วันนี้ (15 พ.ย.67) พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ (หลวงพี่น้ำฝน) เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม อ.เมือง จ.นครปฐม ได้แจ้งเรื่องด่วนซึ่งเป็นเอกสารสำคัญในการสั่งให้พระครูปลัดธีรธนัชเมตตฺตธมฺโม สังกัดวัดสามชุก จังหวัดสุพรรณบุรี ให้พ้นจากสังกัดวัดสามชุก มีผลวันที่ 15 พฤศจิกายนพ.ศ.2567 หลังจากมีการประกาศหาตัวตั้งแต่เมื่อวาน (14พ.ย.) แต่ยังไม่มีใครแจ้งว่าเจ้าตัวยังสังกัดอยู่ที่วัดสามชุก ตามที่ได้เคยมีการรับปากและไปรายงานตัวแล้ว
หลวงพี่น้ำฝนเจ้าอาวาวัดไผ่ล้อม ในฐานะประธานพระวินยาธิการคณะภาค14 บอกว่าวันนี้ได้รับหนังสือซึ่งเป็นเอกสารสำคัญที่ ๘๓/๒๕๖๗ วันที่ ๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ จากวัดสามชุก ลงนามโดยพระครูสุวรรณวิจิตร เจ้าอาวาสวัดสามชุก ซึ่งเอกสารดังกล่าวถือว่าพระครูปลัดธีระฯ จะกลายเป็นพระไร้สังกัดทันที ซึ่งต้องมีการติดตามตัวให้มาทำการสอบสวนจากหลายฝ่าย และทำการสึกให้จบกระบวนการทางกฎหมาย
ซึ่งในหนังสือได้มีการระบุชัดเจนว่า ท่านเจ้าอาวาสวัดสามชุกได้มีความเอื้อมระอากับพฤติกรรมของพระครูปลัดธีระฯ และการที่มีหนังสือสั่งการออกมาเช่นนี้ ก็เกิดจากการทำงานเต็มที่ของคณะพระวินยาธิการ ที่ทำงานร่วมกัน และทางพระปลัดธีระ จะมาอ้างอีกว่าเป็นเอกสารปลอมไม่ได้ เพราะอาตมาได้รับหนังสือมาจากคณะสงฆ์จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งขณะนี้ก็ได้ทราบข้อมูลจากท่านอินทราพร จั่นเอี่ยม ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติว่า จะมีการออกหนังสือเวียน ไปยังวัดทั่วประเทศเกี่ยวกับการติดตามตัว และการรับพระเข้าสังกัดในเรื่องนี้แล้ว ซึ่งหากพบตัวที่ใดก็จะต้องมีการเรียกตัวมาสอบสวนได้ทันที
"ครั้งนี้จะถือเป็นครั้งแรกที่เป็นการติดตามพระที่ปฏิบัติไม่เหมาะสมอย่างชัดเจนก็ว่าได้เนื่องจากญาติโยมก็ความเบื่อหน่ายกับพฤติกรรมของพระครูปลัดธีระฯ ซึ่งกระทำให้เกิดความเสื่อมในคณะสงฆ์อาตมาพบญาติโยมทุกที่ก็เสียงเดียวกันว่าเบื่อหน่ายกับพฤติกรรมที่ปรากฏแต่อาจจะมาก็ไม่คิดจะเป็นการซ้ำเติมใดใดเพราะถ้าท่านปฏิบัติดีแล้วก็จะต้องมีคนออกมาปกป้องท่านไปแล้ว"
หลวงพี่น้ำฝน บอกอีกว่า สำหรับเรื่องนี้มีความชัดเจนคือการปกครองของคณะสงฆ์ต้องเริ่มที่เจ้าอาวาสเป็นหลัก เพราะท่านเป็นผู้ดูแลพระในสังกัดหากพระลูกวัดประพฤติไม่เหมาะสมในฐานะที่ท่านเป็นผู้ดูแลก็มีอำนาจในการขับออกหรือสั่งให้ลาสิขาได้ทันทีไม่จำเป็นต้องเดือดร้อนไปถึงเจ้าคณะตำบล เจ้าคณะอำเภ อเจ้าคณะจังหวัด ซึ่งในกรณีของพระครูปลัดธีระฯ ก็ชัดเจนว่ามีความกระด้างกระเดื่อง เพราะเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน ก็ได้มีการไปพบกับท่านเจ้าอาวาส และมีการถ่ายคลิปเอาไว้เป็นหลักฐาน แต่วันต่อมาก็ได้มีการเดินทางไปที่กองปราบปรามและมีการแถลงข่าวจนเป็นประเด็นที่สังคมมองไปในทางเสื่อมเสีย
หลวงพี่น้ำฝนกล่าวต่อไปว่า สำหรับสถานะของพระครูปลัดธีระฯตอนนี้คือท่านยังมีสภาพในการห่มผ้าเหลืองอยู่ ซึ่งหากใครเจอตัวก็จะต้องนำมาสอบสวน และทำการสึกเนื่องจากท่านเป็นพระที่ไม่มีสังกัดแล้ว
โดยสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติให้มีการนำตัวมาสอบสวนอีกก็เป็นอีกกรณีหนึ่งด้วย อาตมาย้ำว่าพระสงฆ์ทุกรูปต้องอยู่ภายใต้กฎของมหาเถรสมาคมเป็นหลัก ที่สำคัญพระสงฆ์จะต้องอยู่วัดตลอดเวลาไปไหนมาไหนจะต้องมีการแจ้งเจ้าอาวาสให้ทราบและต้องมีการขออนุญาตให้ถูกต้อง ซึ่งตอนนี้อยากให้พุทธศาสนิกชนหรือญาติโยมได้มีมุมมองอีกหนึ่งมุมคือ พระที่ปรากฏเป็นข่าวเป็นเพียงพระเล็กน้อยที่ก่อเรื่องเสื่อมเสีย เรายังมีพระสงฆ์ดีดีอยู่มากมายในประเทศของเราแต่ข่าวก็มักจะมีแต่ข่าวเสียเสียของพระบางรูปที่ประพฤติไม่เหมาะสมออกไป
หลวงพี่น้ำฝน กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับกรณีของพระครูปลัดธีระฯตอนนี้หากใครพบเห็นสามารถติดต่อประสานงานมาที่หมายเลขโทรศัพท์มือถือของอาตมาโดยตรงหรือจะแจ้งไปยังสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติสำนักงานพระพุทธศาสนาประจำจังหวัดนั้นๆได้ทันที และขอเน้นย้ำว่า นับจากนี้ในคณะสงฆ์ภาค14 ที่อาตมาอยู่ในสังกัด และทำงานอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของพระธรรมวชิรานุวัตรเจ้าคณะภาค14 จะมีการเข้มงวดและติดตามพฤติกรรมของพระสงฆ์ที่ประพฤติตนไม่เหมาะสมซึ่งญาติโยมและประชาชนทั่วไปก็สามารถที่จะช่วยกันติดตามแจ้งข่าวหรือรายงานข้อมูลให้ทราบเพื่อช่วยจรรโลงพระพุทธศาสนาของเราได้ด้วยเช่นกัน
Advertisement