ศบศ.ไฟเขียว สมทบเงินเดือน 50% จ้างบัณฑิตจบใหม่ 2.6 แสนอัตรา

ศบศ.อนุมัติโครงการจ้างงานบัณฑิตใหม่ปี 62-63 จำนวน 2.6 แสนอัตรา เป็นเวลา 1 ปี ตั้งแต่ต.ค.63-64 โดยจะสมทบเงินเดือน 50% สูงสุดไม่เกิน 7,500 บาทต่อคนต่อเดือน

คอนเทนต์แนะนำ

ดับแล้ว 5 ศพ! นักท่องเที่ยวต่างชาติสังเวยชีวิตให้เหล้าผสมเมทานอลในลาว

ทำถึง! ทีมเชียร์ลีดเดอร์ขอนแก่นวิทยายน จากไวรัลชุดบอดี้มนุษย์และเปรต

รมช.คลัง แนะเข้าเว็บ Welfare.mof.go.th ยืนยันสิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

วันนี้(2 ก.ย.) นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน เปิดเผยหลังที่ประชุม ศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ จากผลกระทบของการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (ศบศ.) ซึ่งมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ เป็นประธาน เห็นชอบมาตรการการจ้างงานสำหรับบัณฑิตจบใหม่ วงเงินรวม 2.3 หมื่นล้านบาท โดยรัฐบาลสมทบจ่ายค่าจ้าง 50% เป็นระยะเวลา 1 ปี ตั้งแต่ เดือน 1 ต.ค. 63 - 30 ก.ย. 64 วัตถุประสงค์หลักเพื่อสนับสนุนการจ้างงานผู้จบการศึกษาใหม่ใน 3 กลุ่ม ได้แก่ ระดับปริญญาตรี ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) และประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.)

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง 
- ชวนเด็กจบใหม่ ทำงานพาร์ตไทม์ 2,396 อัตรา
- เด็กจบใหม่ปีนี้ 5 แสนคนเสี่ยงตกงานถาวร พิษโควิดทำธุรกิจงดรับเพิ่ม

โครงการนี้จะเป็นการจ้างบัณฑิตจบใหม่รวมจำนวน 260,000 คน อัตราค่าจ้างตามวุฒิการศึกษา คือ ปริญญาตรี เดือนละ 15,000 บาท ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) เดือนละ 11,500 บาท และประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) เดือนละ 9,400 บาท ซึ่งรัฐบาลจะให้การสนับสนุนเงินค่าจ้าง 50% ของเงินเดือนตามวุฒิการศึกษา สูงสุดไม่เกิน 7,500 บาทต่อคนต่อเดือน

ทั้งนี้มีเงื่อนไขสำคัญ คือ นายจ้างหรือเจ้าของสถานประกอบการจะต้องอยู่ในระบบประกันสังคม มีการยืนยันตัวตนผ่านกระทรวงแรงงาน และต้องมีเงื่อนไขเลิกจ้างลูกจ้างเดิมไม่เกิน 15% ภายในระยะเวลา 1 ปี (กรณีที่ลูกจ้าง ลาออกในระหว่างโครงการ นายจ้างหรือเจ้าของสถานประกอบการสามารถหาลูกจ้างใหม่ทดแทนได้)

ขณะที่ลูกจ้างที่จะเข้าร่วมโครงการ จะต้องมีคุณสมบัติดังนี้ (1) มีสัญชาติไทย และ (2) อายุไม่เกิน 25 ปี หรืออายุเกิน กว่า 25 ปี ซึ่งสำเร็จการศึกษาในปี 2562 หรือปี 2563