ชาวบ้านสุดทน ร้องภาครัฐจัดการโรงงานขยะรีไซเคิลนานนับปี สุดท้ายปล่อยไว้จนไฟไหม้ หวั่นมีปัญหาสุขภาพ เกิดเหตุซ้ำรอยขึ้น
เมื่อเวลาประมาณ 23.45 น. วันที่ 5 ก.ย. 67 ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสมุทรสาคร ได้รับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้รุนแรงเกิดขึ้นที่ โรงงานขยะรีไซเคิล และผลิตเม็ดพลาสติก ตั้งอยู่พื้นที่หมู่ที่ 4 ต.บางหญ้าแพรก อ.เมือง จ.สมุทรสาคร
จากเหตุการณ์เพลิงไหม้รุนแรงเที่ โรงงานขยะรีไซเคิล และผลิตเม็ดพลาสติก ตั้งอยู่ตั้งอยู่พื้นที่หมู่ที่ 4 ต.บางหญ้าแพรก อ.เมือง จ.สมุทรสาคร เมื่อเวลาประมาณ 23.45 น. ของคืนวันที่ 5 ก.ย. ที่ผ่านมา ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้
ต้อมาวันที่ 6 ก.ย. 67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แม้ว่าสถานการณ์โดยรวมขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจะสามารถควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัดได้แล้ว และทำให้เปลวเพลิงลดระดับต่ำลงมา โดยมีการใช้รถแบ็คโฮคอยาวเข้าคุ้ยเขี่ยกองวัสดุที่ทับถมอยู่ด้านบนออก พร้อมกับฉีดน้ำให้ลงไปถึงด้านล่าง เพื่อดับไฟให้มอดสนิทลง แต่ยุทธวิธีนี้ก็ส่งผลทำให้มีกลุ่มควันดำพวยพุ่งขึ้นสูงอีกครั้ง จนชาวบ้านที่อยู่โดยรอบเกิดความวิตกกังวล เพราะเกรงว่าเพลิงจะโหมลุกไหม้รุนแรงขึ้นอีกครั้ง
อีกทั้งกลุ่มควันดำที่กลับมาลอยตัวสูงขึ้น แม้จะไม่มีเปลวเพลิงอย่างเช่นเมื่อคืนที่ผ่านมา แต่ก็ส่งผลทำให้มีกลิ่นควันลอยฟุ้งตลบอบอวลไปทั่วบริเวณ ทางด้านของสาธารณสุขคือ เจ้าหน้าที่ของ รพ.สต., กองสาธารณสุขเทศบาลตำบลบางหญ้าแพรก และเจ้าหน้าที่ อสม. จึงต้องขนย้ายชาวบ้านที่สุขภาพร่างกายไม่แข็งแรง เช่น ผู้ป่วยติดเตียง และผู้ที่มีปัญหาระบบทางเดินหายใจไปอยู่ที่สำนักงานเทศบาลตำบลบางหญ้าแพรกเป็นการชั่วคราว
ส่วนชาวบ้านที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง หรือยังพอรับมือกับกลุ่มควันได้ ก็ให้ย้ายออกจากบ้านมาอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย (เหนือลม) เป็นการชั่วคราวก่อนจนกว่าทางเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและ อสม.จะประเมินความปลอดภัยให้อีกครั้ง จึงจะสามารถกลับเข้าไปอยู่ในบ้านได้ดังเดิม
ขณะที่ชาวบ้านชุมชนคลองชล หมู่ที่ 6 ต.บางหญ้าแพรก อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร ซึ่งอยู่ติดกับด้านหลังของรั้วโรงงาน ที่มีเพียงรั้ว กับคลองชลประทานขนาดความกว้างประมาณ 2 เมตร กั้นกลางเอาไว้นั้น ก็ออกมารวมตัวกันไม่ได้ออกไปทำงาน เพราะความเป็นห่วงบ้าน เกรงว่าเพลิงจะโหมรุนแรงและลุกลามมาถึงที่พักอาศัย
ซึ่งนายนคร เฟื่องขจร ตัวแทนชุมชนบอกว่า โรงงานแห่งนี้ทางชาวบ้านได้มีการร้องเรียนมาแล้วหลายครั้ง เพื่อให้หน่วยงานภาครัฐเข้ามาตรวจสอบ ทั้งเรื่องของการลักลอบปล่อยน้ำเสีย กลิ่นเหม็น และปัญหาอื่นๆ แต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้าในเรื่องดังกล่าว
ล่าสุดเมื่อประมาณ 4 –5 เดือนที่ผ่านมา ทางโรงงานมีการนำยางเส้นเก่าเข้ามาในโรงงานจำนวนมาก เพื่อนำมาทำน้ำมัน พร้อมกันนี้ยังมีการเตรียมสร้างถังเก็บน้ำมันขนาดใหญ่ไว้ใกล้กับชุมชนอีกด้วย ส่วนที่ชาวบ้านหวั่นเกรงกันมาตลอด ก็ว่าอาจจะเกิดไฟไหม้ได้ จึงได้มีการแจ้งให้หน่วยงานฯ ที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบด้วยเช่นกัน แต่ก็ปล่อยเลยมาจนกระทั่งเกิดไฟไหม้ใหญ่ในครั้งนี้
ซึ่งชาวบ้านอยากจะให้มีการตรวจสอบ และดำเนินการกับโรงงานที่ฝ่าฝืนกฎหมายอย่างจริงจัง หากปล่อยไว้แบบนี้อีก ก็ไม่รู้ว่าจะเกิดเหตุซ้ำรอยขึ้นได้อีกเมื่อไหร่ ขณะที่สุขภาพของชาวบ้านหลังจากเกิดเหตุการณ์ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา ก็ยังไม่มีใครได้หลับนอน ต่างพากันหวั่นวิตกและหวั่นปัญหาสุขภาพที่อาจจะเกิดขึ้นตามมาได้ และบางคนก็มีอาการหายใจไม่สะดวก เนื่องจากกลิ่นควันเหม็น
Advertisement