ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 25 ธ.ค. 67 ร.ต.อ.ทิชานนท์ เพิ่มพูน ร้อยเวรสอบสวน สภ.ศรีบุญเรือง และกู้ภัยมังกรศรีบุญเรือง รับแจ้งจากพลเมืองดี ขณะที่พ่อค้าแม่ค้า และชาวบ้านกำลังจับจ่ายซื้ออาหารไปรับประทานช่วงค่ำ จู่ๆ มีรถบรรทุกพ่วงเปล่าเลี้ยววิ่งเข้าไปในตลาดโต้รุ่ง เขตเทศบาลตำบลโนนสูงเปลือย อ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู สร้างความแตกตื่นกันจ้าละหวั่น มีเพียงทรัพย์สินของทางราชการ และหลังคาห้องแถวชาวบ้านได้รับความเสียหาย โชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าว
ซึ่งชาวบ้านที่ไปจับจ่ายซื้อข้าวของในตลาดโต้รุ่ง เล่าว่า ก่อนที่ทีมกู้ภัยมังกรศรีบุญเรืองเข้ามาอำนวยความสะดวก ด้านการจราจร พร้อมรอเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ โดยก่อนนั้นได้ยินเสียงดังโครม จากการที่ช่วงรถบรรทุกพ่วงเสียดสีกับสังกะสีห้องแถว ตรงกันข้ามกับตลาดโต้รุ่ง และตัวหัวรถบรรทุกพ่วงฮีโน่ ทะเบียนหัวรถพ่วง 63-0781 กรุงเทพมหานคร หันตัวหัวรถพุ่งเข้าไปในตลาดโต้รุ่ง และหยุดตรงลานจอดรถ คาดว่าคนขับเบรกตัวรถไม่ทัน ก่อนจะพุ่งไปในตัวอาคารโต้รุ้ง
โดยคนขับรถบรรทุกพ่วงเปล่า ไม่มีอ้อยบรรทุกมาเป็นชาว จ.ศรีสะเกษ มีสภาพเหมือนคนเมา และเจ้าตัวสารภาพกับทีมกู้ภัยว่าดื่มเหล้าขาวมาเล็กน้อย และกำลังจะขับรถไปโรงงานน้ำตาลเอราวัณ อ.นากลาง แต่หลงทาง ก็ไม่ทราบว่าด้วยเหตุใดตนเองจึงขับรถไปเฉียวเอาชายคาของบ้านข้างถนน ก่อนที่จะเลี้ยวเข้าไปในตลาดโต้รุ่ง
เป็นที่น่าสังเกตว่า ช่วงนี้เป็นฤดูเปิดโรงงานน้ำตาลหลายพื้นที่ ทำให้มีรถบรรทุกทั้งบรรทุกอ้อยพ่วง และรถบรรทุกพ่วงเปล่าวิ่งกันในพื้นที่ สร้างความหวาดผวาให้กับผู้ใช้รถใช้ถนนเป็นประจำทุกวัน ทั้งรถเสีย ในระหว่างทางอ้อยตกเรี่ยราดตามถนน รถวิ่งคู่ขนานกันจนรถที่สัญจรไปมาบนท้องถนนวิ่งลำบาก และเกิดอุบัติเหตุพลิกคว่ำบ่อย ตลอดจนทำลายทรัพย์ของชาวบ้าน และสายไฟ มาจากการที่รถบรรทุกเกินที่กำหนดและรถบรรทุกพ่วงดัดแปลง มีสภาพเก่า ปีหนึ่งๆ มาวิ่งครั้งหนึ่งในสภาพที่คนขับ และตัวรถไม่สมบูรณ์ จัดได้ว่าเป็นขยะเคลื่อนที่ในเขตหมู่บ้านชุมชน สร้างปัญหาให้กับเจ้าหน้าที่รายชั่วโมงในช่วงนี้ ในขณะที่ขาดการบังคับใช้กฏหมายและเอาจริงจังของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง มีประชาชนต้องได้รับอันตรายบาดเจ็บ และเสียชีวิตจากรถบรรทุกพ่วงอ้อยที่จอดเสียระหว่างทาง ไม่มีอุปกรณ์เตือนภัยระหว่างรถจอดข้างทาง
Advertisement