สามีภรรยาครอบครัวหนึ่งใน อ.ศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ กำลังได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก นอกจากจะมีฐานะยากจนแล้วยังต้องดูแลลูกชายวัย 27 ปีที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง และแม่ที่แก่ชราวัย 75 ปีที่พิการตาบอดทั้ง 2 ข้าง รวมทั้งยังต้องดูแลลูกคนเล็กวัย 8 ปี และหลานวัย 6 ปี ทำให้ภรรยาต้องคอยดูแล 4 ชีวิตที่อยู่ที่บ้าน ส่วนสามีต้องออกไปทำงานรับจ้างเพียงคนเดียว
ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่าที่ ต.นาสนุ่น อ.ศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ มีสามีภรรยาครอบครัวหนึ่งกำลังได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก เพราะนอกจากจะมีฐานะที่ยากจนแล้ว ทั้งบ้านยังมีผู้อาศัยอยู่ด้วยกันทั้งหมด 6 คน แต่สามารถออกไปทำงานรับจ้างได้เพียงคนเดียว คือ สามีวัย 51 ปี ที่ต้องออกไปทำงานหาเงินมาเลี้ยง 5 ชีวิตในครอบครัว ส่วนภรรยาวัย 48 ปี ซึ่งเคยออกไปทำงานรับจ้างคู่กับสามีก็ต้องหยุดงานมาคอยดูแลลูกชายวัย 27 ปี ซึ่งเดิมมีอาชีพเป็นคนงานก่อสร้างและเป็นเสาหลักของครอบครัว แต่ประสบอุบัติเหตุตกนั่งร้านกลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง และแม่ที่แก่ชราวัย 75 ปีที่พิการตาบอดทั้ง 2 ข้าง รวมทั้งยังต้องดูแลลูกชายคนเล็กอายุ 8 ปี และหลานชายอายุ 6 ปี
จึงเดินทางไปตรวจสอบที่บ้านเลขที่ 47 หมู่ 8 บ้านเนินถาวร ต.นาสนุ่น อ.ศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ พบครอบครัวดังกล่าวอาศัยอยู่ในบ้านไม้ชั้นเดียวมีสภาพเก่าๆ ผุพัง ลักษณะคล้ายกระต๊อบไม่มีประตู ไม่มีแม้แต่ห้องน้ำที่จะใช้ส่วนตัว พบนางสำนวน ท้าวศิริ อายุ 48 ปี ผู้เป็นภรรยาที่ต้องหยุดงานอาชีพรับจ้างทั่วไปมาคอยดูแล 4 ชีวิตที่อาศัยอยู่ในบ้าน
นางสำนวนเล่าว่า ปกติตนและนายผ่อง มีสมบัติ ผู้เป็นสามี มีอาชีพทำงานรับจ้างอยู่ที่ ต.คลองกระจัง อ.ศรีเทพ แต่พอนายเพชร มีสมบัติ ลูกชายซึ่งเดิมมีอาชีพเป็นคนงานก่อสร้างอยู่ที่ จ.สมุทรสาคร และเป็นเสาหลักของครอบครัวได้เกิดอุบัติเหตุตกนั่งร้านความสูงประมาณ 10 เมตในขณะทำงานก่อสร้างอาคารเมื่อวันที่ 10 เมษายนที่ผ่านมา จนทำให้ปัจจุบันกลายเป็นผู้ป่วยติดเตียงเดินไม่ได้ ประกอบกับนางเลี้ยง ท้าวศิริ แม่ของตนก็แก่แล้ว และพิการตาบอดทั้ง 2 ข้าง รวมทั้งยังต้องดูแล ด.ช.อานนท์ มีสมบัติ ลูกชายคนเล็กและด.ช.อนุสรณ์ ศรีสะอาด หลานชาย จึงทำให้ตนต้องอยู่ดูแลบ้านไม่สามารถออกไปทำงานรับจ้างเหมือนเดิมได้ ต้องปล่อยให้สามีออกไปทำงานรับจ้างได้ค่าแรงวันละ 250-300 บาทเพียงลำพัง แต่ต้องเลี้ยงคนในครอบครัวถึง 6 ชีวิต ซึ่งตนก็รู้สึกสงสารสามีมากที่ต้องทำงานหนักเพียงคนเดียว
นางสำนวนเล่าต่ออีกว่า ในช่วงที่ลูกชายคนโตเกิดอุบัติเหตุตกนั่งร้านในขณะทำงานก่อสร้างอาคาร เป็นช่วงที่เชื้อไวรัสโควิดกำลังระบาดหนัก รัฐบาลได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินและประกาศเคอร์ฟิวตั้งแต่ช่วงเวลา 22.00-05.00 น. ทำให้ตนซึ่งไปเฝ้าลูกชายอยู่ที่โรงพยาบาลภูมิพลลำบากมากหาซื้อข้าวกินก็ไม่เป็น ต้องอาศัยซื้อข้าวเซเว่นพอรอดชีวิตมาได้ แต่โรงพยาบาลภูมิพลดูแลดีมากทั้งหมอทั้งพยาบาลจะไม่ลืมบุญคุณเลย
ก่อนเกิดเหตุมีลางสังหรณ์มีความรู้สึกร้อนรนอยากไปวัด พอจัดอาหารเพลเสร็จก็นั่งล้างจานมีคนโทรมาบอกว่าลูกตกนั่งร้านก็รีบตามไปดูลูก เห็นสภาพลูกนอนร้องครวญครางก็เลยจับมือบอกลูกว่าแม่ทำบุญมาเยอะนะแม่อธิษฐานให้ลูกหายถ้าลูกหายแล้วแม่จะให้ลูกบวช ต้องทนดูลูกร้องโหยหวนทรมานนานกว่า 2 เดือน ทุกวันนี้หวังแต่เพียงว่าถ้าลูกชายอาการดีขึ้นสามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ตนก็จะได้ออกไปทำงานรับจ้างช่วยสามีได้อีกแรงหนึ่ง
Advertisement