จากกรณี ญาติร้อง อาสาชุดแดง มูลนิธิแห่งหนึ่ง นำผู้ป่วยหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันส่งผิดโรงพยาบาล ทั้งที่ญาติให้ส่งโรงพยาบาลตามสิทธิที่อยู่ใกล้กว่า ทำเสียเวลารักษากว่า 2 ชั่วโมง เหตุเกิดย่านพระรามเก้า กทม. เมื่อช่วงเวลา14.00 น. วันที่ 28 ธ.ค.67 โดยมีรายงานว่า หลังเกิดเหตุ สพฉ.อยู่ระหว่างสั่งตรวจสอบข้อเท็จจริง
ต่อมาวันที่ 4 ม.ค.67 ทางทีมข่าวลงพื้นที่ เขตราชเทวี สอบถามภรรยาของผู้ป่วย เล่าว่า วันเกิดเหตุช่วงบ่ายสองขณะทานข้าว ผู้ป่วยอาการหายใจไม่ออก เขาจึงลงมาหานิติฯ ให้ช่วยโทรเรียกรถพยาบาล เมื่อนิติฯ โทรไปที่ 1669 ศูนย์กู้ชีพเอราวัณ ขณะรอรถจากโรงพยาบาล ก็มีรถอาสาชุดแดงเข้ามาที่คอนโด โดยได้ย้ำว่าให้ส่งที่โรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด ห่างจากที่เกิดเหตุราว 1 กิโลเมตรกว่าๆ เนื่องจากขณะนั้นผู้ป่วยอาการไม่ดี
ซึ่งภรรยาขึ้นรถไปกับอาสา และอาสาฯได้เลี้ยวไปทางโรงพยาบาลเอกชนที่อยู่แถวทองหล่อ ภรรยาบอกว่า ตอนนั้นเขาไม่มีสติอยู่กับตัวเองแล้ว เมื่อไปถึงโรงพยาบาลแถวทองหล่อก็แจ้งว่า ผู้ป่วยหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน ต้องนำส่งโรงพยาบาลตามสิทธิ เพราะเกินขีดความสามารถของโรงพยาบาลแห่งนี้ เมื่อมีการนำส่งโรงพยาบาลตามสิทธิของรัฐ ตอนนั้นก็เสียเวลามากว่า2 ชั่วโมงแล้ว
ส่วนอาการผู้ป่วย หลังรักษาตัวตอนนี้ยังอยู่ในความดูแลของแพทย์ ใช้เครื่องกระตุ้นหัวใจ เพราะอัตราการทำงานหัวใจยังต่ำ จึงอยากฝากไปถึงการทำงานของเจ้าหน้าที่ให้คำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิตของผู้ป่วยเป็นอันดับแรกในสถานการณ์ฉุกเฉินแบบนี้
ด้านเพื่อนบ้านที่อยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า ในเหตุการณ์นี้ ภรรยาผู้ป่วยประสานนิติฯ ให้แจ้ง1669 ซึ่งทราบแล้วว่า 1669 ได้ประสานไปยังโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง จากนั้นรอรถโรงพยาบาลเข้ามา และเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่อาสาชุดแดงดังกล่าวได้เข้ามาพอดี ญาติเห็นว่าต้องรีบนำส่งให้เร็วที่สุด จึงตกลงให้อาสาชุดแดงพาผู้ป่วยไปส่งที่โรงพยาบาลใกล้ที่สุด ซึ่งได้ย้ำไปหลายรอบแล้วว่าให้ไปโรงพยาบาลใกล้ที่สุด แต่ เมื่อโทรมาถามภรรยาผู้ป่วย จึงมาทราบว่าอาสานำส่งอีกโรงพยาบาลหนึ่ง
ทั้งนี้ อยากฝากให้มีการตรวจสอบว่าอาสาฯดังกล่าวมีการรับข้อมูลผู้ป่วยมาได้อย่างไร เพราะในวันเกิดเหตุ มูลนิธิวันเวร ก็ไม่ได้รับแจ้งเหตุ แต่กลับมีอาสาของมูลนิธินี้เข้ามาเพียงที่เดียว หลังเกิดเหตุเมื่อวานนี้อาสาชุดแดงโทรมาหา อ้างว่ารถติดตรงที่กลับรถ จึงเปลี่ยนไปส่งอีกโรงพยาบาลแถวทองหล่อแทน
Advertisement