เจ้าของบริษัทรถเช่า ร้องนักท่องเที่ยวชาวจีนถูกชายฉกรรจ์อ้างตัวเป็นตำรวจ ดักปล้นรถยนต์กลางทาง พาไปค้นห้องพักรีดเงินไปกว่า 700,000 บาท
นายบี (นามสมมุติ) เจ้าของบริษัทรถเช่าแห่งหนึ่ง เล่าว่า เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคมที่ผ่านมา ปล่อยเช่ารถพร้อมคนขับให้กับนักท่องเที่ยวชาวจีน ต้นทางที่สนามบินเชียงรายเพื่อไปส่งเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี ระหว่างเดินทาง ปรากฏว่า มีรถยนต์จำนวน 2 คัน ซึ่งมีชายฉกรรจ์ประมาณ 5 คน ขับรถปาดหน้าและขวางทางบนทางด่วนมอเตอร์เวย์ ช่วงเลยด่านเก็บเงิน 105 บาท
จากนั้นผู้ชายในรถคันที่จอดขวาง เดินลงมาอ้างเป็นตำรวจท่องเที่ยวเมืองพัทยา ก่อนทำการค้นตัวและยึดโทรศัพท์มือถือ เพื่อไม่ให้มีการติดต่อสื่อสาร ทั้งได้มีการคุมตัวคนขับรถและนักท่องเที่ยวจีนไปยังเซฟเฮาส์แห่งหนึ่งในเมืองพัทยา โดยไม่ทราบแน่ชัดว่าเป็นจุดไหน ก่อนที่กลุ่มชายอ้างเป็นตำรวจจะทำการค้นตัวอีกรอบ พบนักท่องเที่ยวจีนมีเงิน US ดอลล่า ตีเป็นเงินไทยประมาณ 700,000 บาท และเงินหยวนไม่ทราบจำนวน
ระหว่างพานักท่องเที่ยวจีนไปค้นตัวและกระเป๋า หนึ่งในกลุ่มนั้นอ้างเป็นตำรวจท่องเที่ยว ได้โทรศัพท์ไปหาล่ามแปลภาษา ให้เดินทางมายังเซฟเฮาส์จุดที่ถูกควบคุมตัว เพื่อทำการพูดคุยกับนักท่องเที่ยวชาวจีน หลังจากพูดคุยแค่เพียง 10 นาที ก่อนจะพูดสื่อสารเป็นภาษาจีน โดยการพูดคุยประมาณว่า “ให้นักท่องเที่ยวจีนยินยอมจ่ายเงินให้กับกลุ่มที่อ้างเป็นตำรวจ เพื่อแลกกับการไม่ต้องโดนคดี ” ก่อนที่นักท่องจีนจะยอมให้เงินไป 7 แสนบาท และกลุ่มคนที่อ้างเป็นตำรวจจะพาคนขับรถและนักท่องเที่ยวจีนไปส่งที่ห้างสรรพสินค้า แห่งหนึ่งในพัทยา
โดยเจ้าของบริษัทรถเช่า บอกว่า ตนได้ทราบเรื่องนี้จากคนขับรถ เพราะยังไม่ได้รับค่าจ้าง และขณะนี้ไม่มีใครติดต่อคนขับรถได้หลังเกิดเรื่อง มีรายงานอย่างไม่เป็นทางการว่าคนขับรถถูกตำรวจท่องเที่ยวเมืองพัทยาคุมตัวอยู่ จึงอยากให้นำตัวคนขับรถดังกล่าวมาสอบปากคำที่ สภ.เมืองพัทยา เพราะตอนนี้ไม่รู้ว่า คนที่ควบคุมตัวไปเป็นตำรวจจริงหรือไม่ และกังวลเรื่องความปลอดภัยอีกด้วย
นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เปิดเผยความคืบหน้าทางคดีล่าสุดว่าได้ติดต่อไปยังรองผู้กำกับฯสืบสวน สภ.เมืองพัทยา ให้เร่งติดตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งตอนนี้ตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่าจุดเกิดเหตุอยู่บริเวณช่วงหนองปรือชลบุรี โดยตอนนี้รู้เส้นทางของรถต้องสงสัยทั้ง 2 คันแล้ว
เบื้องต้นจากพฤติการณ์ตำรวจเมืองพัทยา ตั้งข้อสังเกตว่าอาจไม่ใช่ตำรวจจริง และอาจจะมีลักษณะเกลือเป็นหนอนหรือไม่ เนื่องจากหนึ่งในชาวจีนที่เดินทางไปด้วยกันไม่ได้ถูกยึดทรัพย์ไป.
Advertisement