Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
“ธนาคารที่ดิน” ให้เครื่องมือหาปลาปชช.เพราะต้องการให้มีอาชีพยืนหยัดได้

“ธนาคารที่ดิน” ให้เครื่องมือหาปลาปชช.เพราะต้องการให้มีอาชีพยืนหยัดได้

23 มี.ค. 68
13:15 น.
|
40
แชร์

• “ธนาคารที่ดิน” เราให้เครื่องมือหาปลา เราทำเช่นนี้เพราะต้องการที่จะช่วยให้ประชาชนให้สามารถดำรงชีพได้ และยืนหยัดได้ด้วยตัวเอง •

พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน ประธานคณะกรรมการสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน ให้สัมภาษณ์พิเศษ ในประเด็นภารกิจและพันธกิจของ “ธนาคารที่ดิน” มุ่งทําให้คนไทยมีที่ดิน มีกิน มีใช้ บริหารจัดการที่ดินด้วยกระบวนการที่แตกต่างจากหน่วยงานรัฐอื่น

ไม่เปิดช่องให้ขายสิทธิ์ หรือซื้อขายเปลี่ยนมือ ปิดโอกาสที่ดินตกไปอยู่ในมือนายทุน หรือทุนข้ามชาติ เป็นการรักษาทรัพยากรประเทศ ช่วยประชาชนมีอาชีพ พ้นความยากจนได้อย่างยั่งยืน

•ธนาคารที่ดิน ทําให้คนไทยมีที่ดิน มีกิน มีใช้

ปัจจุบันคนไทยของเราโดยส่วนมาก

อยู่ในระดับที่ต้องได้รับการสนับสนุนหรือช่วยเหลือให้คําแนะนํา รวมทั้งให้อุปกรณ์ต่าง ๆ ในการที่จะช่วยทํามาหากิน โดยเฉพาะในส่วนของที่ดินทํากิน ดังนั้น สถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) หรือ "ธนาคารที่ดิน' เป็นหน่วยงานหนึ่งของรัฐ มีภารกิจให้การสนับสนุนประชาชน ชาวบ้านทั่วไปทั้งหมดที่ไม่มีรายได้ หรือว่ามีรายได้ค่อนข้างที่จะต่ำ

"ธนาคารที่ดิน" ได้ดำเนินโครงการต่าง ๆ ตามพันธกิจ และภารกิจ มาตั้งแต่ปี 2563 โดยที่ทํามา 12 พื้นที่ และกำลังขยายเป็น 42 พื้นที่ทั่วประเทศ ภายในปีงบประมาณ 2568 เพื่อต้องการที่จะให้ประชาชนสามารถยืนอยู่ได้ด้วยตัวเอง เราไม่ต้องการที่จะทำในลักษณะเอาปลาไปให้ เพราะการทำเช่นนั้น เท่ากับว่าเมื่อประชาชนได้ที่ดินไปแล้ว ทําอะไรในพื้นที่ไม่ได้ผลผลิตเท่าที่ควร แต่ “ธนาคารที่ดิน” เราให้เครื่องมือหาปลา เราทำเช่นนี้เพราะต้องการที่จะช่วยให้ประชาชนให้สามารถดำรงชีพได้ และยืนหยัดได้ด้วยตัวเอง

"เครื่องมือหาปลา" ที่เรานำไปให้ประชาชน มีอะไรบ้าง เราฝึกอาชีพต่าง ๆ ให้ โดยเฉพาะการทำเกษตรกรรม การปศุสัตว์ และการประมง เพราะอาชีพ คือสิ่งที่จะช่วยประชาชนเอาตัวรอดได้เร็วที่สุด

อย่างน้อยคือช่วยลดรายจ่ายภายในครอบครัว การลดรายจ่าย ก็คือการเพิ่มรายได้ไปในตัวของมันเอง พอประชาชนช่วยตัวเองได้ โดยที่ใช้หลักพอมีพอกินหรือเศรษฐกิจพอเพียง นั่นเท่ากับว่าประชาชน สามารถยืนอยู่ได้ด้วยตัวเอง

สิ่งที่เราให้การสนับสนุนในลำดับต่อมา ก็คือการเพาะปลูก โดยเฉพาะ "พืชเศรษฐกิจ" เพื่อให้ประชาชนสามารถนำไปต่อยอดเพิ่มมูลค่า นอกจากนั้นเรายังหาตลาดให้ เพื่อกระจายผลผลิต ไปสู่ผู้บริโภค กระจายสินค้าไปสู่ตลาด ทั้งระดับชุมชน จังหวัด ภาค กระทั่งถึงระดับประเทศ หมายความว่าประชาชน ในพื้นที่โครงการของ "ธนาคารที่ดิน" จะมีรายได้กลับคืนมา เพื่อจ่ายค่าเช่าซื้อที่ดินจากเรา ตรงนี้ก็จะครบวงจรที่ว่า "ธนาคารที่ดิน ทําให้คนไทยมีที่ดิน มีกิน มีใช้"

"ธนาคารที่ดิน" เรามีความพยายามอย่างยิ่งที่จะทําทุกวิธีการเพื่อให้ประชาชนคนไทย มีที่ดินทํากิน มีกินแล้วก็สามารถที่จะมีรายได้ ไปใช้จ่ายในครัวเรือนแบบครบวงจร ตรงนี้เราต้องการที่จะให้ประชาชนทั่วไปที่มาร่วมกับเรา ให้มีความเข้มแข็งด้านอาชีพ มีชีวิตที่มั่นคงได้อย่างแท้จริง

•ธนาคารที่ดิน แตกต่างจากหน่วยงานรัฐอื่น ๆ ที่จัดการด้านที่ดินให้ประชาชนเหมือนกัน

สิ่งที่ "ธนาคารที่ดิน" ดําเนินการโดยเฉพาะโครงการกระจายการถือครองที่ดินอย่างยั่งยืน ก็คือ เราทําให้ประชาชนรู้สึกว่าเป็นเจ้าของที่ดินจริง ๆ เพราะประชาชน ต้องผ่อนชําระค่าเช่าซื้อที่ดินกับเราเป็นเวลา 30 ปีอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 3 ต่อปี ย่อมแสดงว่าเขาไม่รู้สึกว่าเป็นของฟรี เพราะหากประชาชนคิดว่าได้มาฟรี ๆ แล้ว ก็จะเกิดการซื้อขายเปลี่ยนมือ เปลี่ยนสิทธิ์กันโดยง่าย เหมือนที่กำลังเป็นข่าวอยู่ในเวลานี้

ตรงนี้เราต้องการที่จะให้ประชาชน เข้ามาร่วมในลักษณะมีส่วนร่วมเป็นเจ้าของในที่ดินที่ทํากินอยู่ นั่นคือปลูกฝังให้เกิดความรักและหวงแหนในที่ดินของเขา เพราะฉะนั้น การที่จะมาอยู่ในพื้นที่ "ธนาคารที่ดิน" ซึ่งเป็นหน่วยงานรัฐ ในระยะ 30 ปี ที่ดินยังเป็นกรรมสิทธิ์ของเรา การที่เราจัดหาที่ดินให้ประชาชนเช่าซื้อ ประชาชนต้องรวมกลุ่มกันเป็นลักษณะของวิสาหกิจชุมชน อาจจะ 7 คน 10 คน หรือมากกว่านั้น มีการแบ่งความรับผิดชอบ ใครจะเป็นหัวหน้า หรือประธานกลุ่ม ใครจะช่วยเหลือกลุ่มในด้านอะไร อยู่ที่ประชาชนตกลงกันเองทั้งหมด

เพราะฉะนั้น เมื่อประชาชน เกิดความรู้สึกว่าเป็นเจ้าของที่ดิน ซึ่งต้องรับผิดชอบ จะต้องดูแลที่ดินของตัวเองอย่างดี ขณะเดียวกันเราก็คงไม่ปล่อยให้ประชาชน ทําโดยไม่มีใครให้ความช่วยเหลือ ตรงนี้เราก็พยายามที่จะให้การสนับสนุนเรื่องของความรู้ การพัฒนาที่ดินการหาพืชที่เป็นประโยชน์ตามความเหมาะสมของภูมิภาค นั้น ๆ มาให้ ขณะเดียวกันก็ให้คําแนะนํา และรวมทั้งการหาตลาดให้

เพราะฉะนั้นตรงนี้มันจะครบวงจร ตอนนี้คนที่มาอยู่ในโครงการของเรา มีประมาณเกือบ 30 กว่าโครงการ/พื้นที่ทั่วประเทศ และจะขยายเป็น 42 โครงการ/พื้นที่ ในลำดับต่อไป ตรงนี้ทําให้ประชาชนสามารถยืนหยัดอยู่ได้ คำว่า เราหาพืชเศรษฐกิจมาให้ รวมถึงหาสิ่งดี ๆ แล้วก็สิ่งใหม่ ๆ หรือว่า นำนวัตกรรมใหม่ ๆ มาให้โดยเฉพาะยุคนี้มีเรื่องของการนำ AI มาใช้ในเรื่องการเกษตร รวมทั้งการนําระบบการขนส่งที่ทันสมัย มาสนุนให้การขนส่งผลผลิตไปสู่ผู้บริโภค หรือตลาด

ดังนั้น เมื่อประชาชน สามารถยืนอยู่ได้ มีรายได้ ก็จะมีความรัก ความหวงแหนในพื้นที่ เป็นเครื่องยืนยันว่า “ธนาคารที่ดิน” ทําโครงการได้ครบถ้วน ส่งเสริมประชาชน ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ จนถึงปลายน้ำ

•ธนาคารที่ดิน ให้ประชาชน รักษาสิทธิในที่ดิน ไม่มีการซื้อขายเปลี่ยนมือจนที่ดินตกไปอยู่ในมือนายทุน หรือทุนต่างชาติ อันส่งผลให้ที่ดิน และทรัพยากรธรรมชาติ ถูกทําลาย

โครงการบริหารจัดการที่ดินอย่างยั่งยืน เป็นโครงการที่เปิดให้ประชาชน รวมกลุ่มสมาชิกเป็นวิสาหกิจชุมชน หรือสหกรณ์ แล้วร้องขอให้ธนาคารที่ดิน ช่วยเหลือจัดสรรที่ดิน และมาทำสัญญาเช่าซื้อในโครงการฯ ระยะเวลา 30 ปี เช่าซื้อในรูปแบบแปลงรวม เพราะฉะนั้นในระยะเวลา 30 ปีนี้ ที่ดินยังเป็นกรรมสิทธิ์ของธนาคารที่ดิน สถานะเป็นที่ของรัฐ ประเภทที่มีเอกสารสิทธิ์ ดังนั้น การที่ประชาชนผู้เช่าซื้อจะเปลี่ยนมือ หรือโอนกรรมสิทธิ์ หรือว่าซื้อสิทธิ์ย่อมทําไม่ได้ เรามีกระบวนการที่ควบคุมการเปลี่ยนมืออยู่แล้ว

คนที่จะมาอยู่ที่นี่จะต้องอยู่ในกติกาของกลุ่มก่อน สมาชิกของกลุ่มที่เข้ามาต้องได้รับอนุมัติจากกลุ่มใหญ่เสียก่อน คือต้องให้กลุ่มเห็นชอบก่อน การที่จะเอาที่ดินที่เช่าซื้ออยู่ไปขายสิทธิ์ให้คนอื่น หรือซื้อขายจนที่ดินนั้นตกไปอยู่ในมือของนายทุน หรือทุนต่างชาติย่อมเป็นไปไม่ได้

"ตรงนี้ ขอย้ำว่า ธนาคารที่ดิน เราทําเพื่อประชาชนคนไทย อย่างแท้จริง" พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ กล่าว

•โมเดลใหม่ ดําเนินโครงการในพื้นที่ของธนารักษ์ หรือที่ดินของรัฐ

นอกจากโครงการกระจายการถือครองที่ดินอย่างยั่งยืน แล้ว "ธนาคารที่ดิน" มีโมเดลใหม่ คือ ดําเนินโครงการในพื้นที่ของธนารักษ์ หรือนำเอาที่ดินของรัฐจากหน่วยงานอื่น เช่นที่ดินอยู่ในการดูแลของกรมบังคับคดี ที่ปล่อยรกร้างว่างเปล่ามาบริหารจัดการเพื่อกระจายไปสู่ประชาชน

โมเดลใหม่ ๆ เหล่านี้ ธนาคารที่ดิน เราจะบูรณาการ หรือมีข้อตกลงความร่วมมือระหว่างหน่วยงานของรัฐกับประชาชน กล่าวคือ ที่ดินของรัฐ ปัจจุบัน มีหลายส่วนนะครับ ทั้งกรมป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ที่ดินของการนิคม และของธนารักษ์ ในส่วนของเรา เรามีความเชี่ยวชาญด้านการกระจายการถือครองที่ดิน ในส่วนนี้เราสามารถเข้าไปช่วยได้ก็คือ พื้นที่ของกรมธนารักษ์ หรือที่ราชพัสดุ

ธนาคารที่ดิน จะเข้าไปดำเนินการในที่ตรงนี้ลักษณะหน่วยงานของรัฐ ทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐ เราจะเข้าไปในลักษณะขอความร่วมมือจากหน่วยงานของรัฐ อย่างเช่นที่ธนารักษ์ หรือจะใช้ลักษณะการเช่าเพื่อให้ได้มาซึ่งพื้นที่ตรงนั้น แล้วก็นํามาทําให้เกิดประโยชน์

สำหรับการใช้พื้นที่นั้น ๆ ทำโดยให้ประชาชนที่มีความประสงค์ที่จะปลูกพืชเศรษฐกิจ และปลูกสมุนไพร หรือในส่วนที่เป็นการทำเกษตรผสมผสาน ตรงนี้เราให้ความรู้ประชาชนเพื่อให้เป็นแบบอย่างต่อไป และในพื้นที่อื่น ๆ ก็เหมือนกัน และต่อไปถ้าเกิดประชาชน อยากได้พื้นที่นี้ เพื่อให้ประชาชนได้เป็นเจ้าของที่ดิน ก็มาเข้ามาร่วมโครงการ โดยไปหาพื้นที่แปลงอื่นที่ไม่ใช่ที่ของรัฐ มาเข้าสู่กระบวนการเช่าหรือเช่าซื้อในระยะเวลา 30 ปี และกระบวนการต่าง ๆ ประชาชนก็ได้เรียนรู้เรื่องเกษตรจากเรา

เพราะในวันนี้ ธนาคารที่ดิน เราส่งเสริมให้ประชาชน บางคนซึ่งเขาอาจจะไม่มีเงินจำนวนมาก เราก็นำมาอยู่ในพื้นที่เพื่อส่งเสริมด้านอาชีพ หรือว่าทําเกษตรกรรม และมีรายได้ที่จะให้ดำรงชีวิตไปได้ ความเป็นอยู่ของพวกเขาจะยืนหยัดอยู่ต่อไปได้อย่างยั่งยืน

•ปี 2568 ธนาคารที่ดินมีเป้าหมายกระจายการถือครองที่ดินในโครงการฯ อย่างไร

ตอนนี้โครงการฯ ที่เรามีอยู่ประมาณ 10,000 ไร่ ในฐานะที่เป็นประธานบอร์ดธนาคารที่ดิน ผมมีความภาคภูมิใจ และอยากส่งความรักความปรารถนาดีให้กับคนไทยเหล่านี้

ความหมายของ 10,000 ไร่ ย่อมหมายถึงสมาชิกในครัวเรือน อีกหลายหมื่นคนที่เป็นเครือข่ายของธนาคารที่ดิน

"ถ้าพูดถึงในภาพรวมทั้งหมดแล้ว 10,000 ไร่ ยังถือว่านิดหน่อย ยังไม่มากเท่าที่ควรแต่เราก็มีความพยายามที่อยากจะให้ประชาชนคนไทย มีที่ดินทํากิน เป็นหลัก เราต้องการให้คนไทยทุกคนมีกิน เพราะฉะนั้น ถ้าเราสามารถใช้หน่วยงานของรัฐในส่วนของพื้นที่ที่ธนาคารที่ดินไปขอความร่วมมือและการสนับสนุนจากภาครัฐ หรือจากรัฐบาล ในการที่จะสนับสนุนงบประมาณ

มาดําเนินการตรงนี้

หรือในลักษณะของการทํางานระหว่างรัฐกับรัฐ แสดงว่า หน่วยงานของรัฐกับหน่วยงานของรัฐก็จะสามารถทําให้ประชาชนสามารถมีที่ดินทํากิน และสามารถยืนอยู่ได้ ตรงนี้ข้อสําคัญคือมันต้องมีกิน เป็นหลักนะ" พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ กล่าว

อยากจะเป็นขวัญกําลังใจ ให้กับทุกคนที่กําลังทํางานอยู่ในพื้นที่ในแต่ละโครงการ ขอให้ท่านมีกําลังใจจะต่อสู้ฟันฝ่าอุปสรรคต่าง ๆ สามารถที่จะผ่านพ้นไปได้ด้วยดีแล้วก็ขอให้ท่านเชื่อมั่นว่าในการดําเนินงานของธนาคารที่ดิน เราทําเพื่อประชาชนอย่างจริงจัง และแท้จริงครับ

Advertisement

แชร์
“ธนาคารที่ดิน” ให้เครื่องมือหาปลาปชช.เพราะต้องการให้มีอาชีพยืนหยัดได้