เข้าสู่วันที่ 5 แล้ว เร่งยังช่วยคนงานซุกใต้รถบรรทุก หลังกู้ภัยเจาะทะลวงหินได้กว้าง 20 ซม.พบสัญญาณชีพลึกลงไป 3 ฟุต หวั่นดินหินถล่มซ้ำ
วันนี้ (29 สิงหาคม 2567) ปฏิบัติการค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัย 3 คนจากเหตุดินถล่มภายในอุโมงค์ก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ช่วงคลองขนานจิตร อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตั้งแต่วันที่ 24 สิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา ซึ่งการระดมสรรพกำลังค้นหาเพื่อจะเข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยทั้ง 3 คนยังดำเนินอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุด ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์กรณีอุโมงค์รถไฟความเร็วสูงถล่ม ได้รายงานความคืบหน้าปฏิบัติการค้นหาว่า พนักงานชาวจีนจากบริษัทที่มาสนับสนุนช่วยเหลือ ได้ใช้เครื่องเจาะกระแทกดำเนินการเจาะหินในแนวเฉียง ประมาณ 45 องศา เจาะได้ระยะความลึกประมาณ 1 เมตร จากพิกัดตำแหน่งที่เครื่องสแกนได้สแกนใต้ก้อนหินในระดับความลึก 1.8 เมตร และตรวจพบสัญญาณชีพ ยังคงเหลืออีกประมาณ 0.8 เมตรจึงจะถึงตำแหน่งดังกล่าว ซึ่งต้องใช้กำลังคนขนย้ายเศษหินจากที่แคบ และใช้รถขุดตักไฮโดรลิกปรับเกลี่ยหินไว้ด้านข้างอุโมงค์ ก่อนจะวางกระสอบทรายทับเพื่อไม่ให้ดินและหินด้านข้างถล่มลงมาอีก
นอกจากนี้ ทีมกู้ภัยฯ ได้ติดตั้งเครื่องตรวจจับการทรุดตัว (survey) เพิ่มเติมอีกบริเวณเพดานและผนังอุโมงค์ สำหรับวัดระดับการเคลื่อนตัวของผนังอุโมงค์ เพื่อเตือนภัยทีมกู้ภัยทั้งของประเทศไทยและจีนที่เข้าไปปฏิบัติงานจะได้เกิดความปลอดภัยสูงสุด เนื่องจากช่วงที่ใช้เครื่องจักรขุดเจาะ จะเกิดแรงสั่นสะเทือน ทำให้มีหินและดินถล่มลงมาจากภูเขาเป็นระยะๆ ทีมกู้ภัยจึงได้เปลี่ยนแผนมาใช้กำลังคน ทำการขนดินและหินออกปากทาง ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณการเคลื่อนตัวของผนังโครงสร้างแต่อย่างใด
ซึ่งนายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ จะประชุมทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อทบทวนและวางแผนการช่วยเหลือผู้ประสบภัยทั้ง 3 คนอีกครั้ง
นายชัยวัฒน์ ยืนยัน เมื่อสักครู่ที่ผ่านมา ได้รับรายงานว่า เมื่อเวลา 4 นาฬิกา หลังจากเจ้าหน้าที่ได้เข้าเจาะหิน จนมาเจอกับคอนกรีต และได้ทำลายจนสำเร็จนั้น ทีมช่วยเหลือได้พบกับรถดั๊ม สีเหลือง แต่ยังไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบได้ เนื่องจาก รู ขนาด 20 เซนติเมตร ซึ่งมีขนาดเล็กเกินไป จำเป็นต้องใช้กล้องส่องในเชิงลึกแทน ซึ่งไม่พบว่ามีผู้ประสบภัยอยู่ด้านในรถ
และเมื่อใช้เครื่องแสกนหาสัญญาณ หรือ เครื่องสแกนหาความเคลื่อนไหว พบถัดไปในความลึก 3 ฟุต บริเวณใต้ท้องรถ มีสัญญาณชีพ หรือความเคลื่อนไหวของสิ่งมีชีวิต ปรากฏอยู่ เชื่อ ขณะเกิดเหตุ ผู้ประสบภัย ได้ตัดสินใจหลบอยู่บริเวณใต้ท้องรถ เพราะถูกฝึกมา เบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่พบว่า ผู้ประสบเหตุ ได้ส่งสัญญาณใดตอบกลับมา
นายชัยวัฒน์ บอกว่า ขั้นตอนจากนี้ ปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญ หาแนวทางเปิดรูดังกล่าว เพื่อลำเลียงผู้ประสบภัยคนที่ 1 ออกมา พร้อมเตรียมความพร้อมในเรื่องนำ ผู้ประสบภัยไปโรงพยาบาล ด้วยทางรถหรือ ทางอากาศ อุปสรรคสำคัญ ที่ต้องระวังที่สุด คือ เรื่องดินที่อาจสไลด์ลงมา หวังวันนี้จะมีข่าวดี
ขอบคุณภาพจาก สมาคมตอบโต้ภัยพิบัติ ประเทศไทย ,ข่าวปากช่องนิวส์
Advertisement