Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
“กฤษอนงค์” ยืนยันไม่เคยตบทรัพย์บอสพอล 10 ล้าน

“กฤษอนงค์” ยืนยันไม่เคยตบทรัพย์บอสพอล 10 ล้าน

22 ต.ค. 67
13:58 น.
|
352
แชร์

“กฤษอนงค์” ยืนยัน ไม่เคยตบทรัพย์บอสพอล 10 ล้าน และยกมือสาบานไม่เคยหักเงินผู้เสียหาย 20 % หลังได้รับการช่วยเหลือ ชี้เป็นการโอนทำบุญผ่านมูลนิธิเอง

จากกรณีที่มีประเด็นนักร้องเรียนที่มีการตบทรัพย์ดิไอคอนกรุ๊ป 10 ล้านบาท ช่วงเดือน ก.พ.-พ.ค.ที่ผ่านมา โดยแหล่งข่าวระบุว่า เป็นผู้หญิง แต่ไม่ได้อยู่ในวงการการเมือง และมักจะชอบบอกว่าตนเองเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านแชร์ โดยได้มีการตบทรัพย์บริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป ไป 10 ล้านบาท และบุคคลนี้ยังเคยไปแจ้งความที่ บก.ปคบ. ช่วงประมาณเดือน ก.พ. ร้องเรียนใส่ร้ายบริษัท จากนั้นบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป

และผู้หญิงคนนี้ ยังมักอ้างว่ารู้จักคนระดับใหญ่โตที่มียศ แต่ไม่ถึงขนาดรู้จักกับระดับรัฐมนตรี แต่บุคคลที่ผู้หญิงคนนี้แอบอ้างว่ารู้จักนั้น สามารถทำให้บริษัทเดือดร้อนได้ โดยให้จ่ายเป็นลักษณะการจ่ายผ่านมูลนิธิ รวมทั้งประเด็นเรียกรับเงินจากผู้เสียหาย 20 %

ล่าสุดวันนี้ (22 ต.ค.67) น.ส.กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ ประธานอำนวยการศูนย์ประสานงานส่งเสริมเครือข่าย-ออนไลน์ ได้ออกมาชี้แจงในรายการโหนกระแส โดยเล่าที่มาว่ารู้จักบอสพอล ได้อย่างไรว่า บอสพอลเป็นผู้นำธุรกิจขายตรง และเป็นผู้ประสบความสำเร็จ และเธอเองก็รู้จักผ่าน นายธเนศ วงศา และเธอเองก็จัดหลักสูตรขายตรง เป็นให้ความรู้ ซึ่งก็นำคนที่สำเร็จมาสอน และคุณพอลก็มาสอนด้วย เมื่อประมาณ 10 ปีที่ผ่านมา ส่วนตัวไม่ได้สนิทกัน

1729578860037

ขณะที่หนุ่มกรรชัย พิธีกร ถามว่าย้อนหลังกลับไปเมื่อประมาณต้นปีที่ผ่านมา เหตุการณ์นี้เชื่อมโยงมาถึงคุณ และผู้เสียหาย 89 คน กับบริษัท ดิไอคอน

นางสาวกฤษอนงค์ บอกว่า เมื่อเดือน มิ.ย.67 มีคุณสุนิสา โทรติดต่อมาหาในวันที่กำลังเผาศพแม่ บอกว่าอยากขอความช่วยเหลือ เนื่องจากไปมาหลายที่แล้วอธิบายหลายอย่างก็ไม่เข้าใจ ก็เลยนัดมาพูดคุยกันที่ออฟฟิศ  โดยผู้ที่ติดต่อมาอ้างว่าเป็นผู้เสียหายและมีการรวมตัวกัน มาแล้ว 2 ปี และร้องเรียนมาแล้วหลายที่แต่ไม่มีการเคลื่อนไหวอะไรเกิดขึ้น จึงมาขอปรึกษาเธอ และในวันเดียวกันก็มีผู้เสียหายอีกคนติดต่อเข้ามา จึงเห็นว่าเป็นกระแสเดียวกันก็เลยรับเรื่องไว้ โดยมีการนัดทนายความมาด้วย เพื่อให้มารับฟังพร้อมกัน  เมื่อสัมภาษณ์แล้ว 10 คน 9 คนพูดตรงกัน จึงได้โทรศัพท์ไปหาพอล และเปิดโฟนให้ทุกคนได้ยินพร้อมกัน

และได้ให้ทนายทำหนังสือ เอกสารสำนักงานของกฎหมายทนาย เพื่อป้องกันตัวเอง บอกว่า ในเรื่องของการดำเนินการใด ๆ ที่จะถูก กล่าวหาว่า ไปตบทรัพย์ เพื่อเป็นการป้องกัน ซึ่งผู้เสียหายก็ได้เสนอ 3 ข้อ ทั้งอยากได้คืน 100% หรืออยากได้สินค้า ซึ่งก็ได้ทำหนังสือเสนอไป ส่งทั้งทางไลน์ และไปรษณีย์

นางสาวกฤษอนงค์  อ้างว่าใช้เวลาเจรจากันนานมาก และบางช่วงบอสพอลก็หายไป 3-4 วัน ซึ่งในระหว่างนั้น ก็มีผู้เสียหายไหลเข้ามาเรื่อยๆ แล้วก็มีการคัดกรองว่าเป็นผู้เสียหายจริงหรือไม่จริง สุดท้ายมันเกิดห้วงอากาศ เธอจึงไม่รู้ว่าจะทำยังไง เพราะเธอถูกมองว่า ไปใส่ร้ายเขา หรือทำร้ายเขา จึงตั้งคำถามกับตัวเองว่าเราจะอยู่ตรงไหน จึงได้โพสต์ Facebook ว่าแล้วเราเป็นคนกลางจะอยู่ตรงไหน ให้ข้อมูลก่อนเจรจาก่อน ก็กลายเป็นว่าใส่ร้าย พอจะดำเนินการตามขั้นตอนก็กลายเป็นว่าทำร้าย

สักพักคุณจิ๊บ อดีตภรรยาพอล  ติดต่อมาหาว่าจิ๊บจะทำอะไรได้บ้าง จิ๊บขอได้ไหม เพื่อประสานพอลให้ เพื่อที่จะได้คุยกัน หาทางออกร่วมกัน จิ๊บสงสารลูก เธอจึงบอกว่าโอเคงั้นจิ๊บมาหาพี่ มาคุยกันก่อน เพราะเธอประสานทางพอลไปอย่างทางการแล้ว แต่พอลไม่ตอบอะไร และผู้เสียหายก็รอคำตอบ ตอนนั้นจิ๊บก็เลยมาพูดคุยเบื้องต้น ซึ่งจิ๊บ บอกว่าไม่ได้มาคุยไม่ได้มาคุยในฐานะภรรยาแต่มาคุยในฐานะแม่ของลูก

1729578821806

ส่วนประเด็นเงิน 2 ล้าน นางสาวกฤษอนงค์  อ้างว่า จิ๊บภรรยาคุณพอล ได้ประสานมาผ่านอีกคนหนึ่ง และเสนอเป็นตัวเลขมา และน้องไม่ได้มีความรู้เรื่องนี้ จึงเสนอมาว่า "พี่จะใช้เท่าไหร่ก่อน เอาเท่าไหร่ก่อน" เธอจึงต้องตัดบทบอกว่า จ่ายที่พี่มันไม่จบ มันต้องจ่ายที่ผู้เสียหาย

ขณะที่ กัน จอมพลัง ได้พาผู้เสียหาย 2 คน ที่เคยอยู่ในกลุ่ม 89 คน มานั่งในรายการด้วย และอ้างว่ามีการโอนเงิน 20% ให้กับทางคุณกฤษอนงค์ ซึ่งทางผู้เสียหายอ้างว่า ยังไม่ได้มีการพูดคุยกับคุณกฤษอนงค์ แต่คุณกฤษอนงค์ไปพูดคุยกับคุณพอลเอง

ผู้เสียหาย อ้างอีกว่า วันที่ไปบ้านคุณกฤษอนงค์ กัน 10 กว่าคน และมีพี่ท่านหนึ่งที่เป็นแกนนำพูดขึ้นมาว่า ไหนๆก็อยู่กันหลายคนแล้ว คุณกฤษอนงค์ ทำแล้วคุณกฤษอนงค์จะได้อะไร ซึ่งคุณกฤษอนงค์ ก็อ้างว่าเคสก่อนหน้านี้ เขา ให้ 40% เราก็เลยกลับมาคุยกัน ว่า 40% มันเยอะเกิน ไป และคิดว่าเราเป็นผู้เสียหาย จะให้เราจ่าย 40% มันไม่ได้ ก็เลยคุยกันว่า 20% จึงเป็นที่มาของคำว่า 20%

ขณะที่นางสาวกฤษอนงค์ ชี้แจงว่า ในวันแรกที่เขาได้มาหารือเรา เธอก็ได้ยกตัวอย่างคดี 2 แบบ คือคดีธุรกิจกับคดีช่วย ซึ่งคดีธุรกิจมันก็อาจจะมีตั้งแต่ 20 ถึง 40% เพราะรับเป็นสำนักงานกฎหมาย มีค่าทนายทำเอกสาร แต่ถ้าเป็นคดีช่วย เราไม่มีตัวเลขอยู่แล้ว เพราะเราเปิดกองทุนขึ้นมาเพื่อช่วยคน และช่วยเหลือเหยื่อ เพราะเราก็เคยเป็นเหยื่อ ที่เราต่อต้านสำนักงานแชร์ลูกโซ่ขึ้นมา ก็เพื่อปกป้องอาชีพขายตรง ปกป้องคนที่ไม่มีทางสู้ ดังนั้นวันนี้จึงแยกเป็น 2 ประเด็น การพูดคุยกันก็อาจจะมีการเข้าใจใน 2 มุม

ซึ่งนางสาวกฤษอนงค์ ยืนยันว่าตั้งแต่ทำคดีช่วยเหลือผู้เสียหายมาไม่เคยเรียกเงินเลย พร้อมกับยกมือสาบาน

1729578445163

ขณะเดียวกัน นางสาวกฤษอนงค์ ยังยืนยันว่า เธอเป็นแค่คนกลางเท่านั้น ซึ่งมีหลักฐานยืนยันว่า ทางบริษัทดิไอคอน จ่ายเป็นเงินสดให้กับผู้เสียหาย ที่ออฟฟิศ โดยเธอไม่เคยรู้ตัวเลข

ส่วนกรณีที่มีข่าวว่าประสานบอสพอลแล้วมีการเรียกเงินกับบอสพอลอีกทางหนึ่งด้วย 10 ล้านบาทนั้น นางสาวกฤษอนงค์ ชี้แจงว่าไม่เคยเรียกรับเงินจากพอล แต่เป็นเงินที่ผู้เสียหายได้รับไป ซึ่งเราเสนอบริษัทไป 15 ล้านบาท และอีกรอบ 5 ล้านบาท แต่ทางบริษัทได้มีการจ่ายให้กับผู้เสียหายจริง 8.3 ล้านบาท ซึ่งยืนยันว่าตนไม่ได้ขอตังค์บอสพอล แต่เขาให้เพราะตนออกค่าใช้จ่ายไปก่อน เขาให้เป็นค่าใช้จ่ายอื่นๆ โดยโอนมา 4.5 แสนบาท และมีเงินสดอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งเป็นเงินในส่วนค่าใช้จ่าย

ก่อนจะย้ำอีกว่า เธอไม่ตบทรัพย์ดิไอคอน 10 ล้านบาท ประเด็นดังกล่าวเกิดจากทางทนายบอสพอลที่พูดออกมา ขออนุญาตเรียนแจ้งทนายบอสพอล ว่าสิ่งที่คุณพูดไปเรื่องเงิน 10 ล้าน โดยประมาท พี่เป็นทนายความ พี่ต้องรับผิดชอบให้มากกว่านี้ ขอเรียนแจ้งว่าทางทนายความของพัช (กฤษอนงค์) ขออนุญาตฟ้องทนายบอสพอล เพราะประเด็นนี้สร้างความเสียหายกับพัช (กฤษอนงค์) มากๆ  

ขอบคุณภาพรายการโหนกระแส

 

 

 

 

 

Advertisement

แชร์
“กฤษอนงค์” ยืนยันไม่เคยตบทรัพย์บอสพอล 10 ล้าน