เจ๊อ้อย เปิดปม จุดแตกหัก ทนายตั้ม เล่นเหลี่ยมรถเบนซ์ 13 ล้าน

เจ๊อ้อย เปิดปม จุดแตกหักทนายตั้ม รถเบนซ์ 13 ล้าน รถเขาฝากซื้อ แต่เอาไปให้จีนเทาเช่า เหลี่ยมทุกดอก แล้วบอกรักเหมือนครอบครัว 

คอนเทนต์แนะนำ

ดับแล้ว 5 ศพ! นักท่องเที่ยวต่างชาติสังเวยชีวิตให้เหล้าผสมเมทานอลในลาว

ทำถึง! ทีมเชียร์ลีดเดอร์ขอนแก่นวิทยายน จากไวรัลชุดบอดี้มนุษย์และเปรต

รมช.คลัง แนะเข้าเว็บ Welfare.mof.go.th ยืนยันสิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

จากกรณีที่ น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือ เจ๊อ้อย เศรษฐินีเจ้าของธุรกิจในประเทศฝรั่งเศส เข้าร้องเรียนกับ นาย สนธิ ลิ้มทองกุล นักข่าวอาวุโส ผู้ก่อตั้งสื่อในเครือผู้จัดการ กรณีที่แจ้งความดำเนินคดีกับนาย ษิทธา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม ทนายความชื่อดัง ในข้อหาฉ้อโกงประชาชน จำนวนเงิน 71 ล้านบาท 

สืบเนื่องจาก ทนายตั้มเสนอทำแพลตฟอร์มขาย ลอตเตอรี่ออนไลน์ โดยผู้เสียหายหลงเชื่อให้เงินลงทุน 2 ล้านยูโร หรือประมาณ 71 ล้านบาท แต่การดำเนินงานไม่สำเร็จตามกำหนดเวลา เมื่อทวงถามขอเงินคืนกลับเรื่องเงียบ ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้ 

จนต่อมา เฟซบุ๊กเพจ “คุยทุกเรื่องกับสนธิ” ได้โพสต์คลิปวิดีโอ เจ๊อ้อย และพี่น้อย ซึ่งเป็นเลขาเจ๊อ้อย เดินทางมาร้องเรียน และให้ข้อมูลกับนาย สนธิ และทีมงานถึงเรื่องดังกล่าว 

โดยคลิปแรก คือ “จุดเริ่มต้นที่มา ทนายเสน่หา 71 ล้าน EP.1 เปิดที่มา จากปากผู้เสียหาย รู้จัก “ทนายตั้ม” ก่อนโดนต้ม สูญเงิน 71 ล้าน พร้อมลากไส้ กินหรูอยู่แพง ค่าใช้จ่ายออกให้ทุกอย่าง” จากนั้นได้ปล่อยคลิป EP.2  “ตั้ม แผนสูง ขอพี่อ้อยรับ "ลูกของตั้ม" เป็นบุตรบุญธรรมเศรษฐีนี แต่โชคดีลูกแท้ๆเค้าไม่ยอมรับ” และ “EP.3 เปิดกลเกมทนายมหาเสน่ห์หลอกลงทุนหวยออนไลน์ ดูดเงิน 2 ล้านยูโร” 

ต่อมาเวลา 15.00 น. วันที่ 29 ต.ค. 67 เฟซบุ๊กเพจ “คุยทุกเรื่องกับสนธิ” ได้โพสต์คลิป “EP.4 เปิดปม จุดแตกหักรถเบนซ์ 13 ล้าน “ทนายตั้ม - เศรษฐินี” รถเขาฝากซื้อ แต่เอาไปให้จีนเทาเช่า เหลี่ยมทุกดอก แล้วบอกรักเหมือนครอบครัว” ซึ่งมีความยาว 9.35 นาที 

โดย เจ๊อ้อย ระบุว่า ล่าสุดที่แตกแยกกันก็คือไปเที่ยวฟินแลนด์ ตนต้องเก็บความรู้สึกไว้เรื่องรถเบนซ์ เที่ยวเสร็จส่งเขาขึ้นเครื่องที่แฟรงค์เฟิร์ต ประเทศฝรั่งเศสกลับ ทำใจดี ใจเย็นเอาไว้ ไม่ได้พูดอะไร เรื่องรถก็ 13 ล้านบาท เบิกจากพี่น้อยไป เป็นรถเบนซ์จี 400 ดี เพื่อเอาไว้ใช้งานที่บ้านปากช่องเวลาตนมาประเทศไทยก็ให้เอาไว้รับส่ง 

ซึ่งตนก็ได้สั่งให้ตามเล่มให้หน่อย ตนบอกพี่น้อย เลขาฯว่าเงินก็เอาไปแล้ว ซื้อรถมาจะเป็นปีแล้วเล่มรถยังไม่ได้ ทางนี้จึงไปสืบเสาะที่ศูนย์รถ แจ้งว่าเงินยังจ่ายไม่หมด เรื่องรถเราก็ประสานกับศูนย์เอง ทนายตั้มไม่ได้ช่วยอะไรเราเลย และพบว่ารถรุ่นนี้ไม่ถึง 13 ล้านบาท  ราคาแค่ 9 ล้านบาทเอง แต่ในใบเสร็จพบว่าราคา 12,900,000 บาท ทั้งนี้เรามารู้สึกตอนที่ไปพัทยา เขายุให้พี่อ้อยซื้อเรือยอร์ชราคา 300 ล้านบาท 

นอกจากนี้ตนเคยขับรถเบนซ์คันนี้ไปพักที่โรงแรม ทางเจ้าหน้าที่ รปภ.ก็บอกว่ารถเบนซ์คันนี้มีพวกจีนเทาเอามา เพราะเขาจำหมายเลขทะเบียนได้ ซึ่งรถเบนซ์เราก็ไม่เคยได้ขับ แต่ไมล์ไป 10,000 กิโลเมตรแล้ว ละก็ไม่ถ่ายน้ำมันเครื่องให้ด้วย ตนก็ขอคืน เพราะคนขับรถของตนก็ขับได้ ขับเป็น ตนก็ขอให้เขาเอามาคืน เพื่อเอาไปจอดไว้ที่บ้าน เพราะเขาเอารถไปใช้ทำโน่นทำนี่ พอตนกลับมาตนก็จะเอาคืน รถสองเดือน 10,000 กิโลเมตร ไม่รู้ไปถึงไหนแล้ว 

พอไปตามเรื่องรถก็ทะเลาะกัน พัทยาเป็นทริปสุดท้ายที่แตกหักกับพี่น้อย เลขาฯตน แต่หลังจากนั้นเขาก็ยังไปเที่ยวกับตนอยู่ ไปฟินแลนด์ด้วยกัน แต่ตนก็ไม่สนุก เพระาพี่น้อยไม่ได้ไปด้วย

ด้าน พี่น้อย กล่าวว่า เรื่องรถเบนซ์ ตนเป็นคนโอนเงินมัดจำให้ศูนย์รถ 500,000 บาท จากบัญชีของตน จากนั้นตนก็ต้องไปตามเรื่องรถจากใบโอนดังกล่าว เพราะเขาไม่ให้ข้อมูลอะไรกับตนเลย ไม่ให้เล่มรถ ไม่ให้อะไรใดๆทั้งสิ้น ให้เล่มสีน้ำตาลมาเล่มเดียว นอกนั้นไม่เคยได้อะไร รวมถึงใบเสร็จ ซึ่งซื้อรถ 13 ล้านบาท ตนเป็นคนโอนเงินให้เขาทั้งหมดครั้งเดียว มีใบเสร็จการโอนเงินอยู่ เข้าบัญชี ษิทรา เบี้ยบังเกิด และมีไลน์ที่พูดคุยกันด้วย เมื่อเรื่องถึงทนายตั้มเขาก็โทรมาด่าตนเลย ซึ่งเงินที่ตนโอนให้ทนายตั้มก็คือ 13 ล้านบาท ตนไปตามจนได้เล่มรถ 

พี่น้อย กล่าวว่า จุดแตกหักคือวันที่เขาไปเที่ยวฟินแลนด์กับพี่อ้อย ส่วนตนแคนเซิลไม่ไปเที่ยวฟินแลนด์ และกลับบ้านเลย ส่วนเขาไปกับครอบครัว 6 คน ก็ไปเที่ยวฟินแลนด์กับพี่อ้อย ตนบอกว่าเรื่องงาน ก็เรื่องส่วนตัวก็เรื่องส่วนตัว ที่เราตามมันอยู่ในหน้าที่ อยู่ในคำสั่งของพี่อ้อย ตนไม่ได้ทำเองโดยพละการ มันไม่ใช่เงินฉัน ฉันทำตามคำสั่งเขา และถ้ามันไม่ใช่เงินตั้มทำไมตั้มไม่เอาของมาให้เขา มันของของเขา ไม่ใช่แค่นี้ มันมีมากกว่านี้อีกที่เราไม่ได้เปิด 

พี่น้อย กล่าวว่า ส่วนที่ให้ทนายตั้มมาเกี่ยวข้องกับกระบวนการการซื้อรถนั้น เพราะเราไว้ใจ เขารู้เรื่องกฎหมาย เป็นที่ปรึกษาด้านกฎหมาย พอจ้างเขาเดือนละ 300,000 บาท เราก็ต้องใช้งานเขา แม้กระทั่งรถที่บริจาคก็ผ่านกระบวนการเขาทั้งหมด รวมถึงรถตู้พยาบาล 6 คัน เขาก็เป็นผู้ดำเนินการ อีกทั้งรถสองแถวที่บริจาคให้กับโรงเรียนก็เป็นชื่อเขาทุกคัน มีหลักฐานอยู่ว่าซื้อในชื่อเขา ทำให้ตนต้องไปตามโอนชื่อรถที่ขนส่งในตอนหลัง ทำให้มันยุ่งยาก 

ขณะที่เพจดังกล่าวแจ้งว่า คลิป EP.5 เมื่อไหร่เดี๋ยวบอก พร้อมเปิดสัมภาษณ์พิเศษ คุณสนธิคุยอะไรกับพี่อ้อย พรุ่งนี้ (30 ต.ค.67) เวลา 10.30 น. พบกัน 

ขอบคุณข้อมูล : เพจ “คุยทุกเรื่องกับสนธิ”