วันที่ 7 ก.พ. 68 พล.ต.ท.เรวัช กลิ่นเกษร อดีตผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ได้กล่าวในไลฟ์สดผ่านยูทูบช่อง “โจ เรวัช กลิ่นเกษร” ตอนหนึ่งถึงกรณีที่มีคู่รักนายตำรวจสวมเครื่องแบบไปจดทะเบียนสมรส หลังกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 22 ม.ค. ที่ผ่านมาว่า
วันที่คู่รักเพศเดียวกันไปจดทะเบียนสมรสเท่าเทียม แล้วมีคู่รักตำรวจคนหนึ่งแต่งเครื่องแบบไปจดทะเบียนสมรสเท่าเทียมกับตำรวจอีกคนที่ไม่ได้แต่งเครื่องแบบ ตนไม่เข้าใจว่าแต่งเครื่องแบบตำรวจไปทำไม แล้วทำท่าจูบกันหอมกัน แบบนี้ผู้บังคับบัญชาต้องตั้งคณะกรรมการสอบทางจริยธรรม และวินัย เพราะต้องให้เกียรติเครื่องแบบ จะเป็นอะไรก็ช่าง แต่เมื่อแต่งเครื่องแบบแล้วต้องวางตัวให้ชาวบ้านเคารพศรัทธา แม้ไม่ได้ผิดอะไรร้ายแรง แต่ประพฤตตัวไม่เหมาะสม เด็กๆเขาจะได้รู้ว่าต้องทำตัวอย่างไร
พล.ต.ท.เรวัช กล่าวว่า ตนไม่เข้าใจว่าจะแต่งเครื่องแบบไปทำไม มันรู้สึกทุเรศ ผู้บังคับบัญชาควรลงโทษ ตัดเงินเดือนก็ได้ ไม่ได้เกี่ยวกับสมรสเท่าเทียม แต่จะไปจดทะเบียนสมรมเท่าเทียมก็ควรแต่งชุดธรรมดาไป จะแต่งเครื่องแบบตำรวจไปทำไม มันน่าโมโห ไม่มีใครเขาว่า แต่ไม่ควรเอาเครื่องแบบตำรวจไปแปดเปื้อน ไอ้ที่ๆ แต่งกันอยู่ ชาวบ้านเกลียดพออยู่แล้ว ดีนะไม่มีใครแต่งเครื่องแบบทหาร แล้วไปหอมจูบแก้มจูบปาก ถ้าเป็นเช่นนั้นผู้พันคงถีบเอา
"ผู้บังคับบัญชาก็วางเฉย เท่าเทียมก็เท่าเทียมไปสิ ผมไม่ว่า แต่อย่าเสือกเอาเครื่องแบบตำรวจไป เห็นแล้วทุเรศขยะแขยง เมื่อก่อนโพสต์หอมแก้มลงโซเชียล ผมโทรไปต่อว่า อย่าทำอย่างนี้ ไม่ดี ไม่เหมาะ ต้องวางตัวให้เหมาะสม บางคนผัวเป็นสารวัตร และไปได้กับสิบตำรวจตรี ผมก็ไม่ได้ว่า เพราะหาผัวที่เสมอกันไม่ได้ จะไปเอาเด็กๆ ทำผัวผมก็ไม่ได้ว่า แต่จะมาไลฟ์ แต่งเครื่องแบบ บางทีตัวผู้หญิงแต่งชุดนายพัน แล้วไปทำตัวกระแดะกระแด๋กับผัว มันเสียการปกครองบังคับบัญชา ต้องวางตัวให้เหมาะ อยากอวดไม่ว่า แต่อย่าแต่งเครื่องแบบให้เสื่อมเสียวิชาชีพ เพราะอาชีพตำรวจต้องคอยแนะนำชาวบ้าน เหมือนกับพระ”
“ผมเห็นด้วยกับสมรสเท่าเทียม ไม่ได้ว่าคนอื่นแต่ว่าน้องตำรวจคนนั้น ทุกอย่างจะดีจะสวยแล้ว เขาดันไปแต่งเครื่องแบบตำรวจ ถ้าไม่แต่งเครื่องแบบทุกอย่างสดชื่นสมูทมาก" พล.ต.ท.เรวัช กล่าว
Advertisement