รักษาการผู้ว่ารฟท. พูดแล้ว! น้ำท่วมหน้า ม.พะเยา ไม่เกี่ยวรถไฟทางคู่ขวางทางน้ำ ชี้ ฝนตกหนักต่อเนื่อง มวลน้ำป่าจำนวนมากไหลท่วมพื้นที่แอ่งกระทะ
วันที่ 19 ก.ย. 67 นายจเร รุ่งฐานีย รองผู้ว่าการการรถไฟฯ รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า ตามที่สื่อสังคมออนไลน์เผยแพร่ภาพ และข้อความประเด็นเกี่ยวกับสาเหตุน้ำท่วมหน้ามหาวิทยาลัยพะเยา อาจมีสาเหตุร่วมจากการก่อสร้าง โครงการรถไฟทางคู่ ช่วงเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ในพื้นที่ จ.พะเยา เพราะมีงานเปิดหน้าดินและถมดินคลองแม่กา ซึ่งเป็นคลองที่จะไหลผ่านหน้ามหาวิทยาลัยพะเยานั้น
ขณะนี้ตนได้ติดตามอย่างใกล้ชิด พบข้อเท็จจริงว่า มวลน้ำที่ไหลบ่าท่วมพื้นที่เกิดจากปริมาณฝนที่ตกหนักอย่างต่อเนื่องโดยมีปริมาณน้ำฝนสูงถึง 105 มิลลิเมตร ในที่แคบบนภูเขาและลาดชันสูง มีความเร็วกระแสน้ำสูง ไหลผ่านตามคลองแม่กาลงสู่พื้นราบ โดยตามแนวคลองมีถนนพหลโยธินขนานด้านซ้าย และมีแนวทางรถไฟขนานด้านขวา เมื่อปริมาณน้ำหลากที่มาจากปริมาณน้ำฝนที่ตกหนักมากและไหลเร็วเชี่ยว ไหลผ่านตามคลองมาถึงบริเวณใกล้เมือง ซึ่งเป็นพื้นที่แอ่งกระทะ และมีสิ่งปลูกสร้างกีดขวางทางน้ำ ทำให้เกิดน้ำท่วมเฉียบพลัน
จึงไม่ได้เกิดจากการก่อสร้างถนนลำเลียงถมคลองแม่กาตามข่าว ทั้งนี้ถนนลำเลียงไม่ได้ออกแบบเป็นฝายกั้นน้ำ มีการวางท่อระบายน้ำขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 1.20 เมตร จำนวน 8 ท่อ ซึ่งเพียงพอต่อการระบายน้ำในสภาวะปกติ และพบว่าก่อนวันเกิดเหตุก็ไม่มีน้ำขังด้านเหนือน้ำในลักษณะอ่างหรือฝายเก็บน้ำแต่อย่างใด แต่เนื่องจากมวลน้ำมีปริมาณมาก ไหลเชี่ยวแรง ทำให้ถนนลำเลียงถูกกัดเซาะจนขาดอย่างรวดเร็ว
นายจเร กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ บริเวณพื้นที่น้ำท่วมระบายน้ำไม่ทัน ทำให้เกิดน้ำท่วมเฉียบพลัน ซึ่งหากมองจากภาพถ่ายมุมสูง ตามภาพแนวเส้นสีเขียวเป็นแนวทางรถไฟที่อยู่ระหว่างก่อสร้างเป็นทางตัดไม่ใช่เป็นการถมดินคันทาง และไม่ได้เป็นเส้นทางระบายน้ำหรือขวางทางน้ำแต่อย่างใด แนวเส้นสีฟ้าเป็นคลองแม่กา พื้นที่สีแดงเป็นบริเวณหอพักที่คลองแม่กาไหลผ่าน เมื่อมีปริมาณน้ำหลากไหลล้นคลอง ประกอบกับมีสิ่งปลูกสร้างกีดขวางทางน้ำ ทำให้น้ำไหลไม่สะดวกจึงเกิดน้ำท่วมเฉียบพลัน
อย่างไรก็ตาม การรถไฟฯ ได้ให้บริษัทผู้รับจ้างเร่งเข้าดำเนินการช่วยเหลือเป็นการเร่งด่วนทั้งในพื้นที่และนอกพื้นที่โครงการ โดยได้นำถุงยังชีพไปมอบแก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุน้ำท่วม รวมถึงนำเครื่องจักรไปช่วยขุดลอกคูคลอง และลอกท่อระบายน้ำ เพื่อเร่งระบายน้ำขัง จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายลง
ขณะเดียวกัน ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่การรถไฟฯ ในพื้นที่ต่างๆ ติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำทุกพื้นที่อย่างใกล้ชิด และให้จัดเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัย อำนวยความสะดวกการเดินทางแก่ประชาชน ตลอดจนเตรียมความพร้อมช่วยเหลือพี่น้องผู้ประสบภัยในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมอย่างเต็มกำลัง
Advertisement