วันที่ 3 ธ.ค. 67 ที่ สภ.เมืองอุดรธานี นายทีจัน ทองทิพย์ อายุ 85 ปี ชาว ต.บ้านจั่น อ.เมือง จ.อุดรธานี พร้อมลูกชายขึ้นโรงพัก เพื่อแจ้งความกับ พ.ต.ท.พีระ ราศรี สว.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี แจ้งว่า เงินสดจำนวน 80,000 บาท และแหวนทองคำหนัก 1 บาท มูลค่า 41,000 บาท รวมเงินสดและทรัพย์สินจำนวน 121,000 บาทได้หายไป ขณะไปเลี้ยงวัวอยู่ทุ่งนาท้ายหมู่บ้านบ้านจั่นเมื่อวานนี้ หาจนตาเปียกทั้งวันก็ไม่เจอ วันนี้จึงให้ลูกชายมาแจ้งความกับตำรวจ เผื่อมีคนเก็บเงิน และทองได้ อยากให้นำมาคืน เพราะเป็นเงินก้อนสุดท้าย
ต่อมาตาทีได้พาผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นทุ่งนาท้ายหมู่บ้าน พบวัวจำนวน 22 ตัวที่ตาทีปล่อยเลี้ยงเอาไว้ตามทุ่งนา และลองเดินหาถุงเงินทั่วทุ่งนา ที่คาดว่าเงินแสนจะหาย แต่ก็ไม่เจอ จึงเดินมาพักเหนื่อย
ตาทีบอกว่า เมื่อวานนี้ตนเองมาเลี้ยงวัวที่นี่ พักเที่ยงได้เดินมาพักที่กระท่อมนาของนายสำราญ อายุ 70 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนบ้าน นั่งพักเหนื่อยได้ไม่นาน จึงเดินออกไปเลี้ยงวัวต่อ โดยไม่รู้กระเป๋าสีน้ำตาลที่ยัดใส่กระเป๋ากางเกงที่มีเงินสดอยู่ 80,000 บาท และแหวนทองคำ 1 วง หล่นหาย แต่มั่นใจหล่นหายที่กระท่อมนาของนายสำราญแน่ และที่น่าสงสัยคือ ที่กระท่อมนาของนายสำราญ มีลูกชายคือนายหัสดี และยายอีกคนอยู่ด้วย ตนเองเลยสงสัยจึงมาแจ้งความกับตำรวจให้เรียกนายหัสดีและยายคนดังกล่าวมาสอบถามข้อเท็จจริงให้ด้วย
เงินแสนที่ได้ตนเองเก็บมาทิ้งชีวิตเป็นเงินที่ขายวัวได้เผาถ่านขายเก็บมาทีละเล็กละน้อย สาเหตุที่ไม่เอาไปฝากธนาคาร เพราะมั่นใจเงินสดอยู่ในกระเป๋าตัวเองจะอุ่นใจและปลอดภัยกว่า แต่ไม่คิดว่าเงินแสนจะหล่นหายแบบนี้ เจ็บใจที่ทำเงินตัวเองหาย เมื่อวานเผากระเป๋าใส่เงินสีน้ำตาล และเผากางเกงที่สวมใส่ทิ้งไปเลย แค้นตัวเองมากเลยเผาทิ้งกระเป๋า และกางเกงซะเลย หวังจะได้เงินเฉียดแสน และแหวนทองคำกลับคืนมา
Advertisement