ตำรวจแจ้ง 2 ข้อหาการ์ดหัวร้อนชก รปภ.คาสนามบิน

ตำรวจแจ้ง 2 ข้อหาการ์ดหัวร้อนชกรปภ.คาสนามบิน เจ้าตัวแจ้งความกลับคู่กรณีเพราะเสื้อสูทขาดเสียหาย

คอนเทนต์แนะนำ

ดับแล้ว 5 ศพ! นักท่องเที่ยวต่างชาติสังเวยชีวิตให้เหล้าผสมเมทานอลในลาว

ทำถึง! ทีมเชียร์ลีดเดอร์ขอนแก่นวิทยายน จากไวรัลชุดบอดี้มนุษย์และเปรต

รมช.คลัง แนะเข้าเว็บ Welfare.mof.go.th ยืนยันสิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

จากเหตุการณ์ที่นายวรวิทย์ อายุ 41 ปี เป็นการ์ดมาทำหน้าที่รับ VIP ที่อาคารผู้โดยสารขาเข้าชั้นสองประตู 4 แล้วถูกเจ้าหน้าที่รปภ.ของสนามบินไปเตือนให้เคลื่อนรถออกเพราะการจราจรหนาแน่ ทำให้นายวรวิทย์ไม่พอใจ จนเกิดการโต้เถียงกันและนายวรวิทย์ได้ชกเข้าที่ใบหน้าของรปภ.อย่างจังถึง 2 ครั้ง ทำให้ฝ่ายของ รปภ.ไปแจ้งความเอาผิดกับนายวรวิทย์

ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ 7 พ.ย.67 ผู้สื่อข่าวรายงาน พ.ต.อ.จักรพงศ์ นุชผดุง ผู้กำกับการ สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เปิดเผยกับทีมข่าวว่าในส่วนของคดีนี้ เกิดขึ้นวันนี้ 6 พฤศจิกายน 2567 เวลาประมาณ 14.25 น.นายวรวิทย์ ได้นั่งรถยนต์โตโยต้าอัลพาร์ด สีดำมาจอดที่ชานชาลาชั้น 2 ประตู 4 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

จ่าอากาศเอกธนกฤต ได้เข้าไปแนะนำว่า “ถ้ายังไม่พร้อมที่จะจอดรับผู้โดยสารให้ขยับรถออกไปก่อน” นายวรวิทย์ฯ ไม่พอใจจึงเปิดประตูรถยนต์คันดังกล่าวแล้วต่อว่านายธนกฤตฯว่า “ไอ้เ-ี้ยกูจอดรถไม่ได้เหรอ”

นายวรวิทย์ จึงลงจากรถคันดังกล่าวเพื่อมารับผู้โดยสาร นายธนกฤต จึงเดินไปถามนายวรวิทย์ฯว่า “ทำไมพูดจาไม่สุภาพ” นายวรวิทย์ จึงเดินเข้ามาหานายธนกฤต และชกไปที่กรามด้านซ้ายของใบหน้านายธนกฤตฯ 1 ครั้ง ทำให้นายธนกฤตฯ ได้รับบาดเจ็บกรามด้านซ้ายของใบหน้าบวม นายธนกฤตฯจึงมาพบพนักงานสอบสวนเพื่อแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับนายวรวิทย์ ผู้ต้องหาในข้อหาทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงาน ซึ่งกระทำการตามหน้าที่ , ดูหมิ่นเจ้าพนักงาน ซึ่งกระทำการตามหน้าที่จนกว่าคดีอาญาจะถึงที่สุด

จากการสอบสวนนายวรวิทย์ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพในข้อหาทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงาน ซึ่งกระทำการตามหน้าที่แต่ปฏิเสธในข้อหาดูหมิ่นเจ้าพนักงาน ซึ่งกระทำการตามหน้าที่นายวรวิทย์ฯผู้ต้องหาให้การว่าตนจบหลักสูตรอารักขาบุคคลสำคัญ ไม่มีบริษัทเป็นของตนเองทำเป็นฟรีแลนซ์ ได้รับหนังสือรับรองสมรรถนะสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) เข้ามารับลูกค้า ซึ่งเป็นดาราศิลปินชาวจีนไปเมืองทองธานี เพื่อร่วมงาน BYDPRESENTS ซึ่งนายวรวิทย์ ได้ขอประกันตัวไปในวงเงิน 10,000 บาท พร้อมแจ้งความกลับอีกฝ่ายในข้อหาทำให้เสียทรัพย์ เนื่องจากเสื้อสูทขาด ซึ่งพนักงานสอบสวนได้รับแจ้งความไว้แล้วเช่นกัน หลังจากนี้พนักงานสอบสวนจะได้รวบรวมพยานหลักฐานและสอบปากคำพยานบุคคลเพื่อสรุปสำนวนส่งฟ้องศาลจังหวัดสมุทรปราการต่อไป.