เศร้า! สูญเสีย ป๋าโอ ปธ.มูลนิธิสว่างสงขลาร่วมใจ ขณะช่วยน้ำท่วมสงขลา

เศร้า! สูญเสีย ป๋าโอ ปธ.มูลนิธิสว่างสงขลาร่วมใจ ลื่นล้มดับ ขณะตั้งศูนย์ช่วยน้ำท่วมสงขลา ลูกชายเผยลางสังหรณ์ บอก ตอนนี้ทุกคนหมดกำลังใจ ขาดเสาหลัก

วันที่ 29 พ.ย. 67จากกรณีเจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างสงขลาร่วมใจรับภารกิจเข้าร่วมเจ้าหน้าที่ทหารในพื้นที่ อ.เทพา จ.สงขลา ปรากฎว่าระหว่างรับภารกิจเข้าช่วยเหลืออพยพชาวบ้านในพื้นที่ อ.เทพา และกลับที่ตั้งค่ายลพบุรีราเมศวร์ ก็ได้เกิดเจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างสงขลาร่วมใจได้เสียชีวิตระหว่างปฎิบัติหน้าที่ 

คอนเทนต์แนะนำ

สุริยะ แจ้ง 14 วันรื้อถอนคานถล่ม สส.ไอซ์ –สส.ฟลิ้นบุกถามหาความปลอดภัย

เพลิงไหม้บ้านไม้ 2 ชั้น ลุงวัย 50 ปี ดับคากองเพลิง

"วุ้นเส้น-หนิง" รักตัวเองมากขึ้น ตามวันเวลาและแผลที่เกิดขึ้นในชีวิต

ทราบชื่อนาย บุญฤทธิ์ ทองเกิด หรือ ป๋าโอ อายุ 58 ปี ประธานมูลนิธิสว่างสงขลาร่วมใจ 

ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงพื้นที่มูลนิธิสว่างสงขลาร่วมใจ ต.บ่อยาง อ.เมือง จ.สงขลา เพื่อสอบถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ระหว่างที่ผู้สื่อข่าวเดินเข้าไปในมูลนิธิพบว่าเจ้าหน้าที่หมดกำลังใจและยังอยู่ในโศกเศร้าเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะที่ต้องมาสูญเสียหัวเรือใหญ่ของมูลนิธิสว่างสงขลาร่วมใจ 

จากนั้นผู้สื่อข่าวได้พบกับนาย ณภัทร ทองเกิด อายุ 27 ปี ซึ่งเป็นลูกชายและได้เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า มูลนิธิสว่างสงขลาร่วมใจได้รับภารกิจเข้าร่วมเจ้าหน้าที่ทหารช่วยอพยพผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ อ.เทพา โดยใช้ค่ายลพบุรีราเมศวร์เป็นศูนย์อพยพ ระหว่างที่กลับจากช่วยอพยพชาวบ้าน กลับมาที่ตั้งได้มีชาวบ้านเดินมาบอกว่าพบผู้ชายล้มอยู่ในห้องน้ำจึงได้เดินไปดู พบว่าเป็นพ่อของตนที่ล้มอยู่ในห้องน้ำ ตนจึงได้ตรวจดูชีพจรพบว่าไม่มีชีพจร ก็ได้พยายามปั้มหัวใจและชีพจรกลับมาปกติอีกครั้ง 

จากนั้นปรากฎว่าชีพจรเต้นแผ่วเบาอีกครั้ง ก็ได้แจ้งเจ้าหน้าที่ทหารช่วยนำส่งโรงพยาบาลใกล้เคียงที่สุด โดยใช้รถทหาร แต่ระหว่างนำส่งเจออุปสรรคน้ำท่วมถนนไหลเชียว เจ้าหน้าที่ทหารพยายามฝ่ากระแสน้ำไปให้ได้มุ่งหน้าไปโรงพยาบาลจะนะ แต่ด้วยกระแสน้ำเชียวกราด บวกกับเส้นทางมืด ทำให้เสียเวลาในการเดินทาง ซึ่งใช้เวลา 30 นาที แต่ก็ไม่ทันการณ์ พ่อของตนได้เสียชีวิตระหว่างทาง 

ซึ่งก่อนหน้านี้มีลางสังหรณ์หลายครั้งเกิดขึ้นระหว่างทางไปรับภารกิจ ตนได้บอกกับพ่อว่า พวกเรากลับที่ตั้ง อ.เมือง จ.สงขลาก่อนดีไหม เพราะเกิดลางสังหรณ์ไม่ดี พ่อของตนบอกว่าชาวบ้านกำลังรอเราอยู่ เราต้องไปให้ถึงให้ได้ต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด จากนั้นตนก็ทำตามที่พ่อบอก และก่อนหน้าพ่อก็มีอาการเดินเซจะล้มอยู่แล้ว ก็มาเกิดเหตุการณ์ขึ้น ตนจึงตัดสินใจนำเจ้าหน้าที่ทั้งหมดกลับที่ตั้งศูนย์มูลนิธิสว่างสงขลาร่วมใจ ตอนนี้เจ้าหน้าที่ทุกคนหมดกำลังใจ เพราะขาดหัวหลักของมูลนิธิไป ส่วนศพตอนนี้อยู่โรงพยาบาลสงขลา และจะทำพิธีศพในวันที่ 30 พ.ย. ที่วัดแหลมทราย อ.เมือง จ.สงขลา