ชาวเสริมงามผวา! พายุถล่มบ้านพังเสียหาย150หลังคาเรือน
ชาวเสริมงาม ผวา! พายุถล่มบ้านพังเสียหายจำนวนมาก ตา-ยาย เผย นาทีพายุหมุนเร็วมากไม่ถึง 3 นาที บ้านถล่มหนีไม่ทัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ชาวบ้านและผู้นำชุมชนรวมถึงเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อำเภอเสริมงาม ได้ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายบ้านเรือของชาวบ้าน ม.5 บ้านศรีลังกา ม.7 บ้านนาเอี้ยง และม.10 บ้านหัวแต ตำบลลเสริมกลาง อำเภอเสริมงามที่ได้รับความเสียหายหนักจากพายุฤดุร้อน โดยคาดว่ามีบ้านเรือนได้รับความเดือดร้อนประมาณ150หลังคาเรือน
โดยชาวบ้านได้เร่งกันนำหลังคาที่เสียหายออก และเก็บไม้กระเบื้องที่เสียหายออก เท่าที่จะทำได้ในวันนี้ ส่วนบ้านที่ไม่สามารถทำอะไรได้ต้องรอส่วนราชการในวันพรุ่งนี้ ที่จะระดมทหารและจิตอาสาเข้ามาช่วยในการรื้อหลังคาที่เสียหาย และเร่งซ่อมหลังคาให้กลับมาอยู่ในสภาพปกติ เนื่องจากเกรงว่าจะมีฝนตกลงมาซ้ำเติมอีกครั้ง
ขณะที่เมื่อวานนี้มีบ้าน2หลัง ที่ถล่มลงมาทั้งหลังหลังแรก บ้านของตาโกน อายุ 59 ปี ซึ่งได้รับบาดเจ็บที่หลัง เนื่องจากเมื่อวานนี้อยู่ในบ้านพร้อมกับหลาน2คน และวิ่งหนีออกมาไม่ทันหลาน 1 คน ข้อเท้าพลิกอีกคนถลอกตามตัวปลอดภัยทั้ง 3 คน ได้เล่านาทีที่เกิดเหตุว่าตนกับหลานนั่ง อยู่ในบ้านดูฝนตกตามปกติ เมื่อฝนรอบแรกหยุด รอบที่2ฝนเริ่มมานิดหน่อย และมองเห็นพายุหมุนเข้ามา จึงจะพาหลานวิ่ง แต่มาเร็วมากวิ่งออกมาไม่ทัน เพียงประมาณ 3 นาที บ้านก็ถล่มลงมา
ตนกับหลานจึงก้มลงกับพื้น ซึ่งก็โชคดีที่เสาบ้านและไม้คานหลังคา ที่โค่นลงมาทับรถเข็น ทำให้ยังมีที่ว่างด้านล่างให้หลบ เมื่อพายุสงบจึงได้ดันหลานค่อยๆ คลานออกมาจากช่องที่เหลือ อยู่ยอมรับว่าตั้งแต่สร้างบ้านมาหลายสิบปี และตั้งแต่ตน อายุ 59 ปี นี้ก็ยังไม่เคยเห็นพายุที่รุนแรงขนาดนี้มาก่อน
ขณะที่บ้านอีกหลังบ้าน ของยาย แสงอายุ 70 ปี ได้เล่าว่า ก่อนพายุมาตนนั่งในบ้าน ซึ่งบ้านหลังนี้สร้างเสร็จ และเพิ่งเข้าอยู่อาศัยเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ได้เพียง3-4เดือนเท่านั้น ในตอนแรกก็มีแค่ฝนตก และเริ่มหยุดก่อน ที่จะมีฝนปรอยๆ ตามมารอบที่2และเริ่มได้ยินเสียงลมดังมาก และเห็นเป็นพายุ ตนจึงรีบเดินออกมา และพยายามปิดประตู
และหาที่คล้องประตูแต่ไม่ทัน ตนจึงยืนนิ่งและดูแล้วว่ายืนตรงหน้าประตูบ้าน จุดนั้นหากเสาล้มก็คงไม่โดนตน จึงยืนนิ่งอยู่แบบนั้นแป๊บเดียว ไม่เกิน 3 นาที บ้านก็โค่นล้มลงมาหมด เมื่อได้สติจึงไปหาร่มและเข้าไปดูทรัพย์สินในบ้าน ทีวีก็เสียหาย คือในบ้านเปียกหมดทุกอย่าง จึงรีบออกมาอยู่ที่บ้านหลังเดิมซึ่งยายแสง เล่าว่า ตนก็ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้เช่นกัน ยอมรับว่าทำอะไรไม่ถูกได้แต่ยืนนิ่ง ซึ่งก็โชคดีที่ไม่ได้รับอันตราย
ล่าสุดขณะนี้ทางผู้ใหญ่บ้านและฝ่ายปกครอง ได้ตั้งศูนย์รับแจ้งเหตุที่โรงเรียนบ้านศรีลังกา ซึ่งรร.เองก็ได้รับความเสียหายบางส่วน ต้องเร่งซ่อมหลังคา ในส่วนที่ภายในห้องมีอุปกรณ์สำคัญ ก่อนเพื่อจะไม่ได้เกิดความเสียหายหากฝนตกลงมาเพิ่มเติม
สำหรับความต้องการของหมูบ้าน ขณะนี้คือกระเบื้องมุงหลังคา ที่อาจจะไม่เพียงพอเพราะต้องใช้มากกว่า 1,000 แผ่น ในเบื้องต้นและกำลังจิตอาสาที่จะเข้ามาช่วยในการรื้อซ่อมแซมบ้านเรือนของชาวบ้าน
Advertisement
