"พระพยอม" เตือนสติ พระรวยเห็นซวยมาเยอะ หลังบ้านแชร์น้องแครอทล้ม บอกให้พระสงฆ์รู้จักตื่นตัว ระมัดระวังตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ
จากกรณีแชร์ลูกโซ่ “บ้านแชร์น้องแครอท…ล้มแล้ว” ที่ถูกเผยแพร่ในเฟซบุ๊กเพจ “อีซ้อ ขยี้ข่าว” สร้างความตกตะลึงในวงการสงฆ์ หลังมีการหลอกลวงพระสงฆ์ในภาคอีสานให้ร่วมลงทุนกับบริษัทที่อ้างว่าจะได้รับบ้าน และรถภายใน 5 ปี โดยอ้างว่าการลงทุนนั้น เป็นการนำเงินบุญมาต่อยอด โดยมีการชักจูงให้พระสงฆ์ลงทุนจำนวนมาก แต่สุดท้ายกลับเป็นการหลอกลวงที่สร้างความเสียหายกว่า 1,000 ล้านบาท ผู้เสียหายส่วนใหญ่เป็นพระสงฆ์ในพื้นที่ภาคอีสาน ซึ่งคดีนี้ได้รับความสนใจอย่างมาก เนื่องจากกระทบต่อวงการสงฆ์และความเชื่อศรัทธาของประชาชน
ล่าสุดเมื่อวันที่ 21 ต.ค. 67 ที่จ.นนทบุรี พระราชธรรมนิเทศ หรือ พระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว กล่าวถึงกรณีว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสะท้อนถึงความไม่ระมัดระวังของพระสงฆ์รุ่นใหม่ที่กลายเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ ซึ่งพระอีสานมีแต่พระเพชรน้ำงาม ตั้งแต่หลวงปู่มั่น หลวงปู่แหวน หลวงปู่ชา ท่านเป็นพระกรรมฐาน แต่พระรุ่นใหม่กลับไม่รอบรู้ จนกลายเป็นเหยื่อของการหลอกลวงเหล่านี้
พระควรตื่นรู้ และระวังตัว ไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของคนที่หลอกลวง โดยอ้างเรื่องเงินทอง หรือการแสวงหากำไร การเป็นพระไม่ใช่ เพื่อนำญาติโยมไปเสียเงินหรือสูญเสียศรัทธา แต่พระต้องสอนให้ญาติโยมเข้าใจในธรรมะ และช่วยบำรุงพระพุทธศาสนา
“พระรวยเห็นซวยมาเยอะแล้ว การบวชควรทำเพื่อความจน ไม่ใช่แสวงหารวยเหมือนคนทั่วไป” พระพยอม กล่าวว่า
พระพยอม ยังกล่าวถึงบทเรียนจากกรณี ดิไอคอนที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ว่า ควรเป็นตัวอย่างให้พระสงฆ์รู้จักตื่นตัว และระมัดระวัง เมื่อมีใครมาชักชวนลงทุน หากเป็นเรื่องการทำบุญ เพื่อประโยชน์ทางศาสนาเชื่อถือได้ แต่ถ้าเป็นการชวนหาเงินหรือหากำไรควรตั้งข้อสงสัยทันที และไม่ควรให้ศรัทธาถูกนำไปใช้ในทางที่ผิด การที่พระสงฆ์ตกเป็นเหยื่อของแชร์ลูกโซ่นั้น ทำให้พุทธศาสนาถูกกระทบจากภายใน พระต้องระวังไม่ให้ถูกล่อลวงด้วยความโลภ และต้องมีสติในการดูแลศรัทธาของญาติโยมให้มั่นคง
Advertisement