เลขาสภาฯ แจงเหตุคนงานบาดเจ็บ ไม่ใช่ผนังกำแพงถล่ม แต่เป็นอิฐที่นำมากองบนนั่งร้านสูงเกินไปหล่นใส่คนงานด้านล่างคิ้วแตก-ฟันหัก
วันที่ 26 สิงหาคม ที่รัฐสภา ว่าที่ ร.ต.ต.อาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วยรักษาการผู้บังคับบัญชากลุ่มงานอาคารสถานที่ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร แถลงชี้แจงกรณีกำแพงอิฐ ภายในอาคารรัฐสภา ร่วงขณะช่างกำลังซ่อมแซม กำแพงที่บวมน้ำ จนทำให้อิฐหล่นใส่คนงาน ได้รับบาดเจ็บ เมื่อวันที่ 23 ส.ค.ที่ผ่านมา ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เริ่มตั้งแต่วันที่ 20 ส.ค.บริษัทผู้รับจ้างมีหนังสือ ขอแก้ไขงาน อิฐมอญที่เป็นผนัง เพราะสังเกตว่า มีเหล็กแฟลตบาร์ หย่อนลงมาไม่ตึงเหมือนปกติ หรือในภาษาทางช่างเรียกว่า ”ตกท้องช้าง” เพราะอิฐมอญที่ออกแบบมาอาจรับน้ำหนักมากเกินไป ในช่วงฝนตก จึงเกรงว่าจะมีอันตราย จึงขอเข้าพื้นที่เพื่อแก้ไข ปรับให้มีแนวตรง
โดยในวันเกิดเหตุ 23 ส.ค.มีการทำนั่งร้านขึ้นมา เจ้าหน้าที่ลูกจ้างได้เอาอิฐออกมากองบนนั่งร้าน ในจำนวนที่สูงพอสมควร และพลาดทำอิฐที่กองไว้หล่นลงมาใส่คนงาน ชาวเมียนมา อายุ 42 ปี ที่อยู่ข้างล่างได้รับบาดเจ็บคิ้วแตก ซึ่งทางสำนักการแพทย์ของสภาฯได้ประสานส่งไปทำแผลที่ โรงพยาบาลวชิระ เย็บที่คิ้วและมีฟันหัก 1 ซี่ ซึ่งขอแสดงความเสียใจ ไปยังผู้ได้รับบาดเจ็บด้วย
ร.ต.ต.อาพัทธ์ ยืนยันว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ได้เกิดจากอิฐ ที่ผนังถล่ม แต่เป็นอิฐที่รื้อออกมาแล้วกองไว้ บนนั่งร้านหล่นลงมาทางสำนักอาคารสถานที่ได้การประสานจากผู้รับจ้างให้ตรวจเช็ก เหล็กแฟลตบาร์ ตรงผนังมอญ จุดไหนที่มีปัญหาลักษณะเดียวกัน ให้แก้ไข ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นผู้รับเหมาเป็นผู้รับผิดชอบเพราะยังอยู่ในช่วงระยะเวลาการรับประกัน 2 ปี หลังจากรับมอบงานมา
ส่วนภายในอาคารรัฐสภายังมีจุดใดที่เกิดปัญหาสุ่มเสี่ยงหรือไม่นั้น เลขาธิการสภาฯ กล่าวว่ามี ฝ่ายอาคารสถานที่ตรวจสอบอยู่เช่น ประตูในส่วนต่างๆที่หลวม หรือจุดที่สุ่มเสี่ยงก็สามารถแจ้งมาที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เพื่อประสานซ่อมแซมได้ เพราะที่ผ่านมาได้ใช้งาน อาคารรัฐสภาแห่งใหม่ มาระยะเวลาพอสมควร โอกาสที่จะทรุดโทรมหรือ เสื่อมโทรมก็เกิดขึ้นได้
Advertisement