เจ้าของบ้านหอบหลักฐานร้องทนาย ยันไม่ใช่ร่วมกันตบทรัพย์ตำรวจลาดกระบัง

ครอบครัวเจ้าของบ้านนำหลักฐานพบทนายเดชา เอาผิดกลุ่มนักพนันฉ้อโกงแม่ กว่า 10 ล้านบาท ยันไม่ใช่การร่วมกันตบทรัพย์กับตำรวจลาดกระบัง

คอนเทนต์แนะนำ

เปิดยิ่งใหญ่! เทศกาลอาหารสมุทรปราการ กระตุ้นเศรษฐกิจปลายปี

หมอสุรัตน์ เปิดข้อมูลชัดๆดื่มแค่ไหนถึงตาย ฉะคอนเทนต์ขยะ

“เฉลิมชัย” ส.ค.ส. 2568 ถึงสมาชิกทั่วประเทศ

จากกรณีที่มีกลุ่มนักพนันหญิงร้องเรียนนายรัชพล ศิริสาคร ทนายความ ให้ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม สน.ลาดกระบัง ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตาม ม.157 บังคับนักพนันโอนเงินจำนวน 800,000 บาท คืนเจ้าของบ้านที่ร่วมเล่นการพนัน อ้างว่าพวกกลุ่มนักพนันไปโกงเงินเจ้าของบ้าน ที่ชักชวนเล่นการพนัน แต่เจ้าของบ้านกลับไม่ถูกดำเนินคดี

นางสาวณัฏฐา อายุ 39 ปี ลูกสาวเจ้าของบ้านที่ถูกกล่าวอ้างเดินทางมาพบนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความ เพื่อแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาด้านกฎหมาย ต่อสู้คดีหลังแม่ของตัวเองถูกกล่าวหาว่าร่วมกับตำรวจ สน.ลาดกระบังตบทรัพย์กลุ่มนักพนัน จำนวน 8 แสนบาท

โดยลูกสาวยืนยันว่าเป็นบุคคลที่เข้าแจ้งความกับตำรวจ เพื่อให้ดำเนินการจับกลุ่มนักพนัน เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน เนื่องจากก่อนหน้านี้แม่ของตัวเองได้เสียเงินการเล่นพนันไปจำนวนเงินกว่า 10 ล้านบาท โดยนัดหมายการเล่นการพนันตามสถานที่ต่างๆ จำนวนหลายครั้ง ก่อนในวันดังกล่าวจะนัดหมายมาเล่นที่บ้านพักของแม่ตัวเอง ย่านลาดกระบัง และเป็นเหตุที่ทำให้ตำรวจเข้าบุกจับกุมนักพนันทั้งหมดจำนวน 7 คน ทุกคนให้การรับสารภาพว่าเล่นการพนัน โดย 3 ใน 7 ได้มีการเซ็นลงคำรับสารภาพเป็นลายมือ ว่าได้ร่วมกันฉ้อโกงเป็นเงินหลายล้านบาท ลักษณะทำไพ่หลอกให้เสียการพนัน จึงเป็นที่ยืนยันว่าทางครอบครัวของตัวเองและตำรวจไม่ได้ร่วมกันตบทรัพย์แต่อย่างใด ทั้งหมดเป็นการไกล่เกลี่ยเพื่อให้ทางกลุ่มนักพนันทั้ง 7 คนร่วมกันชดใช้ค่าเสียหาย ซึ่งมีหลักฐานการโอนเงินคืนให้กับแม่ของตัวเองเป็นจำนวนเงิน 800,000 บาท

โดยวันนี้ทางครอบครัวเจ้าของบ้านที่เล่นการพนันได้นำหลักฐาน เป็นหลักฐานการโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ กว่า 7 ล้านบาท หลักฐานการลงบันทึกประจำวันและคำรับสารภาพของนักพนันทั้ง 7 คน มามอบให้กับทนายเดชา เพื่อช่วยเหลือในการดำเนินคดีตามกฎหมาย กับกลุ่มนักพนันทั้งหมด

ส่วนเรื่องประเด็นที่ทางกลุ่มนักพนันได้ไปร้องเรียนกับกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบว่าตำรวจร่วมกันเรียกรับเงินเป็นจำนวน 800,000 บาทนั้น ด้านพลตำรวจตรี เกียรติกุล สนธิเณร ผู้บังคับการนครบาล 3 เปิดเผยว่า ขณะนี้คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงทุกมิติทั้งเรื่องเกี่ยวกับเรียกรับสินบน รวมถึงเรื่องของการปฎิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ภายในวันที่เข้าจับกุม คาดว่าจะมีความคืบภายในสัปดาห์นี้ ยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย.