วันนี้ (3มี.ค.68) เกษตรกรชาวไร่มันสำปะหลัง บ้านชุมเห็ด หมู่ที่ 5 ตำบลพลวงสองนาง อำเภอสว่างอารมณ์ จังหวัดอุทัยธานี เร่งจ้างรถไถและแรงงานจำนวนมากมาขุดมันที่ได้อายุเก็บเกี่ยวมานานหลายสัปดาห์ เนื่องจากรอราคามันที่คิดว่าจะมีราคาสูงขึ้นอีก แต่เนื่องจากราคามันสำปะหลังยังไม่มีแนวโน้มว่าจะขึ้นมากว่านี้ จึงจำเป็นต้องเร่งขุดมันสดไปขาย เพราะหากปล่อยไว้ มีฝนตกลงมาในช่วงนี้ ผลผลิตก็จะเน่าเสียหาย จึงมีความจำเป็นต้องขุดไปขายซึ่งชาวไร่มันต่างทุกระทมกับราคามันสำปะหลัง ถ้าเป็นหัวมันสดจะขายไดเพียงกิโลกรัมละ 1.50 บาท หรือตันละ 1,500 บาทเท่านั้น และหากเป็นมันตากแห้ง จะขายได้เพียงกิโลกรัมละ 5–5.50 บาท หรือตันละ 5,000–5,500 บาทเท่านั้น ซึ่งไม่มีกำไร แถมขาดทุนอีกต่างหาก แต่รัฐบาลกลับไม่มีมาตรการช่วยเหลือชาวไร่มันสำปะหลัง เหมือนช่วยชาวนา ทั้งๆที่ทำนานได้ปีละหลายครั้ง ซึ่งเกษตรกรชาวไร่มันสำปะหลั งก็เป็นเกษตรกรของประเทศไทยเหมือนกัน
นายเฉลิม เนียมฉิม อายุ 58 ปี และนายสำราญ กัณหา อายุ 35 ปีเป็นตัวแทนเกษตรกรชาวไร่มันสำปะหลัง ออกมาสะท้อนถึงการช่วยเหลือจากรัฐบาลที่ไม่เคยเหลียวแลให้การช่วยเหลือ ไม่ว่าจะเป็นเงินยาเงินชดเชยเมื่อเกษตรการได้รับความเดือดร้อน โดยเฉพาะราคามันสำปะหลังตกต่ำมากที่สุดในขณะนี้
อีกทั้งเกษตรกรที่ต้องเช่าที่ทำไร่มันสำปะหลัง ซึ่งการปลูกมันต้องใช้เวลา 8เดือน ถึง 1 ปี จึงจะเก็บเกี่ยวได้และทำได้เพียงปีละครั้งเดียว
และเมื่อเกษตรกรได้รับความเดือดร้อนราคามันตกต่ำ รัฐบาลไม่เคยให้การเหลียวแล และให้การเยียวยาหรือมีการชดเชนแต่อย่างใดรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจเกษตรกรจำนวนไม่น้อยถึงกับร้องไห้ไม่มีความเป็นธรรม ไม่เหมือนเกษตรกรชาวนาทำนาได้ปีละ 2–3 ครั้ง แต่รัฐบาลให้การช่วยเหลือตลอดทั้งค่าเก็บเก็บเกี่ยว หากเจอกับภัยแล้งได้รับความเสียหายก็ได้รับการช่วยเหลือไร่ละ 1,000 บาท มาโดยตลอดและถึงราคาตกต่ำเกษตรกรชาวนาลงถนนประท้วง ล่าสุดรัฐบาลก็มีมาตรการเยียวให้การช่วยเหลืออีกแต่ก็ดีใจกับเกษตรกรชาวนา ที่ได้รับการช่วยเหลือ ส่วนเกษตรกรชาวไร่มันสำหลังมีแต่เสียใจ และน้อยใจที่รัฐบาลไม่เคยออกมาพูดถึงการช่วยเกษตรกรชาวไร่มันสำปะหลัง จึงขอวอนให้รัฐบาลให้การช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่มันสำปะหลัง เพราะเป็นเกษตรกรของประเทศไทยเหมือนกัน อย่างน้อยให้การเยียวยาไร่ละ 500 บาท ก็ยังดีไม่ต้องถึงไร่ละ1,000 บาท เหมือนชาวนา
Advertisement