"ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง" ที่กฎหมายตราขึ้นมา สำหรับเพื่อการจัดเก็บภาษีตั้งแต่ปีภาษี พ.ศ. 2565 เป็นต้นไป โดยจะกำหนดเป็นอัตราเดียว หรือหลายอัตราแยกตามมูลค่าของที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้าง แต่ต้องไม่เกินอัตราภาษีที่กำหนด ซึ่งแบ่งประเภทที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ดังนี้
- มูลค่าของฐานภาษีไม่เกิน 75 ล้านบาท ให้ใช้อัตราภาษีร้อยละ 0.01
- มูลค่าของฐานภาษีในส่วนที่เกิน 75 ล้านบาท แต่ไม่เกิน 100 ล้านบาท ให้ใช้อัตราภาษีร้อยละ 0.03
- มูลค่าของฐานภาษีในส่วนที่เกิน 100 ล้านบาท แต่ไม่เกิน 500 ล้านบาท ให้ใช้อัตราภาษีร้อยละ 0.05
- มูลค่าของฐานภาษีในส่วนที่เกิน 500 ล้านบาท แต่ไม่เกิน 1,000 ล้านบาท ให้ใช้อัตราภาษีร้อยละ 0.07
- มูลค่าของฐานภาษีในส่วนที่เกิน 1,000 บาทขึ้นไป ให้ใช้อัตราภาษีร้อยละ 0.1
2.1 ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่เจ้าของซึ่งเป็นบุคคลธรรมดาใช้เป็นที่อยู่อาศัยและมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนราษฎร
- มูลค่าของฐานภาษีไม่เกิน 25 ล้านบาท ให้ใช้อัตราภาษีร้อยละ0.03
- มูลค่าของฐานภาษีในส่วนที่เกิน 25 ล้านบาท แต่ไม่เกิน 50 ล้านบาท ให้ใช้อัตราภาษีร้อยละ 0.05
- มูลค่าของฐานภาษีในส่วนที่เกิน 50 ล้านบาทขึ้นไป ให้ใช้อัตราภาษีร้อยละ 0.1
2.2 สิ่งปลูกสร้างที่เจ้าของซึ่งเป็นบุคคลธรรมดาใช้เป็นที่อยู่อาศัยและมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนราษฎร
- มูลค่าของฐานภาษีไม่เกิน 40 ล้านบาท ให้ใช้อัตราภาษีร้อยละ 0.02
- มูลค่าของฐานภาษีในส่วนที่เกิน 40 ล้านบาท แต่ไม่เกิน 65 ล้านบาท ให้ใช้อัตราภาษีร้อยละ 0.03
- มูลค่าของฐานภาษีในส่วนที่เกิน 65 ล้านบาท แต่ไม่เกิน 90 ล้านบาท ให้ใช้อัตราภาษีร้อยละ 0.05
- มูลค่าของฐานภาษีในส่วนที่เกิน 90 ล้านบาทขึ้นไป ให้ใช้อัตราภาษีร้อยละ 0.1
- มูลค่าของฐานภาษีไม่เกิน 50 ล้านบาท ให้ใช้อัตราภาษีร้อยละ 0.02
- มูลค่าของฐานภาษีในส่วนที่เกิน 50 ล้านบาท แต่ไม่เกิน 75 ล้านบาท ให้ใช้อัตราภาษีร้อยละ 0.03
- มูลค่าของฐานภาษีในส่วนที่เกิน 75 ล้านบาท แต่ไม่เกิน 100 ล้านบาท ให้ใช้อัตราภาษีร้อยละ 0.05
- มูลค่าของฐานภาษีในส่วนที่เกิน 100 ล้านบาทขึ้นไป ให้ใช้อัตราภาษีร้อยละ 0.1
- มูลค่าของฐานภาษีไม่เกิน 50 ล้านบาท ให้ใช้อัตราภาษีร้อยละ 0.3
- มูลค่าของฐานภาษีในส่วนที่เกิน 50 ล้านบาท แต่ไม่เกิน 200 ล้านบาท ให้ใช้อัตราภาษีร้อยละ 0.4
- มูลค่าของฐานภาษีในส่วนที่เกิน 200 ล้านบาท แต่ไม่เกิน 1,000 ล้านบาท ให้ใช้อัตราภาษีร้อยละ 0.5
- มูลค่าของฐานภาษีในส่วนที่เกิน 1,000 ล้านบาท แต่ไม่เกิน 5,000 ล้านบาท ให้ใช้อัตราภาษีร้อยละ 0.6
- มูลค่าของฐานภาษีในส่วนที่เกิน 5,000 บาทขึ้นไป ให้ใช้อัตราภาษีร้อยละ 0.7
- มูลค่าของฐานภาษีไม่เกิน 50 ล้านบาท ให้ใช้อัตราภาษีร้อยละ 0.3
- มูลค่าของฐานภาษีในส่วนที่เกิน 50 ล้านบาท แต่ไม่เกิน 200 ล้านบาท ให้ใช้อัตราภาษีร้อยละ 0.4
- มูลค่าของฐานภาษีในส่วนที่เกิน 200 ล้านบาท แต่ไม่เกิน 1,000 ล้านบาท ให้ใช้อัตราภาษีร้อยละ 0.5
- มูลค่าของฐานภาษีในส่วนที่ 1,000 ล้านบาท แต่ไม่เกิน 5,000 ล้านบาท ให้ใช้อัตราภาษีร้อยละ 0.6
- มูลค่าของฐานภาษีในส่วนที่เกิน 5,000 ล้านบาทขึ้นไป ให้ใช้อัตราภาษีร้อยละ 0.7
นอกจากนี้ ในกรณีที่ดินที่ทิ้งไว้ว่างเปล่าหรือไม่ได้ทำประโยชน์ตามควรแก่สภาพ 3 ปีติดต่อกัน ในปีที่ 4 จะต้องเสียภาษีเพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 0.3 และเก็บเพิ่มอีกร้อยละ 0.3 ทุก ๆ 3 ปี แต่อัตราภาษีรวมไม่เกินร้อยละ 3
ก่อนหน้านี้ กระทรวงมหาดไทย ได้ประกาศขยายกำหนดเวลาการดำเนินการภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างประจำปี 2568 ออกไปอีก 2 เดือน เพื่อบรรเทาภาระภาษีให้ผู้เสียภาษีมีเวลาชําระภาษีมากขึ้น
1. ประกาศขยายกําหนดเวลาในการจัดทําบัญชีรายการที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเพื่อประกาศ พร้อมทั้งจัดส่งข้อมูลที่เกี่ยวข้องให้ผู้เสียภาษี จากเดิมภายในเดือนพฤศจิกายน 2567 เป็นภายในเดือนมกราคม 2568
2. ประกาศขยายกําหนดเวลาในการประกาศราคาประเมินทุนทรัพย์ ของที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง อัตราภาษีที่จัดเก็บ และรายละเอียดอื่นที่จําเป็นในการจัดเก็บภาษี จากเดิมก่อนวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 เป็นก่อนวันที่ 1 เมษายน 2568
3. ประกาศขยายกําหนดเวลาส่งแบบประเมินภาษีให้แก่ผู้เสียภาษี จากเดิมภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 เป็นภายในเดือนเมษายน 2568
4. ประกาศขยายกําหนดเวลาในการชําระภาษีตามแบบแจ้งการประเมินภาษีจากเดิมภายในเดือนเมษายน 2568 เป็นภายในเดือนมิถุนายน 2568
5. ประกาศขยายกําหนดเวลาในการผ่อนชําระภาษี งวดที่หนึ่ง จากเดิมชําระภายในเดือนเมษายน 2568 เป็นชําระภายในเดือนมิถุนายน2568 งวดที่สอง จากเดิมชําระภายในเดือนพฤษภาคม 2568 เป็นชําระภายในเดือนกรกฎาคม 2568 และงวดที่สาม จากเดิมชําระภายในเดือนมิถุนายน 2568 เป็นชําระภายในเดือนสิงหาคม 2568
6. ประกาศขยายกําหนดเวลาในการมีหนังสือแจ้งเตือนผู้เสียภาษี ที่มีภาษีค้างชําระ จากเดิมภายในเดือนพฤษภาคม 2568 เป็นภายในเดือนกรกฎาคม 2568 และ
7. ประกาศขยายกําหนดเวลาในการแจ้งรายการภาษีค้างชําระ จากเดิมภายในเดือนมิถุนายน 2568 เป็นภายในเดือนสิงหาคม 2568
คลิกอ่าน : พระราชกฤษฎีกา กำหนดอัตราภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. 2564
Advertisement