วันที่ 16 ม.ค. 68 นาย เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ ทีมตรวจการสุดซอย นำโดยพนักงานเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) และสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดอุดรธานี บูรณาการร่วมกันลงพื้นที่ตรวจสอบโรงงานน้ำตาลของบริษัท น้ำตาลไทยอุดรธานี จำกัด และโรงไฟฟ้าของบริษัท ไทยอุดรธานี เพาเวอร์ จำกัด ตั้งอยู่ในพื้นที่ ต.คำบง อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี
ทั้งนี้จากการตรวจสอบพบว่า บริษัท น้ำตาลไทยอุดรธานี จำกัด มีการรับอ้อยเผาเข้าหีบสะสมสูงสุดจากโรงงานน้ำตาลทั้งหมด 58 โรงงาน คิดเป็น 43.11 เปอร์เซ็นต์ของปริมาณอ้อยทั้งหมด หรือกว่า 4.1 แสนตัน เทียบเท่าการเผาป่ากว่า 4.1 หมื่นไร่
จังหวัดอุดรธานีเป็นจังหวัดที่มีสัดส่วนการรับอ้อยเผาเข้าหีบสูงสุดของประเทศ อีกทั้งยังพบว่าบริษัท ไทยอุดรธานี เพาเวอร์ จำกัด ประกอบกิจการผลิตไฟฟ้าและไอน้ำส่งให้กับโรงงานน้ำตาลไทยอุดรธานี โดยบริษัทฝ่าฝืนกฎหมายความปลอดภัย มีการประกอบกิจการในสภาพที่อาจก่อให้เกิดอันตรายอย่างร้ายแรงถึงชีวิต และทรัพย์สินของพนักงาน และประชาชนที่อยู่อาศัยใกล้เคียงกับโรงงาน
นอกจากนี้ บริษัท น้ำตาลไทยอุดรธานี จำกัด ยังมีการประกอบกิจการที่อาจก่อให้เกิดอันตราย ความเสียหายหรือความเดือดร้อนแก่พนักงานหรือทรัพย์สินที่อยู่ในโรงงานหรือที่อยู่อาศัยใกล้เคียงกับโรงงานในหลายประเด็น เช่น มีการจัดเก็บหรือการดำเนินการเกี่ยวกับสารเคมี วัตถุอันตราย และกากอุตสาหกรรมที่ใช้และเกิดจากกระบวนการผลิตของโรงงานที่ไม่ถูกต้องเหมาะสม ตู้ควบคุมไฟฟ้าอยู่ในสภาพชำรุดอาจก่อให้เกิดอันตรายได้
อีกทั้ง มีการติดตั้งระบบดับเพลิงที่ไม่พร้อมใช้งานในหลายจุด อุตสาหกรรมจังหวัดอุดรธานีจึงมีคำสั่งด่วนที่สุดให้บริษัทฯ ระงับการกระทำที่ฝ่าฝืนกฎหมายทั้งหมด จนกว่าจะปรับปรุงแก้ไขโรงงานให้ถูกต้องตามกฎหมายอย่างเข้มงวด
“ขอย้ำว่าการประกอบการโรงงานต้องมีกระบวนการผลิตที่ปลอดภัย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เหนือสิ่งอื่นใด การสร้างกำไรจากการทำธุรกิจอุตสาหกรรมต้องไม่เบียดเบียนสร้างผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน และการทำธุรกิจของภาคส่วนอื่นด้วย” นายเอกนัฏ กล่าว
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังโรงงานน้ำตาลไทยอุดรธานี อ.บ้านผือ ที่กำลังผลิตน้ำตาล 35,000 ตันต่อวัน เมื่อได้รับคำสั่งจากกระทรวงอุตสาหกรรมให้หยุดเดินเครื่องจักรโรงงานน้ำตาล หลังจากรถบรรทุกอ้อยลาน 1 เทอ้อยเข้าโรงงานหมดแล้ว เมื่อเวลา 16.00 น. ของวันที่ 15 ม.ค.ที่ผ่านมา ทำให้ยังมีรถบรรทุกอ้อยไฟไหม้ และอ้อยสด จอดอยู่เต็มลานที่ 2 และ 3 ของโรงงานน้ำตาล รวมถึงรถอ้อยจอดอยู่ริมถนนนอกโรงงาน รวมแล้วมากกว่า 1,500 คัน เมื่อทราบเรื่องโรงงานถูกสั่งปิด ทำให้รถบรรทุกบางส่วนขับออกจากโรงงาน เพื่อนำไปส่งยังโรงงานน้ำตาลอื่นทันที แต่ยังมีเหลือมากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ ที่ปักหลักรอหาทางออก
Advertisement