การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับทารก เพราะจะช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและพัฒนาการด้านต่าง ๆ นมแม่ไม่เพียงแต่เป็นแหล่งโภชนาการที่สมบูรณ์แบบ แต่ยังมีประโยชน์มากมายที่ช่วยเสริมสร้างสุขภาพและพัฒนาการของทารก เนื่องจากมีสารอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโต และช่วยพัฒนาสมองของทารก
แต่หากคุณแม่ใช้สารเสพติด สารเคมีเหล่านี้จะปะปนอยู่ในน้ำนม และส่งผลกระทบต่อทารกอย่างร้ายแรง การใช้ยาเสพติดไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของคุณแม่เอง แต่ยังสามารถส่งผ่านน้ำนมแม่ไปยังทารกได้ ซึ่งเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อทารก เนื่องจากทารกยังมีระบบร่างกายที่ยังพัฒนาไม่เต็มที่ ทำให้ได้รับผลกระทบจากสารเสพติดได้ง่ายกว่าผู้ใหญ่
แพทย์เตือนยาเสพติดถ่ายทอดผ่านน้ำนมแม่เสี่ยงต่อพัฒนาการทารก
ด้านแพทย์หญิงนงนุช ภัทรอนันตนพ รองอธิบดีกรมอนามัย ได้กล่าวถึงอันตรายของการที่มารดาเสพยาเสพติดและให้นมบุตรว่า สารเสพติดสามารถถ่ายทอดไปยังลูกจากการให้นมได้ ซึ่งเป็นอันตรายต่อพัฒนาการการเจริญเติบโตทั้งทางร่างกายและสมองของลูกน้อย
จากข้อมูลสถิติเกี่ยวกับจำนวนหญิงตั้งครรภ์ที่ใช้สารเสพติดในประเทศไทยจะมีจำกัด แต่มีรายงานว่าการใช้สารเสพติดในหญิงตั้งครรภ์ส่งผลกระทบต่อทารกแรกเกิด ทั้งในช่วงตั้งครรภ์คือมีความพิการแต่กำเนิด ร้อยละ 3-5 % การคลอดก่อนกำหนด ภาวะครรภ์เป็นพิษ ตกเลือดหลังคลอด และภาวะแท้ง
ซึ่งในช่วงหลังคลอดยังพบสารเสพติดผ่านน้ำนมถึงลูก ส่งผลถึงพัฒนาการและความเฉลียวฉลาดของเด็ก เด็กตัวเล็กและน้ำหนักตัวน้อย จากปัญหาดังกล่าวเป็นประเด็นที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของทั้งแม่และลูกน้อย
ขณะที่ นายแพทย์ปกรณ์ ตุงคะเสรีรักษ์ ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมสุขภาพ กล่าวว่า ผลกระทบของการใช้สารเสพติดในหญิงตั้งครรภ์และมารดาที่ให้นมบุตร เช่น การเจริญเติบโตช้า คลอดก่อนกำหนด น้ำหนักแรกเกิดน้อย และอาการถอนยาในทารก ทั้งนี้ได้ส่งเสริมการเข้าถึงบริการสุขภาพ สนับสนุนให้หญิงตั้งครรภ์เข้ารับการฝากครรภ์และรับคำปรึกษาจากบุคลากรทางการแพทย์ เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้น
ยาเสพติดเข้าสู่น้ำนมแม่ได้อย่างไร?
กลไกส่งผ่านยาเสพติดจากแม่ไปสู่ทารกผ่านน้ำนมแม่เป็นกระบวนการที่ซับซ้อน ซึ่งขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยที่มีผลต่อความสามารถของสารเสพติดในการเข้าสู่น้ำนม โดยปัจจัยหลักๆ ที่ทำให้ยาเสพติดสามารถเข้าสู่น้ำนมแม่ มีดังนี้
การแพร่กระจายผ่านกระแสเลือด
ยาเสพติดที่แม่เสพจะถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือด เมื่อเลือดไหลเวียนผ่านต่อมน้ำนม สารเคมีในยาเสพติดสามารถแพร่กระจายจากเลือดไปยังเซลล์ผลิตน้ำนมได้
คุณสมบัติของยาเสพติด
ยาเสพติดที่ละลายในไขมันได้ดี เช่น กัญชา จะเข้าสู่น้ำนมได้ง่ายกว่า เนื่องจากน้ำนมมีไขมันเป็นส่วนประกอบหลัก และยาเสพติดที่มีขนาดโมเลกุลเล็กจะผ่านเข้าสู่น้ำนมได้ง่ายกว่ายาที่มีขนาดโมเลกุลใหญ่
ปริมาณและความถี่ในการใช้ยา
ปริมาณยาเสพติดที่แม่เสพโดยตรงจะมีผลต่อปริมาณยาที่เข้าสู่น้ำนม การใช้ยาเสพติดบ่อยครั้งจะทำให้มีการสะสมของสารเคมีในร่างกายและน้ำนมมากขึ้น
ระยะเวลาหลังการใช้ยาเสพติด
ระยะเวลาหลังการใช้ยาเสพติดบางชนิดจะอยู่ในร่างกายได้นานกว่าชนิดอื่น ดังนั้นระยะเวลาหลังการใช้ยาจึงมีผลต่อปริมาณยาที่ยังคงอยู่ในน้ำนม
สำหรับมารดาที่ใช้ยาเสพติด การให้นมแม่อาจเป็นอันตรายได้ เพราะยาเสพติดสามารถเข้าสู่น้ำนมแม่ และส่งผลกระทบต่อสุขภาพของทารกในหลายด้าน ทั้งทางร่างกายและจิตใจ โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ทารกกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยยาเสพติดที่เข้าสู่น้ำนมแม่จะส่งผลกระทบต่อทารก ดังนี้
การพัฒนาการทางสมองที่ล่าช้า
ยาเสพติดที่ส่งผ่านน้ำนมแม่จะส่งผลกระทบต่อพัฒนาการสมองของทารก โดยเฉพาะการเรียนรู้และการคิด การขาดการพัฒนาสมองในช่วงเวลาที่สำคัญสามารถส่งผลต่อความสามารถในการเรียนรู้ในระยะยาว
การเจริญเติบโตที่ช้า
ทารกที่ได้รับสารเสพติดจากน้ำนมแม่ อาจมีการเจริญเติบโตที่ล่าช้า ทั้งในเรื่องของน้ำหนักตัวและขนาดของร่างกาย ซึ่งสามารถส่งผลต่อการพัฒนาร่างกายในระยะยาว
ระบบทางเดินหายใจและการทำงานของหัวใจ
ยาบางชนิดทำให้เกิดความผิดปกติในระบบทางเดินหายใจและหัวใจของทารก เช่น หายใจไม่สะดวก หัวใจเต้นผิดจังหวะ หรือภาวะขาดออกซิเจน ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพในระยะยาว
ปัญหาทางพฤติกรรม
ทารกที่ได้รับสารเสพติดจากนมแม่อาจมีปัญหาทางพฤติกรรม เช่น หงุดหงิดง่าย สมาธิสั้น และมีพฤติกรรมที่ไม่สามารถควบคุมได้ ส่งผลต่อการเรียนรู้และการพัฒนาตัวตนในอนาคต
การใช้ยาเสพติดสามารถส่งผลกระทบโดยตรงต่อทารกผ่านน้ำนมแม่ ทำให้เกิดปัญหาสุขภาพและพัฒนาการในระยะยาว ซึ่งคุณแม่ควรหลีกเลี่ยงการใช้สารเสพติดทุกชนิด หากคุณแม่เคยใช้สารเสพติดหรือกำลังเผชิญปัญหาดังกล่าว คำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นสิ่งสำคัญมาก เพื่อให้ได้แนวทางที่ปลอดภัยในการป้องกันไม่ให้สารเสพติดถ่ายทอดไปยังลูกน้อย
Advertisement