"ใบเตย อาร์สยาม" ลงบันทึกประจำวันแสดงความบริสุทธิ์ ยันไม่มีเอี่ยวไลฟ์ขายทอง "แม่ตั๊ก" เผยเป็นการรับงานขายโปรตีน-ครีมกันแดดเท่านั้น
วันที่ 1 ต.ค. 67 ที่สน.บางชัน น.ส.สุธีวัน ทวีสิน หรือ ใบเตย อาร์สยาม อายุ 36 ปี พร้อมทนายความส่วนตัว เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.วีรวุฒิ มโนรส รอง ผกก.(สอบสวน) สน.บางชัน เพื่อขอลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการขายทองของ น.ส.กรกนก สุวรรณบุตร หรือ แม่ตั๊ก กับ นายกานต์พล เรืองอร่าม หรือ ป๋าเบียร์ เจ้าของห้างเพชรทองเคทูเอ็น ในการไลฟ์สดขายทองผ่านแอปฯ ติ๊กต็อก ที่มีผู้เสียหายถูกหลอกซื้อทองคำจำนวนหลายราย
ภายหลังการเข้าพบพนักงานสอบสวน 40 นาที ใบเตย อาร์สยาม กล่าวว่า หลังมีกรณีแม่ตั๊กเกิดขึ้น และปรากฏภาพที่ตนเคยไปร่วมไลฟ์สดขายของ ก็มีคนแสดงความเป็นห่วงมา ตนจึงเดินทางมาลงบันทึกประจำวันในวันนี้ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ และต้องขอโทษที่ทำให้หลายฝ่ายคลางแคลงใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น จึงอยากชี้แจงให้ชัดเจน ที่เคยไปร่วมไลฟ์ว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ เป็นการรับงานตามปกติ
โดยตนเองเคยรับจ้างไลฟ์ให้กับแม่ตั๊กทั้งหมด 2 ครั้ง ครั้งแรกคือเมื่อปี 2564 ส่วนครั้งที่ 2 คือเมื่อเดือน พ.ย. 2566 หลังออกจากเรือนจำ ยืนยันว่าไม่เคยไลฟ์ขายทอง แต่เป็นการขายผลิตภัณฑ์โปรตีน และครีมกันแดดเท่านั้น ไม่ได้เป็นพรีเซนเตอร์ หรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทของแม่ตั๊ก
ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ส่งผลกระทบกับตน ทั้งชื่อเสียงและผลกระทบทางจิตใจ เพราะถูกนำไปเชื่อมโยงกับคดีที่ผ่านมา ทั้งที่ตนบริสุทธ์ใจ เป็นผู้ใช้แรงงาน รับจ้างทำอาชีพสุจริตเหมือนกับดาราคนอื่นๆ กรณีนี้ ตนรู้สึกว่า ตัวเองก็ตกเป็นผู้เสียหายเหมือนกัน เหมือนโดนหลอก เพราะตอนที่รับงานก็ไม่ได้รู้เบื้องลึกเบื้องหลัง ซึ่งก็คุยกับน้องชายว่าหลังจากนี้จะรับเฉพาะงานร้องเพลง งานคอนเสิร์ต ไม่รับจ้างไลฟ์ร่วมกับเจ้าของแบรนด์ใดๆ แล้ว
โดยวันนี้ตนจะแค่ลงบันทึกประจำวันไว้ก่อน หลังจากนี้หากตำรวจสอบสวนกลางเรียกไป ก็พร้อมที่จะไปให้ข้อมูล ไม่ว่าจะมีตนอยู่ในรายชื่อแถว 2 หรือไม่ ก็พร้อมให้ความร่วมมือเต็มที่
ด้านนาย ลุกซ์ น้องชายของใบเตย กล่าวว่า ตนเองเป็นคนรับงานให้ใบเตยเองทั้งหมด ซึ่งทั้งสองครั้งไม่เคยพูดคุยโดยตรงกับแม่ตั๊ก แต่จะคุยกับทีมงาน ซึ่งในรายละเอียด ไม่เคยมีการพูดถึงการขายทอง มีแค่โปรตีน และครีมกันแดด แต่ในการไลฟ์ครั้งที่ 2 ระหว่างไลฟ์อยู่ แม่ตั๊กก็มีการเอาแผ่นมูเครื่องรางมาเล่นกิจกรรม โดยไม่ได้บอกตนล่วงหน้า แต่ตอนนั้นไม่คิดว่าจะเป็นปัญหา คิดว่าเป็นการร่วมสนุกทั่วไป
ส่วนตัวมองว่า ดารานักร้อง เมื่อมีโอกาสมีงานเข้ามาก็ต้องคว้าไว้ และตนกับใบเตยก็คงเหมือนผู้เสียหายทุกคน ที่เห็นสิ่งที่เขาทำแล้วดูน่าเชื่อถือ พอมาวันนี้ก็รู้สึกเสียใจ พร้อมย้ำว่าใบเตยไม่มีความสัมพันธ์ส่วนตัวกับแม่ตั๊ก แค่ไปทำงานเท่านั้น ไม่เคยพูดคุยกันนอกเหนือจากนี้ และตนมีหลักฐานการพูดคุยรับงานทุกอย่าง
Advertisement