ทะเลระนองเดือด! เรือประมง 50 ลำ เร่งเครื่องไม่คิดชีวิต หลังถูก 3 เรือรบทหารเมียนมากราดยิงในน่านน้ำไทย ก่อนยึดเรือ 2 ลำ ขณะที่ลูกเรือโดดน้ำหนีตาย
เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 30 พ.ย. 67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลจังหวัดระนอง หรือ ศรชล.ระนอง ได้รับแจ้งเหตุกลุ่มเรือประมงอวนดำจำนวน 50 ลำว่า ขณะเปิดไฟและวางอวนล้อมอยู่ในน่านน้ำไทยห่างจากเกาะพยาม ด้านทิศตะวันตกประมาณ 5 ไมล์ทะเล ได้ถูก 3 เรือรบทหารเมียนมากราดกระสุนเข้าใส่ ขณะแล่นเข้าหา เพื่อทำการยึดเรือประมงไทย
กลุ่มเรือประมงทั้งหมดที่อยู่ในละแวกดังกล่าวต่างตัดอวนดำทิ้ง และแล่นหนีตายเร่ง เครื่องอย่างไม่คิดชีวิต วิ่งเข้าเกาะพยามที่มีเรือตรวจการณ์ไทยลอยลำอยู่จึงประสานงานให้เรือ ต.274 และเรือ ต.993 เข้าทำการสกัดกั้น และให้การช่วยเหลือทันที
โดยเรือประมงไทย 2 ลำ คือ เรือดวงทวีผล 333 และเรือส.เจริญชัย 8 หนี 2 เรือรบทหารเมียนมาไม่ทัน จำเป็นต้องสละเรือทิ้ง ไต๋เรือและลูกเรือกระโดดน้ำลงทะเลหนีตายทั้งหมด ก่อนเรือประมงในกลุ่มเข้าช่วยได้ทั้งหมด หลังเรือรบทหารเมียนมาได้ทำการยึดเรือ และชักลากกลับไปในน่านน้ำเมียนมาฝั่งจังหวัดเกาะสอง ส่วนเรือประมงอีกลำคือ เรือมหาลาภธนวัฒน์ 4 ถูกเรือรบทหารเมียนมาลำที่ 3 เข้าไล่จับ และสาดกระสุนใส่ตัวเก๋งห้องบังคับเรืออย่างหนัก ไต๋เรือวัย 47 อาศัยประสบการณ์บังคับเรือตีวงล้อมฝ่าห่ากระสุนที่ถูกยิงใส่ราวสายฝน โดยตัวเองถูกยิงเฉียดกะโหลกศีรษะ หนังศีรษะเปิดเลือดอาบเต็มหน้า แต่กัดฟันหนีตายกลับเข้าเกาะมาได้ ก่อนเรือ ต.274เข้ารับตัวระหว่างทาง พร้อมลูกเรืออีกรายที่ถูกกระแสไฟฟ้าเรือช็อตเข้าที่มือ ขณะหนีหลบภัยลงห้องเครื่องใต้ท้องเรือ
โดยเมื่อเวลา 02.40 น. หน่วยกู้ชีพกู้ภัยมูลนิธิระนองสงเคราะห์ พร้อมหน่วยกู้ชีพรพ.ระนองได้รับการประสานจาก ศรชล.ระนอง ให้มารับตัวผู้บาดเจ็บจำนวน 2 ราย ที่ท่าเรือน้ำลึกระนอง ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.ระนอง จึงส่งรถพยาบาลฉุกเฉินจำนวน2ลำเข้าทำการรับตัวผู้บาดเจ็บทันที และมีหน่วยงานจากทหารเรือทัพภาค 3 ทั้ง ศรชล.ระนอง และศูนย์ประสานงานประมงชายแดนทางทะเลไทย-เมียนมา (ศปชล.ทม.)
จนเมื่อเวลา 03.30 น. เรือต.274 ได้เข้าเทียบฝั่งที่ท่าเรือน้ำลึกก่อนอาสาสมัครกู้ภัยนำบอร์ดกระดานหรือเปลลงไปรับผู้บาดเจ็บ รายแรกคือลูกเรือชาวเมียนมาที่ถูกกระแสไฟฟ้าช็อตขึ้นมาจากเรือตรวจการณ์ ส่วนอีกรายคือ นายศรีเพ็ชร บุตรทัด อายุ 47 ปี ไต๋เรือมหาลาภธนวัฒน์ 4 มีผ้าก็อตม้วนพันรอบศีรษะ สามารถเดินเองได้ แต่เลือดแห้งกรังเปรอะเต็มใบหน้าได้ เปิดเผยว่า ตนถูกกระสุนปืนเข้าที่บริเวณศีรษะ พอโดนยิง ตนเองไม่กล้าเปิดแผลหนังศีรษะออกดู เพราะเลือดออกมาก
พร้อมเปิดเผยว่า ขณะถูกไล่จับเรือ ตนถูกเปิดฉากยิงเข้าใส่อย่างเดียว และยังมีเรือรบทหารเมียนมาอีก 2 ลำ ที่เข้าจับเรือประมงไทยทางด้านเหนือมาทั้งหมดรวม 3 ลำ ตนทำงานอยู่ด้านใต้ มีเรือควบเข้ามา ทีแรกนึกว่าเรืออวนดำด้วยกัน ตนก็วิ่งเรื่อยๆ พอรู้ว่าเป็นเรือรบ ก็อัดเครื่องใส่หมดเลย ไม่ยอมให้มันเทียบ แล้วขับเรือหมุน มันก็ยังยิงเข้าใส่ดังปังปัง ซึ่งเป็นเรือรบขนาดเท่าเรือตรวจการณ์ไทย โดยบาดแผลที่ถูกยิงศีรษะตนไม่กล้าเปิดดู ขณะถูกไล่ยิงไม่กล้าโผล่ศีรษะมาหน้าต่างเก๋ง เพราะหัวจะขาดแน่ มันยิงเข้าตนอย่างเดียวเลย ยิงมาที่แป้นที่เก๋งเรือที่ตนบังคับเรือ ส่วนลูกเรือไม่เป็นไร
โดยลูกเรือประมงสัญชาติเมียนมาอีกคนที่ถูกไฟฟ้าช็อตขณะขึ้นไปปฐมพยาบาลบนรถพยาบาลฉุกเฉินเริ่มรู้สึกตัวดี สามารถตอบสนองคำถามจากเจ้าหน้าที่การแพทย์ฉุกเฉินได้ เมื่อถูกถามว่าเจ็บตรงไหนก็พยายามยกมือข้างที่ถูกกระแสไฟฟ้าช็อต มีการให้น้ำเกลือทางเส้นเลือด และรีบนำตัวส่งผู้บาดเจ็บทั้ง 2 ราย ส่งตึกอุบัติเหตุ รพ.ระนองทันที
ด้าน เรือโทธรณ์ธันย์ เสียงสุวรรณ์ ผู้บังคับ เรือต.247 ขณะจอดเรือเฝ้าตรวจอยู่ที่บริเวณเกาะพยามได้รับแจ้งเหตุเมื่อเวลา 00.30 ว่า มีลูกเรือจำนวน 3 คนได้รับบาดเจ็บให้ทำการออกทำการช่วยเหลือลูกเรือประมงโดยด่วน โดยมีจุดนัดพบบริเวณหน้าอ่าวใหญ่เกาะพยาม เมื่อเวลา 01.15 น. และขนย้ายผู้ป่วย ใช้เวลา 30 นาที เมื่อปฐมพยาบาลเบื้องต้นแล้วเสร็จเดินทางด้วยความเร็ว 18 น็อต และใช้เวลาอีก 1 ชม. 30 นาที ออกจากจุดรับตัว เมื่อเวลา 02.00 น. มาถึงท่าเทียบเรือน้ำลึกในเวลา 03.30 น.
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ส่วนการดำเนินการขั้นต่อไปศูนย์ประสานงานประมงชายแดนทางทะเลไทย-เมียนมา (ศปชล.ทม.) เร่งประสานให้คณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่นไทย-เมียนมาจ.ระนอง (TBCระนอง) เป็นผู้เจรจา หรือประท้วงถึงปัญหาที่เรือตรวจการณ์เมียนมา 3 ลำรุกล้ำเข้าในน่านน้ำไทย และลากจูงเรือประมงไทยทั้ง 2ลำกลับเข้าไปในน่านน้ำเมียนมาว่าเกิดปัญหาอะไรกันขึ้น ซึ่งก่อนหน้าทั้ง 2 ประเทศมีความสัมพันธ์ชายแดนด้าน จ.ระนองในขั้นดี
ล่าสุดเมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 30 พ.ย. 67 กลุ่มเรือประมงอวนดำไทยที่รอดจากการจับกุมมาได้เมื่อกลางดึกที่ผ่านมายังคงจอดทอดสมอลอยลำอยู่หน้าอ่าวใหญ่ทางทิศตะวันตกของเกาะพยาม ทุกลำยังคงเสียดายอวนดำที่ล้อมจับปลาที่ต้องตัดทิ้งไปในระหว่างหลบหนีเรือทหารเมียนมา ซึ่งมีมูลค่าหลายแสนบาท และช่วงนี้เป็นฤดูที่มีปลาทูชุกชุมในน่านน้ำระนอง จึงมีกลุ่มเรือจากแถวนางย่อนและคุระบุรี จ.พังงา เข้ามาวางอวนในแถบน่านน้ำไทยใกล้น่านน้ำเมียนมากันเป็นจำนวนมาก
Advertisement