วันที่ 18 มี.ค. 68 เครือข่ายประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจาก ปลาหมอคางดำ 19 จังหวัด นัดหมายรวมตัวกันที่บริเวณหน้ากระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในเวลา 10.00 น. จากนั้นจะเดินเท้าเคลื่อนพลไปหน้าทำเนียบรัฐบาล เพื่อนำปลาหมอคางดำประมาณ 5 ตัน ไปเทบริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาล เพื่อทวงคำตอบเกี่ยวกับการแก้ปัญหาและการช่วยเหลือ โดยทางผู้ชุมนุมจะปิดท้ายด้วยการเผาพริกเผาเกลือ
ซึ่งก่อนหน้านี้ เครือข่ายประชาชนรับผลกระทบปลาหมอคางดำ 19 จังหวัด ได้เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อคณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ สภาผู้แทนราษฎร พร้อมจัดการชุมนุมใหญ่ในวันนี้ (18 มี.ค. 68) เพื่อทวงคำตอบ 4 ข้อจาก น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ประกอบด้วย
1.ปัญหาการแพร่ระบาดได้ลุกลามขยายตัวจนเกินกว่าที่ชาวบ้านจะแก้ไขปัญหาได้เอง รวมทั้งส่งผลกระทบกับระบบนิเวศในวงกว้าง
2. การดำเนินงานของรัฐบาลที่เคยประกาศว่า ปัญหาดังกล่าวเป็นวาระแห่งชาติ แต่กลับไม่มีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ใช้งบประมาณเพียง 12 ล้านบาทเพื่อจับปลาหมอคางดำอีกรอบหนึ่ง แต่ยังคงเหลือปลาหมอคางดำอีกหลายสิบล้านตันที่ไม่ถูกกำจัด ทำแค่ในลักษณะไฟไหม้ฟาง
3. ประชาชนพยายามพึ่งพาตนเองโดยได้ฟ้องร้องต่อศาลแพ่ง แต่เป็นเพียงชั้นรับฟ้องคดีแบบกลุ่ม หากสิ้นสุดกระบวนการ ก็คาดว่าจะใช้เวลาอย่างน้อย 3 - 4 ปี และเป็นการฟ้องเฉพาะประชาชนจังหวัดสมุทรสงคราม แต่มีประชาชนอีก 18-19 จังหวัดที่ได้รับผลกระทบและยังไม่ได้ดำเนินการใดๆ ซึ่งไม่ว่าศาลจะตัดสินให้บริษัทเอกชนต้องจ่ายสินไหมทดแทนหรือไม่ ก็ยังไม่รวมผลกระทบต่อระบบนิเวศและอื่นๆ ซึ่งไม่อยู่ในขอบเขตการฟ้องร้อง
4. ตัวแทนประชาชนที่ได้รับผลกระทบจาก 19 จังหวัดได้เดินทางมาชุมนุมและยื่นหนังสือต่อนายกรัฐมนตรีแล้วตั้งแต่วันที่ 13 มกราคมที่ผ่านมา
พร้อมกันนี้ ยังเรียกร้องให้รัฐเร่งทำใน 4 ข้อ คือ 1. ให้ตั้งกรรมการสอบสวนหาผู้กระทำผิด 2. กำจัดปลาหมอคางดำภายใน 1 ปี 3. ประกาศเขตภัยพิบัติ 4. ดำเนินคดีต่อผู้ก่อหายนะต่อระบบนิเวศ แต่ก็ปราศจากคำตอบใดๆ จากผู้นำรัฐบาล พวกตนจึงต้องมาทวงคำตอบ
Advertisement