สถานการณ์หมอกควันของ จ.เชียงใหม่ แม้ว่าปีนี้จะมาช้ากว่าหลายปีที่ผ่านมาแต่ล่าสุดเริ่มส่อเค้าที่เข้าสู่ความรุนแรงขึ้นแล้ว โดยเมื่อเวลา 8.00 น. พบว่าจากเวปไซด์ iqair.com ที่รายงานสถานการณ์มลพิษทางอากาศ และ ฝุ่นPM2.5 จากทั่วโลกและจัดอันดับหัวเมืองใหญ่ที่มลพิษทางอากาศ พบว่า จ.เชียงใหม่ ขยับขึ้นมาอยู่อันดับที่ 12 ของโลกอยู่ในระดับสีแดง ค่า PM2.5 อยู่ที่ 61 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ดัชนีวัดคุณภาพอากาศอยู่ที่ 155 AQI ขณะที่อันดับ1ของโลกเช้านี้ที่เมืองธากาประเทศบังกลาเทศ PM2.5 อยู่ที่ 240 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ดัชนีวัดคุณภาพอากาศอยู่ที่ 341 AQI
ขณะที่ข้อมูลของกรมควบคุมมลพิษเช้านี้พบว่าจากสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ 6 สถานี แต่ปรากฏว่าคุณภาพอากาศขึ้นมาอยู่ในระดับสีส้มแล้ว 5 สถานีด้วยกันโดยสูงสุดที่สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ ต.หางดง อ.ฮอด PM2.5 อยู่ที่ 48.9 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ดัชนีวัดคุณภาพอากาศอยู่ที่ 131 AQI ส่วนตัวเมืองที่สถานี ต.ช้างเผือก อ.เมือง PM2.5 อยู่ที่ 44.5 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ดัชนีวัดคุณภาพอากาศอยู่ที่ 119 AQI ส่วนที่ อ.แม่แจ่ม คุณภาพอากาศยังอยู่ในเกณฑ์ดีสีเหลือง PM2.5 อยู่ที่ 28.4 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ดัชนีวัดคุณภาพอากาศอยู่ที่ 64 AQI
จากฝุ่นควันในตัวเมืองเชียงใหม่ที่เริ่มสะสมตัวหนาแน่นขึ้น ส่งผลให้เช้านี้พบว่าเริ่มมีหมอกควันสีขาวหนาแน่นขึ้น ทำให้ดอยสุเทพที่อยู่ทางด้านทิศตะวันตกของเมืองเชียงใหม่เริ่มมองเห็นแนวเขาลางๆ เพราะถูกหมอกควันบดบังหนาแน่นขึ้น แต่หากคุณภาพอากาศเข้าสู่วิกฤติก็จะพบว่าจะไม่สามารถมองเห็นดอยสุเทพได้จากตัวเมือง ชาวเชียงใหม่บางส่วนที่ติดตามสถานการณ์หมอกควัน โดยเฉพาะพ่อแม้ผู้ปกครองเองก็เริ่มย้ำเตือนบุตรหลานให้สวมใส่หน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันฝุ่นควันในช่วงที่ต้องออกมาทำกิจกรรมนอกอาคารกันแล้ว
ในขณะที่ล่าสุด iqair.com ได้รายงานสถานการณ์มลพิษทางอากาศ จ.เชียงใหม่ มีแนวโน้มลดลง ดัชนีวัดคุณภาพอากาศอยู่ที่ 146 AQI ยังติด 1 ใน 20 อันดับโลก
Advertisement