ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 401 เป็นเส้นทางหลักที่เชื่อมระหว่างจังหวัดสุราษฎร์ธานีกับจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยมีเส้นทางเริ่มจากใกล้ ๆ อำเภอตะกั่วป่า ในช่วงแรกเป็นถนน 2 ช่องจราจร จากนั้นวิ่งไปทางตะวันออก เข้าสู่จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยผ่านอำเภอพนมอำเภอบ้านตาขุน อำเภอคีรีรัฐนิคมจากนั้นได้ขยายเป็น 4 ช่องจราจรไปยังอำเภอพุนพิน และต่อไปยังตัวเมืองสุราษฎร์ธานี อำเภอกาญจนดิษฐ์ จากนั้นก็เข้าสู่เขตจังหวัดนครศรีธรรมราชที่อำเภอขนอม แต่ไม่ได้ผ่านตัวอำเภอขนอม จากนั้นก็วิ่งลงใต้ผ่านอำเภอสิชล อำเภอท่าศาลา และสิ้นสุดที่บ้านท่าแพ ประมาณ 10 กิโลเมตร ทางเหนือของตัวเมืองนครศรีธรรมราช ระยะทางทั้งหมดประมาณ 290 กิโลเมตร
แม้จะเป็นทางหลวงที่เชื่อมต่อเพียงสามจังหวัด(ประกอบไปด้วย พังงา สุราษฏร์ธานี และนครศรีธรรมราช) และส่วนใหญ่จะอยู่ในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี แต่ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 401 กลับเป็นทางหลวงสำคัญที่เชื่อมต่อกับสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามของภาคใต้มากมาย
ขุนเขาแห่งป่าฝน อุทยานแห่งชาติเขาสก
อุทยานแห่งชาติเขาสก ดินแดนศูนย์กลางของ "ขุนเขาแห่งป่าฝน" เป็นผืนป่าดิบชื้นผืนใหญ่ที่สุดและมีความสำคัญของภาคใต้ อุดมไปด้วยพืชพรรณมากมายหลายชนิด โดยมีพื้นที่อยู่ในท้องที่อำเภอพนมและอำเภอบ้านตาขุน จังหวัดสุราษฎร์ธานี ส่วนใหญ่เป็นภูเขาสูงต่ำสลับซับซ้อน มีความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติทั้งน้ำตก หน้าผา ถ้ำ และ ทิวทัศน์เทือกเขาหินปูนที่ตั้งตระหง่านเหนือผืนน้ำอ่างเก็บน้ำเขื่อนรัชชประภา จนได้รับการเรียกขานว่า "กุ้ยหลินเมืองไทย"
ความงดงามของอุทยานแห่งชาติเขาสก นั้นเป็นที่ยอมรับสำหรับนักท่องเที่ยวทั่วโลก แม้กระทั่งนิตยสารโว้ค (Vogue) นิตยสารแฟชั่นและเว็บไซต์ท่องเที่ยวชื่อดังของฝรั่งเศส ยังประกาศยกให้ "เขาสก" เป็น1 ใน 8 อุทยานที่สวยที่สุดในโลก
การเดินทาง โดยรถยนต์ให้ใช้ทางถนนทางหลวงหมายเลข 41 ชุมพร - สุราษฎร์ธานี เลี้ยวขวาที่แยกกิโลเมตรที่ 18 สุราษฎร์ธานี เพื่อใช้ทางถนนทางหลวงหมายเลข 401 สุราษฎร์ธานี - ตะกั่วป่า มุ่งหน้าตำบลคลองศก ประมาณ 92 กิโลเมตร เลี้ยวขวาตามป้ายบอกทางเพื่อเข้าสู่อุทยานแห่งชาติเขาสก
เขื่อนรัชชประภาหรือเขื่อนเชียวหลาน กุ้ยหลินเมืองไทย สวยเหมือนสวรรค์บนดิน
เขื่อนรัชชประภา หรือเขื่อนเชียวหลาน ตั้งอยู่ในเขต อช.เขาสก ทิวทัศน์ในอ่างเก็บน้ำเหนือเขื่อนเป็นเกาะแก่ง และเทือกเขาหินปูนสลับซับซ้อนกลางเวิ้งน้ำสี่เขียวมรกตอันสวยงามดึงดูดให้นักท่องเที่ยวมาเยี่ยมเยือน หากมีโอกาสได้ล่องเรือไปนอนแพกลางเขื่อนยามเย็น ตื่นเช้าขึ้นมาพบกับสายหมอกคลอเคลียกับเอกเขาหินปูนตรงหน้าแพนางไพร สำหรับผู้ที่ไม่ได้ล่องเรือก็สามารถชื่นชมกับบรรยากาศร่มรื่นของสันเขื่อน มีร้านอาหารขึ้นชื่อคือ ครัวเชียวหลาน
การเดินทาง พื้นที่บางส่วนตั้งอยู่ในเขต อช.เขาสก ต.เขาพัง อ.บ้านตาขุน ห่างจากตัวเมืองสุราษฎร์ประมาณ 84 กม. รถยนต์ส่วนตัว จากตัวเมืองสุราษฎร์ ใช้ทางหลวงหมายเลข 401 ไปทาง อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา เมื่อถึง อ.บ้านตาขุน เลี้ยวขวาไปตามป้ายบอกทางไปเขื่อนรัชชประภาตามทางลาดยางอีก 13 กม.ถึงบริเวณเขื่อน สำหรับการเดินทางไปเขื่อนรัชชประภา อยู่ที่อำเภอบ้านตาขุน จังหวัดสุราษฎร์ธานี ใส้นทางแยกเข้าสู่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ ขส.2 (แก่งเชี่ยวหลาน) ระหว่างกิโลเมตรที่ 57-58 และ เข้าสู่ไปอีกประมาณ 12 กิโลเมตร ถึงเขื่อนรัชชประภา สามารถนั่งเรือต่อไปหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่อยู่ในอ่างเก็บน้ำได้แก่แพนางไพร แพโตนเตย แพไกรสร อัตราค่าเรือตั้งแต่ 1,800บาทขึ้นไป ระยะทางจากกรุงเทพฯ ถึงที่ทำการอุทยานฯ ระยะทาง 780 กิโลเมตร เดินทางโดยใช้ทางหลวงหมายเลข 4 (ถนนเพชรเกษม) และเลี้ยวขวาเข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 401 (สุราษฎร์ธานี- ตะกั่วป่า) ระยะทาง 91 กิโลเมตรถึงปากทางเข้าที่ทำการอุทยานฯ ที่กิโลเมตรที่ 109 เลี้ยวขวา ระยะประมาณ 1.5 กิโลเมตรถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขาสก ใช้เวลาในการเดินทางทั้งสิ้นประมาณ 8-10 ชั่วโมง
อุทยานแห่งชาติคลองพนม อำเภอพนม จังหวัดสุราษฎร์ธานี
อุทยานแห่งชาติคลองพนม มีเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 256,500 ไร่ หรือ 410.4 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมที่ดินป่าคลองสก และป่าพนม มีสภาพภูมิประเทศเป็นภูเขาสูงชัน ประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ของเนื้อที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขาหินปูน เรียงรายสลับซับซ้อนเชื่อมต่อกันเป็นแนวสันเขายาว จากทิศตะวันตกไปทิศตะวันออกสวยงามมาก เป็นแหล่งต้นน้ำของคลองพนมและคลองสกไหลไปรวมกับคลองแสงเป็นต้นกำเนิดของคลองพุมดวง คลองสาขาหนึ่งของแม่น้ำตาปี
สภาพป่าโดยทั่วไปเป็นป่าดงดิบที่มีความอุดมสมบูรณ์ คุณสามารถเดินป่าชมพันธุ์ไม้หายาก ทั้งบัวผุด ตะเคียน ตาเสือ จิก เขา กระท้อน ขนุนป่า เสียดช่อ อินทนิล นากบุด หงอนไก่ จำปาป่า ฯลฯ ได้ในเส้นทางที่ไม่ยากเกินไป ความสมบูรณ์ของทรัพย์ธรรมชาติที่หลากหลายของอุทยานฯ คลองพนม ทำให้ที่นี่มีสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติ และกิจกรรมผจญภัยเด่นหลากหลายให้คุณเลือกเที่ยวเลือกทำ ไม่ว่าจะเป็นการเดินศึกษาธรรมชาติในเส้นทางศึกษาธรรมชาติต้นไม้ใหญ่ จุดเริ่มต้นอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ประมาณ 200 เมตร ตลอดระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร คุณจะได้ชมต้นกระบากขาว ที่วัดรอบต้นได้ถึง 12 เมตร และยังมีจุดชมทิวทัศน์บนโขดหินที่สวยงามโดดเด่น
การเดินทาง จากตัวเมืองจังหวัดสุราษฎร์ธานี ให้ขับรถไปตามทางหลวงหมายเลข 401 ถนสายสุราษฎร์ธานี-ตะกั่วป่า ผ่านบริเวณที่ดินของหน่วยงานสหกรณ์นิคมพนม ก็จะถึงปากทางเข้าที่ทำการอุทยานแห่งชาติคลองพนม
น้ำตกวิภาวดี (น้ำตกบ้านใน)
น้ำตกบ้านในมีชื่อเรียกเป็นทางการว่า น้ำตกวิภาวดี ซึ่งเป็นชื่อที่ตั้งขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติแด่พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวิภาวดี รังสิต ซึ่งในการเสด็จเยี่ยมเมืองดอนสักครั้งแรก เมื่อ วันที่ 21 มีนาคม 2513 พระองค์ได้เสด็จมาทางรถยนต์ และได้ทรงประทับแรมที่น้ำตกบ้านในเป็นเวลา 1 คืน รุ่งขึ้นได้ปฏิบัติพระกรณีกิจที่โรงเรียนวัดคีรีวงศ์ แล้วเสด็จต่อไปยังวัดเขาสุวรรณประดิษฐ์ ที่ดอนสักต่อไป
น้ำตกวิภาวดีตั้งอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองยัน ม.8 ต.ตะกุกใต้ กิ่งอำเภอวิภาวดี จ.สุราษฎร์ธานี เป็นน้ำตกที่สวยงามมาก สายน้ำที่ไหลตามลำคลองบ้านใน ที่เป็นลำธารหิน มีลำดับชั้นของน้ำตกจำนวน 9 ชั้น ชั้นที่สวยงามและโดดเด่น คือ โตนไทร โตนลม และโตนซอง สภาพโดยทั่วไปร่มรื่นไปด้วยพฤกษชาติ สายน้ำ และแก่งหิน
การเดินทาง จากตัวเมืองสุราษฎร์ใช้ทางหลวงหมายเลข 401 ผ่านอำเภอกาญจนดิษฐ์ ไปเกือบถึงแยกบ้านใน ตรงสะพานข้ามคลองบ้านใน ทางขวามือเป็นน้ำตกบ้านใน ไปกลับรถข้างหน้า เพื่อไปเที่ยวน้ำตก โดยส่วนของน้ำตกเปิดทำการให้นักท่องเที่ยวพักผ่อน ตั้งแต่เวลา 8.30 - 16.00 น.
เขาพลายดำ มังกรทะเลใต้
เขาพลายดำ มีสมญานามว่า "มังกรทะเลใต้" เป็นเขาที่มีลักษณะเป็นภูเขาที่ติดทะเลตรงแนวรอยต่อเขตอำเภอขนอมและอำเภอสิชล พร้อมไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวที่หลากหลาย อาทิ ทุ่งใสนุ่น หาดทุ่งใส ผาพลายดำ อ่าวท้องยาง หินกอง หินที่มีการเรียงตัวที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ และจุดชมผีเสื้อ ซึ่งบริเวณชายหาด สามารถลงเล่นน้ำได้ อีกทั้งยังเป็นจุดชมวิวที่สวยงาม นักท่องเที่ยวสามารถมองไปได้ไกลถึงเกาะสมุยและเกาะพงัน ยิ่งช่วงเวลาที่พระอาทิตย์ลับขอบฟ้า แสงอาทิตย์อัสดงบรรจบกับน้ำทะเลส่องประกายสีทองระยิบระยับประทับอยู่ในใจนักท่องเที่ยวอย่างไม่รู้ลืม
การเดินทาง หากขับรถยนต์ใช้ทางหลวงหมายเลข 401 ขับไปถึงกิโลเมตรที่ 98 ให้เลี้ยวขวาเข้าหมู่บ้านบางปอขับไปประมาณ 10 กิโลเมตรจนถึงหาดท้องยาง เดินทางต่อไปอีก 5 กิโลเมตรก็จะถึงเขาพลายดำ
อย่างไรก็ตามท่านที่ต้องการสอบถามข้อมูลการเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ หรือขอความช่วยเหลือบนทางหลวง สามารถสอบถามข้อมูลได้ที่สายด่วน กรมทางหลวง 1586 โทรฟรี 24 ชม. ขอบคุณเส้นทางดีๆ ที่นำความสุขมาให้เรา
Advertisement