Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
โมเดลลิ่งสัตว์ ทำเพื่อความบันเทิงได้ แต่ต้องไม่ทรมาน-ฝืนธรรมชาติสัตว์

โมเดลลิ่งสัตว์ ทำเพื่อความบันเทิงได้ แต่ต้องไม่ทรมาน-ฝืนธรรมชาติสัตว์

13 พ.ย. 67
13:48 น.
|
214
แชร์

โปรดทราบ บุคคลในสัมภาษณ์นี้ไม่ใช่เจ้าของโมเดลลิ่งสัตว์หรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับกรณีแมวดำถูกวางยาสลบ เป็นเพียงบุคคลที่ทำธุรกิจ Pet Modeling อย่างถูกต้อง และให้ข้อมูลเกี่ยวกับ Pet Modeling ที่หลายคนไม่รู้ว่ามีธุรกิจนี้ในประเทศไทยเท่านั้น

โมเดลลิ่งสัตว์ หรือ Pet Modeling ถูกพูดถึงเป็นอย่างมากในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังมีกระแสดรามาจากละครแม่หยัว ฉากที่แมวดำถูกวางยาสลบเพื่อให้เข้ากับบทบาทแมวถูกวางยาพิษ จนมีอาการชักกระตุกและสำรอกอาหารออกมา กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักทั้งในโลกออนไลน์และออฟไลน์

โดยทางช่อง ONE 31 ได้ออกมาแถลงการณ์ชี้แจ้งถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ในช่วงต้นของแถลงการณ์นั้นได้มีการระบุว่า แมวที่นำมาถ่ายทำนั้นมาจากบริษัทโมเดลลิ่งสัตว์ ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในการนำสัตว์ร่วมถ่ายทำละครและภาพยนตร์โดยเฉพาะมากว่า 10 ปี และเป็นเจ้าของแมวตัวดังกล่าว รวมถึงเป็นผู้ดูแลแมวตลอดระยะเวลาการถ่ายทำในทุกขั้นตอน

แต่ก็ไม่วายถูกสังคมตั้งคำถามอีกว่าโมเดลลิ่งสัตว์ดังกล่าวคือที่ไหน ใครเป็นเจ้าของ และทำไมถึงปล่อยให้น้องแมวมาเข้าฉากแบบนั้น ขณะที่สังคมอีกส่วนเพิ่งรับรู้ว่าบ้านเรามีโมเดลลิ่งสัตว์ส่งสัตว์รับงานแสดงด้วย

อมรินทร์ออนไลน์สัมภาษณ์ "ครูตี๋ คุณากร อมรานันทมงคล" เจ้าของ INE Pet Modeling รับจัดหาสัตว์เลี้ยงสำหรับงานแสดง ที่มีผลงานของน้องๆ สัตว์ผ่านตามาแล้วหลายผลงาน ไม่ว่าจะเป็น โฆษณาอาหารแมว Me o x บิวกิ้น , โฆษณาอาหารสุนัข Smart Heart x เจมส์ จิรายุ , เอ็มวีเพลง เหว ของ Bodyslam , เอ็มวีเพลงตอนจบที่สวยงาม ของ โอบ นิธิ , ในภาพยนตร์บ้านเช่าบูชายัญ รวมถึงเคยร่วมงานกับกองถ่ายต่างประเทศ เช่น GirlGroup ของประเทศเกาหลี , กองโฆษณาของฝรั่งเศส ทั้งสองส่วนนี้ครูตี๋ก็เคยนำน้องสัตว์ไปเข้าฉากมาแล้ว มาเล่าเรื่องราวของ Pet Modeling ที่กำลังถูดพูดถึงในโลกออนไลน์ ว่าด้วยธุรกิจนี้คืออะไร รับงานแบบใดให้น้องๆ นักแสดงที่เป็นสัตว์

โมเดลลิ่งสัตว์ เป็นการจัดหานักแสดงสัตว์ที่ได้รับมอบหมายจากทีมงานที่ว่าจ้างครับ จริงๆ สิ่งนี้เริ่มขึ้นมาจากตัวผมเองที่เป็นคนรักสุนัขอยู่แล้ว ผมเลี้ยงสัตว์หลายอย่างทั้งน้องหมาน้องแมว บวกกับตัวผมเองเป็นครูฝึกด้วย พอเราฝึกน้องไปเรื่อยๆ ระหว่างฝึกก็ลงคลิประหว่างการฝึกของน้องด้วย ก็เริ่มมีทีมงานติดต่อมาว่าอยากได้สุนัขของเราไปเข้าฉากงานแสดง พอเริ่มรับงานมาเรื่อยๆ ก็เลยมีความคิดว่าหรือเราจะทำโมเดลลิ่งอย่างจริงจังดีกว่า ก็เลยเป็นที่มาของการเปิดโมเดลลิ่งสัตว์เลยครับผม ซึ่งสัตว์ที่อยู่ในโมเดลลิ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นของผมเอง แล้วก็ของลูกศิษย์ที่ผมฝึกไว้ด้วยครับ แต่การจะรับงานแต่ละงานได้นั้น ถ้าเป็นสัตว์ของลูกศิษย์ ผมก็จะคุยกับเจ้าของเขาก่อนครับว่าเขาสะดวกหรือเปล่าที่จะให้น้องรับงาน เพราะบางคนเขาไม่สะดวกให้เอาน้องไปออกหรือไปถ่ายงานครับ

สัตว์ในโมเดลลิ่งสัตว์ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นสุนัขเป็นหลักครับ รองลงมาก็จะเป็นน้องแมว นก กับม้าครับ เพราะน้องๆ เหล่านี้เขาอยู่ในกลุ่มที่ฝึกได้ง่ายกว่าสัตว์อื่นๆ

รับงาน...สิ่งแรกที่ต้องดูคือ "บท"

งานส่วนใหญ่ที่ทางโมเดลลิ่งของผมรับก็จะเป็นทุกอย่างเลยครับ โฆษณา เอ็มวี ภาพยนตร์ โดยปกติเวลามีงานติดต่อมา เราก็จะดูบทก่อนว่าบทที่ได้รับมามันยากง่ายแตกต่างกันมากน้อยแค่ไหน แต่ส่วนใหญ่ที่ทีมงานติดต่อของผมมาจะเป็นงานด่วน เป็นงานที่จะต้องถ่ายภายในวันสองวันนี้ หากเป็นงานแบบนี้ผมก็จะใช้น้องหมาของผมที่ฝึกมาเก่งๆ มาแล้วรับงานก่อน เราก็จะเสนอว่าตัวนี้สามารถทำตามโจทย์ที่ต้องการให้ได้นะ ประมาณนี้ครับผม เพราะเวลาเรารับงานก็จะเลือกบทที่เรารู้สึกว่าน้องๆ สัตว์ของเราสามารถทำได้ ทำได้แน่ๆ แล้วก็ไม่ทำให้ทีมงานเสียเวลาครับผม เพราะเวลาถ่ายเวลาทำงานพวกนี้จะใช้เวลาถ่ายทำแต่ละครั้งค่อนข้างนาน เรารู้สึกว่าเราไม่ทำให้ทีมงานเขาเสียเวลากับเราดีกว่า

งานยากงานเสี่ยงทำสัตว์เครียด คือปฏิเสธทันที

ส่วนใหญ่ถ้าผมรู้สึกว่ามันยากเกินไป ดูแล้วน้องหมาน้องแมวน่าจะเหนื่อยเกินไป น้องๆ ไม่น่าจะทำได้ เราจะปฏิเสธไปครับ ที่ผมเคยเจอก็จะเป็นกลุ่มของน้องแมว เขาอยากให้น้องแมวขึ้นวิ่งบนลู่วิ่งเหมือนน้องหมา ถามว่าทำได้ไหมมันก็ทำได้ แต่เราจะรู้สึกว่ามันค่อนข้างยาก และทำให้น้องแมวเครียดได้ง่ายๆ ครับ ผมก็เลยไม่ขอรับดีกว่า

คือถ้าเป็นบทที่ทำให้น้องหมาน้องแมวเขาเกิดความเครียดหรือรู้สึกเครียดจนเกินไป ผมก็จะไม่เสี่ยงรับงานให้น้องๆ เพราะบางทีบางงานแต่ละงานก็จะมีเจ้าของน้องหมาน้องแมวไปด้วย แล้วถ้าเรารับงานแล้วมันทำให้น้องหมาน้องแมวเครียดเกินไป เจ้าของก็อาจจะมองเราไม่ดีได้ครับ ผมก็เลยคิดว่างั้นเราไม่เสี่ยงดีกว่า

สิ่งที่ต้องระวังในงานชนิดนี้

ก่อนทำงานผมก็จะคุยกับทีมงานก่อนว่า บทแต่ละบทก็มีความยากง่ายแตกต่างกันไป แล้วสัตว์เลี้ยงแต่ละตัวเขาก็มีความเครียดแตกต่างกันออกไป อย่างบางทีแอคชั่นที่น้องหมาน้องแมวทำไม่ได้ เราก็จะต้องแจ้งทีมงานไปตรงๆ เลยว่า น้องทำไม่ได้นะครับ อย่าฝืนเลย เพราะถ้าเกิดฝืนไปแล้วมันจะไม่คุ้มค่ากันนะ ถ้าเกิดความผิดพลาดขึ้นมามันอาจเกิดความอันตรายกับน้องได้ ผมก็จะเลี่ยงๆ แล้วก็จะแจ้งกับทีมงานโดยตรงว่าเราไม่สามารถทำได้ครับ แต่ถ้าเกิดทีมงานยืนยันว่าอาจจะให้น้องหมาน้องแมวลองดูก่อน ถ้านิดๆ หน่อยๆ ผมก็อาจจะหยวนให้ลองเทสดู แต่ถ้าเทสต์แล้วมันไม่ได้จริงๆ เราก็จะไม่ฝืนครับ อย่างเช่น การฝืนธรรมชาติ ยกตัวอย่างเช่น ให้น้องแมววิดพื้น ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้เลยครับที่เราเคยเจอ คือน้องไม่ใช่คนครับมันเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะทำแบบนั้นได้ เราก็จะแจ้งเลยว่าไม่สามารถทำได้จริงๆ

ถ้าเป็นทางฝั่งน้องหมา ก็จะเป็นส่วนน้อยกว่าสำหรับบทที่ทำไม่ได้ เพราะน้องหมาน้องแมวบทที่เขาได้รับจะแตกต่างกัน แล้วส่วนใหญ่แมวจะฝึกยากกว่าน้องหมาอยู่แล้ว น้องหมาเนี่ยเราสามารถดูแอคติ้งของเขาได้ว่าเขาได้ประมาณไหน แล้วเขาสามารถฝึกได้ง่ายกว่าครับ ดังนั้นอะไรที่รู้สึกว่าทำไม่ได้ผมว่าทางน้องหมาจะมีน้อยกว่าครับ

ค่าตัวน้อง

ค่าตัวน้องหมาน้องแมวแต่ละงานก็อยู่ที่ความยากง่ายของงานครับ แล้วก็ตามสายพันธุ์ของน้องแต่ละสายพันธุ์ครับ เพราะว่าบทแต่ละบทมีความยากง่ายแตกต่างกันไป งบประมาณต่างๆ ก็จะแตกต่างกันออกไป ตัวน้องหมาน้องแมวบางสายพันธุ์ก็อาจราคาสูงหน่อยครับ

"จรรยาบรรณ" ที่ต้องมี ในการทำธุรกิจนี้

ถ้าของผม อย่างแรกเลยก็ต้องรักสัตว์เลี้ยงก่อนครับ แล้วก็ต้องสื่อสัตว์กับงานที่เราได้รับ เพราะงานกองถ่าย มันมีความกดดันค่อนข้างสูง การที่เราเอาสัตว์ที่แสดงไปไม่ได้ เขาทำไม่ได้ แต่บางทีเราเอาเขาไปเพราะเราอยากได้เงิน มันก็คือเรื่องของความไม่ซื่อสัตย์ต่องานแล้ว อย่างของผมถ้าเป็นงานที่ทำไม่ได้ เราก็จะไม่รับครับ เพราะว่างานพวกนี้เวลาเราทำเราก็ต้องแจ้งทีมงานโดยตรง เพราะถ้าเกิดมันผิดพลาดขึ้นมามันก็จะทำให้ทีมงานที่ถ่ายทำกับเราเสียเวลาไปด้วย

สัตว์กับการออกสื่อบันเทิงไม่ใช่เรื่องผิด แต่ต้องไม่ทรมานเขา

ในมุมมองส่วนตัวของผมนะครับ ผมมองว่าสมัยนี้ไม่ว่าจะอะไรก็ตาม สัตว์เลี้ยงแทบจะเป็นส่วนหนึ่งกับชีวิตของทุกๆ บ้านไปแล้วนะครับ ฉะนั้นผมมองว่าสัตว์เลี้ยงก็เป็นส่วนหนึ่งของการออกสื่อ ยกตัวอย่างทุกวันนี้หมู่บ้านก็ต้องมีสัตว์เลี้ยง อาหารต่างๆ ก็ต้องมีสัตว์เลี้ยง อะไรต่างๆ ก็มีสัตว์เลี้ยงเต็มไปหมด ทุกวันนี้กลายเป็น pet friendly ไปหมดแล้ว ดังนั้นผมมองว่าสัตว์เลี้ยงกับสื่อมันเป็นอะไรที่สามารถไปด้วยกันได้ เพียงแต่ว่าบางสิ่งบางอย่างที่รู้สึกมันไม่ดีไม่งามก็อาจจะต้องหลีกเลี่ยง สำหรับผมคิดแบบนี้นะครับ

อะไรที่รู้สึกมันสามารถโชว์ความน่ารักได้มันก็เป็นสิทธิ์เป็นสิ่งที่ดีที่สามารถสื่อออกมาได้ และตราบใดที่เราไม่ได้ไปทำให้เขาทรมานหรือเจ็บปวดด้วยครับ

Advertisement

แชร์
โมเดลลิ่งสัตว์ ทำเพื่อความบันเทิงได้ แต่ต้องไม่ทรมาน-ฝืนธรรมชาติสัตว์