปลงที่ดิน ทั้งสิ้น 4 จุด เนื้อที่ประมาณ 1ไร่ 68 ตารางวา ในพื้นที่ ม.5 บ้านไร่เนิน ต.เขาใหญ่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี หลังได้รับแจ้งจาก อดีตเจ้าหน้าที่ป่าไม้ สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 10 สาขาเพชรบุรีว่า มีกลุ่มชายหญิงร่วม 3 ราย แอบมาลักลอบตัดไม้ในพื้นที่ ป่าสงวนแห่งชาติป่าชะอำ-บ้านโรง มีไม้อยู่เต็มรถกระบะตอนครึ่งสีน้ำเงินยี่ห้อนิสัน ไม่ติดป้ายทะเบียน ได้พยายามขับหลบหนี ขณะเข้าไปพบ
โดยขับรถทับรถจักยานยนต์ของอดีตเจ้าหน้าที่ป่าไม้ฯ จนรถได้รับความเสียหาย ก่อนขับรถกระบะหลบหนีไป เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบ ต้นยูคาขนาดใหญ่กว่า 20 ต้นถูกตัดโค้นไปเหลือแต่ตอไม้ ตรวจพบของกลางมีดง้าว จำนวน 1 เล่ม เลื้อยจำนวน 1 ปื้น ของผู้ก่อเหตุจึงตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน
ด้านอดีตเจ้าหน้าที่ป่าไม้ฯ เปิดเผยว่า ขณะพบกลุ่มบุคคลทั้ง 3 พบว่าเป็นผู้ชาย 2 คนหญิง 1 คน ซึ่งมีไม้อยู่เต็มกระบะรถ กลุ่มบุคคลดังกล่าวพบเห็นตนได้นั่งคร่อมจักรยานยนต์อยู่ และตนจึงได้ตะโกนถามว่าเข้ามาตัดไม้ในพื้นที่นี้ได้อย่างไร ซึ่งพื้นที่อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติฯ จากนั้นกลุ่มบุคคลดังกล่าวได้ทำการหลบหนี โดยถอยรถกระบะคันดังกล่าวชน และทับรถจักรยานยนต์ของตน ซึ่งจอดขวางอยู่ได้รับความเสียหาย เพื่อเปิดทางหลบหนี แต่โชคดีตนกระโดดหลบได้ทัน ก่อนตนโทรแจ้งประสานเจ้าหน้าที่ และได้ทำการถ่ายรูปไว้บางส่วนให้มาตรวจสอบดังกล่าว
เบื้องต้นคาดว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุเป็นคนในพื้นที่ก่อน เข้าแจ้งความเอาผิดแก่กลุ่มผู้ก่อเหตุที่ สภ.ชะอำ จ.เพชรบุรีในข้อหาแผ้วถาง หรือเผาป่าหรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่าหรือเข้ายึดถือครอบครองป่า เพื่อตนเองโดยไม่ได้รับอนุญาตครอบครองป่าที่ได้ถูกแผ้วถางทำไม้ หรือเจาะสับเผาทำอันตรายโดยประการใดๆ แก่ไม้หวงห้ามยึดถือครอบครองทำประโยชน์หรืออยู่
Advertisement
