ลิลลี่ เหงียน ซัด ปู มัณฑนา ถามถ้าถังไม่แตก ทำไมไม่จ่ายหนี้ แฉยับเอิร์ก เลเดอเรอร์ หลอกเชิดเงิน 37 ล้าน ด้านลูกหมียันไม่มีเซ็นเอกสารเปล่า ขณะที่ น.ส.อ้อม จัดชุดใหญ่ฉ้อโกง ฟากเหยื่อหนุ่มโผล่อีกราย
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 15 ก.ค. 67 ลูกหมี รัศมี ทองสิริไพรศรี พร้อมด้วย น.ส. ลิลลี่ วันมะนี พอนสะหวัน หรือ ลิลลี่ เหงียน นักธุรกิจสาวสัญชาติลาว เชื้อชาติเวียดนาม อำนวยพร มณีวรรณ์ หรือ ทนายกุ้ง ทนายความ น.ส.อ้อม และนายโทนี่ ผู้เสียหาย ที่อ้างว่าเป็นเจ้าหนี้ของ ปู มัณฑนา หิมะทองคำ ร่วมกันให้สัมภาษณ์
โดย น.ส.อ้อม กล่าวว่า สาเหตุที่ตนต้องออกมาพูด เนื่องจากถูกพาดพิง หรือถูกเอ่ยชื่อตนขอชี้แจงกรณีที่บอกว่า ตนปล่อยเงินกู้ และปล่อยดอกอยู่แล้วนั้น ไม่เป็นความจริง เพราะตนบอกเขาแล้วว่า ไม่ได้มีอาชีพปล่อยเงินกู้ ซึ่งเขาเข้ามาหาตนครั้งแรกเพื่อที่จะยืมเงิน และตนก็ให้ยืมช่วยเหลือกันไป ส่วนเรื่องดอกเบี้ยครั้งแรกเขาเสนอให้เอง 3% และมีข้อความยืนยันด้วยว่า เขาเดือดร้อนและขอความช่วยเหลือจริง เขาเป็นคนเสนอให้เอง ซึ่งก็ไม่ได้เป็นยอดที่เยอะ และมีการคืนเงินกันในครั้งแรกแล้ว แต่หลังจากนั้นก็มีความพยายามจะยืมเงินตนอีกเป็นครั้งที่สองอีกเรื่อยๆ เหมือนกับเขามีปัญหา และบอกว่ามีความจำเป็นต้องใช้เงิน
จากนั้นเขาพูดเรื่องลงทุนทำธุรกิจคอลลาเจนว่า กำไรและปันผลดีมาก อ้างว่ามีลูกค้าสั่งของเยอะขึ้น มีหลักฐานการพูดคุยร่วมกันทุกอย่าง ส่วนที่เขาบอกว่าเป็นเงินดอกเบี้ยการกู้ยืมเงินนั้น ตนให้เขาเขียนในข้อความว่าเป็นปันผลเป็นกำไร การที่เขาพูดแบบนี้มันไม่ถูก และที่บอกว่าให้เซ็นกระดาษเปล่า เขาไม่ใช่เด็กอายุ 3 ขวบที่ใครจะให้เขียนอะไรก็เขียน จะให้เซ็นอะไรก็เซ็น ซึ่งมันฟังไม่ขึ้น เขามีพฤติกรรมชอบกล่าวอ้างถึงบุคคลที่สอง บุคคลที่สาม หรือพูดยังไงก็ได้ เพื่อที่จะให้ได้เงินมา ซึ่งตนมีหลักฐานชัดเจน เขาชอบอ้างบุคคลในครอบครัว
คนที่พูดความจริงมักจะมีหลักฐานออกมาโชว์ ตนถามว่าในส่วนของเขามีหลักฐานออกมาโชว์หรือไม่ เพราะที่ผ่านมาเขาไม่เคยโชว์หลักฐานเลยว่าเป็นจริงเหมือนที่เขาพูดหรือไม่ มีแต่น้ำตาที่ออกมา เพราะหลักฐานนี้คือการแสดงใครพูดจริง ใครพูดจริงหรือไม่จริง ที่ผ่านมา ตนแจ้งความไว้แล้วไว้ที่ สน.ทองหล่อในข้อหาฉ้อโกง กรณีการร่วมลงทุนและผลกำไร เพราะธุรกิจนี้ตรวจสอบแล้วไม่มีอยู่จริง
“ฝากถึงพี่ปูว่า ถ้าพี่ปูรักลูกและสามีต้องทำเรื่องนี้ให้จบให้เร็วที่สุด อย่ายืดเยื้อกันไปอีกเลย” น.ส.อ้อม กล่าว
ด้าน ทนายกุ้ง กล่าวว่า วันพรุ่งนี้ (16 ก.ค. 67) ตนจะไปตามนัดเวลา 16.00 น. ที่ สน.ทองหล่อ ไปไกล่เกลี่ยเหมือนเดิม แต่จะไกล่เกลี่ยได้หรือไม่ ก็รอวันพรุ่งนี้อีกทีนึง ถ้าพรุ่งนี้ไกล่เกลี่ยไม่สำเร็จ กระบวนการก็ยังเดินหน้าต่อไปตามกฎหมาย
ลูกหมี รัศมี กล่าวว่า ยอดเงินโอนไปโอนมาจนเขาติดหนี้ตน 2 ล้านบาท ตนจึงให้เขาเขียนเช็กรวมยอดมาให้ตนทั้งหมดเลย 2 ล้านบาท และทำสัญญาเงินกู้มาให้ตน ถามว่าคนเราถ้าเขาไม่ติดเงินเรา เขาจะเขียนเช็กให้เราหรือไม่ แต่นี่เขาติดเงินเรา สัญญาเงินกู้เขาอบกว่าเซ็นกระดาษเปล่า ตนยืนยันว่าตนเขียนเอกสารด้วยลายมือตนเองทั้งหมด ส่งไปให้เขา ตนยืนยันว่าไม่ได้ส่งกระดาษเปล่า แต่ประเด็นคือเช็กใบที่ 1 จำนวน 1 ล้าน และใบที่ 2 จำนวน 9 แสนเช็กเด้ง ลูกหนี้คนนี้ไม่จ่ายเงินตามกำหนด ตนจำเป็นต้องใช้เงินก้อนนี้จริงๆ จากนั้นเรารู้พฤติกรรมว่าเขาจะไม่จ่ายเงิน ตนจึงขอเงินก่อน 1 ล้านก็ได้ จนถึงวันที่ 4 เม.ย. -13 มิ.ย. เกือบ 2 เดือนที่แถลงข่าวเขามีเวลามากมายในการเคลียร์ไกล่เกลี่ยแต่เขาไม่ทำ เอาเงินผู้เสียหายไปแล้ว แต่ไม่ยอมรับผิด กลับคำเล่นเกมหัวหมอ มันไม่ใช่ แค่คุณยอมรับ มันเป็นสเต็ปแรกของการแก้ปัญหา แต่คุณเลือกที่จะไม่แก้ปัญหาเอง แล้ววันนี้มีผู้เสียหายมาอีกเป็นรายใหม่
โดยนายโทนี่ อาชีพนักร้อง ซึ่งเป็นผู้เสียหายอีกราย เปิดเผยว่า ตนรู้จักกับ ปู มัณฑนา มานานแล้ว เป็นพี่เป็นน้องที่ดีต่อกัน ปกติตนเป็นนักร้อง เวลาเขามีอะไรก็จะจ้างไปร้องเพลง ถือเป็นพี่สาวที่ดีคนนึง ตอนแรกเขาก็ยืมเงินจากจำนวนที่ไม่เยอะช่วงปี 64 จำนวนยอดเงินก็เท่ากับตนร้องเพลงกลางคืนหลายคืน เค้ามายืมในลักษณะไปลงทุนธุรกิจ โดยเพื่อนเขาทำธุรกิจของเล่นเด็ก ตนเคยเจอเพื่อนเขา เขาเคยพาไปพบตอนที่ทำสัญญากู้ยืมเงิน มีการโอนเงินคืนบ้าง แต่แบบคืนเงินไปคืนกันมา ล่าสุดเงินก้อนสุดท้ายที่ให้ยืมไปตอนพ่อแม่เข้าโรงพยาบาล
ตนก็เข้าใจเขา บางทีก็มีช่วงขาขึ้นช่วงขาลง ตนก็รอได้ แม้ว่าเรื่องใช้เงินจะมีบ้าง แต่ก็ยังรอได้อยู่ ในส่วนตัวยังไม่ได้แจ้งความ เพียงแต่ว่ามาแสดงตัวว่าเป็นเจ้าหนี้คนหนึ่งเท่านั้น
ขณะที่ น.ส. ลิลลี่ เหงียน กล่าวว่า เรื่องเงินในบัญชี ปู มัณฑนา จำนวน 14 บาทนั้น ตนยืนยันว่า เขาโชว์ยอดเงินในโทรศัพท์ของเขาว่า พี่เหลือแค่นี้ก็คือ 14 บาทจริง
เพราะถูกโกงเงินที่ดินร้อยล้าน ส่วน ปู มัณฑนา ยืนยันว่าไม่ได้ถังแตก และอ้างว่ามีทรัพย์สินมากมายนั้น ตนคิดว่าคุณจะถังแตกไม่ถังแตกไม่รู้ แต่เงิน 70,000 บาทของตนมันน้อยมาก ถ้าเขาไม่ถังแตก ศักยภาพของเขาต้องจ่ายตนได้อยู่แล้ว ไม่ปล่อยให้ล่วงเลยถึงขนาดนี้
ส่วนที่เขาแจ้งมาว่า 2 วันที่แล้วยังไปดื่มไปกินอยู่เลยก็เป็นเรื่องจริงถูกต้อง เราก็ยังคุยดีกันอยู่ จนกระทั่งเงิน 70,000 บาท ก่อนหน้านี้ตนไม่เคยคุยกับลูกหมีมาก่อนจนกระทั่งเงิน 70,000 บาท ตนจึงออกมา เพราะตอนแรกลูกหมีโทรมาชวนไปสน. ตนก็ไม่ไป แต่ลูกหมีบอกว่าเขาทำแบบนี้กับอีกหลายคนนะ ตนก็เลยตกใจและอยากเห็นกับตา จากนั้นตนก็ตอบตกลงว่าไป และโทรไปแจ้ง ปู มัณฑนา ว่าตนขออนุญาตไปออกสื่อ เพราะว่าตนอยากได้เงินคืนจริงๆ ทาง ปู มัณฑนา ก็บอกว่าอย่าทำร้ายพี่เลยนะ ตนก็บอกว่าเงินของตน 2 สัปดาห์แล้ว 70,000 บาท ไม่คืนตนก็แย่ จนตนจะต้องไปขายตัวแล้ว ตนพูดแบบนี้เขาก็บอกว่าให้รอก่อน แต่พี่ปู มัณฑนา เอาเงินของน้องไปมันลำบาก ถ้าเป็นหนี้ต้องใช้ ตนก็อยากได้เงินของตนคืนเหมือนกันที่เขาบอกว่าเขามีสมบัติเยอะตนก็โล่งใจ
และตนไม่ได้มีเจตนาจะว่าบริษัท ยู ซัมมิท กรุ๊ป จำกัด วันนี้ถึงตนจะโกรธ ปู มัณฑนา มาก แต่ตนก็ไม่ได้เกลียด เขาโทรมายืมเงินตนวันแรกก็อ้างว่าเพื่อนจะไปลงทุนธุรกิจ โดยเขาเสนอดอกเบี้ยให้ ตนบอกว่าไม่เอา ครั้งแรก 500,000 บาท จากนั้นไม่กี่วันก็ 300,000 บาท ทุกครั้งที่เอาเงินตน เขาเสนอดอกเบี้ยให้ แต่ตนก็ปฏิเสธ จากนั้นตนโดนโกง ไม่มีเงิน ตนจึงทวงเงินจาก ปู มัณฑนา เขาก็อ้างว่ารอก่อน เดี๋ยวก่อนจนกระทั่งหลายเดือน ตนไม่หวังให้พี่เขาพาไปเป็นดาราแล้ว ให้มันจบเท่านั้น
“หนูแค่โกรธพี่ปูที่ทำกับหนูแบบนี้ แต่หนูไม่ได้เกลียดพี่ปู แค่อยากให้พี่ปูออกมาขอโทษ และยอมรับกับประชาชนและเพื่อนทุกคนแค่นั้น หนูไม่เอาก็ได้เงิน 670,000 บาท แต่ถ้าคืนก็เอา” น.ส. ลิลลี่ เหงียน กล่าว
น.ส. ลิลลี่ เหงียน กล่าวว่า ส่วนที่ เอิร์ก เลเดอเรอร์ เอาเงินสดของตนไป 36.8 ล้านบาท พร้อมกับดอกเบี้ย ก่อนหน้านั้นอ้างว่าติดโควิด -19 ลงปอด ตนเหลือเงิน 700,000 บาทสุดท้าย เขาก็ยืมเงินตนอีก 300,000 บาท รวมยอดทั้งหมดเกือบ 37 ล้านบาท และเขาหลอกเอาคอนโดของตนไปขายฝากกู้เงินนอกระบบ เพื่อที่จะเอาเงินให้เขาแล้ว ตนจะได้เงินกับคืนมาทั้งหมด ยืนยันว่าหลักฐานของตนแน่น และตนเคยฟ้องเขาคดีฉ้อโกง และมีหมายจับ ทุกอย่างอยู่ที่ศาล
ตนอยากให้ เอิร์ก เลเดอเรอร์ มาคุยกับตนตรงๆ และกลับมาประเทศไทย หากอยากแจ้งความดำเนินคดีตนก็ขอให้รีบมา ตนพร้อมซื้อตั๋วเครื่องบินเฟิร์สคลาส และเปิดโรงแรมหรูให้อยู่ เพื่อมาต่อสู้คดีกัน เงินจำนวน 30-40 ล้านบาท เพราะตนมีสามีรวย
Advertisement