ซ้อลักษณ์เซ็นใบลาออก ยกเลิกเรียน มหาวิทยาลัยพิษณุโลก พร้อมขอเงินคืน
คอนเทนต์แนะนำ
ซ้อลักษณ์เซ็นใบลาออก ยกเลิกเรียน มหาวิทยาลัยพิษณุโลก พร้อมขอเงินคืน บอกต้องนำเงินไปจ่ายค่าเทอมลูก ด้านมหาวิทยาลัยย้ำไม่เกี่ยวซื้อขายวุฒิ
วันที่ 10 ก.ค. 67 ที่มหาวิทยาลัยพิษณุโลก ต.สมอแข อ.เมือง จ.พิษณุโลก นายรภัสสิทธิ์ ภัทรสิริชัยสิน รองประธานมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พร้อมด้วย นายชาญชัย ฉายบุ ทนายความที่ปรึกษามูลนิธิฯ น.ส.วิไลลักษณ์ ไชยชาญ หรือ ซ้อลักษณ์ อายุ 42 ปี นักธุรกิจจังหวัดสกลนคร และ นายแม่ปุ๊กกี้ เดินทางมายื่นหนังสือ เพื่อให้ทางมหาวิทยาลัยพิษณุโลก ตรวจสอบเพิ่มเติม
กรณีที่พบว่าอาจารย์ 1 คนถูกไล่ออกจากมหาวิทยาลัย กรณีของ ซ้อลักษณ์ เกี่ยวกับการถูกหลอกซื้อขายวุฒิปริญญาตรี ซึ่งซ้อลักษณ์และมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม มีมุมมองว่าน่าจะมีผู้ร่วมกระทำนี้ด้วยหรือไม่
เบื้องต้นคณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยพิษณุโลก และสภามหาวิทยาลัยพิษณุโลก นำโดยดร.มานพ เกตุเมฆ รองอธิการบดีฝ่ายบริหาร มหาวิทยาลัยพิษณุโลก ได้มารอรับหนังสือร้องเรียนดังกล่าว พร้อมทั้งได้ชี้แจงเรื่องราวทั้งหมดให้คณะที่เดินทางมาได้รับทราบว่า ทางมหาวิทยาลัยได้ทำการตรวจสอบแล้ว และได้ทำการเลิกจ้างอาจารย์ 1 ท่านไป เมื่อวันที่ 4 ก.ค. ที่ผ่านมา และได้แจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมายเอาไว้ที่ สภ.เมืองพิษณุโลก เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เพราะจากการตรวจสอบภายในพบว่า เอกสารหลักฐานการสมัครเรียนทั้งหมด อาจารย์ท่านนี้เป็นผู้ดำเนินการเองทั้งหมด ซึ่งปัจจุบันอยู่ในการขั้นตอนของการดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว
ส่วนกรณีของ ซ้อลักษณ์นั้น ทางมหาวิทยาลัยได้รับเอกสารหลักฐานสมัครเรียน บัตรประจำตัวนักศึกษา และมีชื่อของ น.ส.วิไลลักษณ์ อยู่ในประกาศรายชื่อบุคคลที่ผ่านการคัดเลือกเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยภาคการศึกษาที่ 2 ปีการศึกษา 2566 และชำระค่าธรรมเนียมแรกเข้า 1,500 บาท ซึ่งในห้วงเวลาดังกล่าว เป็นห่วงเวลาที่ มหาวิทยาลัยพิษณุโลกถูกบริหาร และควบคุมโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ที่ได้มีคำสั่งให้มหาวิทยาลัยพิษณุโลกอยู่ในความควบคุม และแต่งตั้งคณะกรรมการควบคุมฯ ทำหน้าที่สภามหาวิทยาลัย โดยคำแนะนำของคณะกรรมการการอุดมศึกษา จึงเป็นไปไม่ได้ที่ มหาวิทยาลัยจะเปิดการซื้อขายปริญญาบัตรตามคำกล่าวอ้าง
ซึ่งหลังจากได้รับฟังคำชี้แจงทั้งหมด ทางคณะของมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ซ้อลักษณ์ และปุ๊กกี้ได้เข้าใจเป็นอย่างดีแล้วว่า มหาวิทยาลัยพิษณุโลก ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกรณีหลอกหลวงซื้อขายปริญญาบัตรแต่อย่างใด โดยซ้อลักษณ์ ในนามของผู้เสียหายได้กราบขอโทษมหาวิทยาลัยพิษณุโลก จากใจจริง ขอโทษทุกคน และขอโทษสื่อมวลชน ทุกส่วนที่เกี่ยวข้องที่ทำให้มีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับมหาวิทยาลัยพิษณุโลก
ดร.มานพ เกตุเมฆ รองอธิการบดีฝ่ายบริหาร มหาวิทยาลัยพิษณุโลก เปิดเผยว่า จากกรณีที่เกิดขึ้นนอกจากมหาวิทยาลัยพิษณุโลกได้รับความเดือดร้อน นักศึกษาที่เรียน และกำลังฝึกงาน และนักศึกษาที่เรียนจบไปแล้วกำลังทำงาน หรือรับราชการอยู่ ก็ได้รับความเดือดร้อนเช่นเดียวกัน และจากการเข้าพบของคณะในครั้งนี้ จึงขอยืนยันกับนักศึกษาและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายได้รับทราบว่า กรณีหลอกลวงซื้อขายปริญญาบัตรของซ้อลักษณ์นั้น มหาวิทยาลัยพิษณุโลก ไม่มีการซื้อขายวุฒิการศึกษา
นายชาญชัย ฉายบุ ทนายความที่ปรึกษามูลนิธิฯ แจ้งต่อคณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยพิษณุโลก ซ้อลักษณ์มีความประสงค์จะขอรับเงินคืน โดยจะทำเรื่องเขียนใบลาออกและขอรับเงินคืนจำนวน 130,000 บาท เนื่องจากไม่สะดวกที่จะมาเรียน เพราะพักอาศัยอยู่ที่ จ.สกลนคร ซึ่งห่างไกลจาก จ.พิษณุโลกมาก และได้ขอบคุณทางมหาวิทยาลัยพิษณุโลก ที่เข้าใจความเดือดร้อนของผู้เสียหาย ตามที่มหาวิทยาลัยพิษณุโลกให้คำแนะนำว่ายังอยู่ในช่วงที่สามารถยกเลิกการจ่ายเงินสมัครเรียนได้อยู่
ด้าน ซ้อลักษณ์ เปิดเผยว่า ตนเองกำลังได้รับความเดือดร้อน เพราะไม่มีเงินเหลือเลย เงินที่ได้คืนในวันนี้จะนำเอาไปใช้ในชีวิตประจำวัน และนำไปใช้จ่ายค่าเทอมให้ลูกด้วย
ดร.มานพ เกตุเมฆ รองอธิการบดีฝ่ายบริหาร มหาวิทยาลัยพิษณุโลก เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้ (11 ก.ค. 67) จะเดินทางไปชี้แจงคณะกรรมมาธิการ ที่รัฐสภาในเรื่องนี้ให้ได้รับทราบเรื่องราวดังกล่าวด้วย
Advertisement
