เกาะติดเลือกตั้งสหรัฐฯ 2020: "ทรัมป์-ไบเดน" ลงพื้นที่หาเสียงครั้งสุดท้าย

"ทรัมป์" ลงพื้นที่หาเสียงครั้งสุดท้ายที่รัฐมิชิแกน ขณะที่ "ไบเดน" ลงพื้นที่รัฐเพนน์ซิลเวเนีย ด้านโพลล์ล่าสุดไบเดนยังนำ

คอนเทนต์แนะนำ

ดับแล้ว 5 ศพ! นักท่องเที่ยวต่างชาติสังเวยชีวิตให้เหล้าผสมเมทานอลในลาว

ทำถึง! ทีมเชียร์ลีดเดอร์ขอนแก่นวิทยายน จากไวรัลชุดบอดี้มนุษย์และเปรต

รมช.คลัง แนะเข้าเว็บ Welfare.mof.go.th ยืนยันสิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

โค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ 3 พ.ย. ตามเวลาท้องถิ่น ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ วัย 74 ปี ตัวแทนจากพรรครีพับลิกัน ลงพื้นที่หาเสียงครั้งสุดท้ายในรัฐมิชิแกน ขณะที่ อดีตรองประธานาธิบดี โจ ไบเดน ตัวแทนพรรคเดโมแครต วัย 77 ปี ปักหลักหาเสียงที่สุดท้าย ที่เมืองพิตต์สเบิร์ก ในรัฐเพนซิลเวเนีย 

การลงพื้นที่หาเสียงเป็นครั้งสุดท้ายของทรัมป์และไบเดน มีขึ้นพร้อมกับผลโพลล์จากหลายสำนักที่ระบุว่า โจ ไบเดน จากพรรคเดโมแครต มีคะแนนนิยมนำหน้า โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯคนที่ 45 จากพรรครีพับลิกัน ระหว่าง 51% ต่อ 43% โดยเฉลี่ย

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง 
- เกาะติดเลือกตั้งสหรัฐฯ 2020: "ไบเดน" ยังทำคะแนนเหนือ "ทรัมป์" กว่า 10 จุด
- เกาะติดเลือกตั้งสหรัฐฯ 2020: "ทรัมป์" ครองเสียงข้างมากผู้มีสิทธิเลือกตั้งผิวขาว
- เกาะติดเลือกตั้งสหรัฐฯ 2020: "ทรัมป์" ลุยหาเสียง 4 เวที รัฐสมรภูมิ "เพนซิลเวเนีย"
- เกาะติดเลือกตั้งสหรัฐฯ 2020: "โอบามา" เสริมทัพ "ไบเดน" จวก "ทรัมป์" ล้มเหลวโควิด

หลังจากที่ผลโพลล์ล่าสุดถูกเผยแพร่ออกมา ประธานาธิบดีทรัมป์ซึ่งรู้ตัวว่า มีคะแนนนิยมตามหลัง ได้ออกมาตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการจัดเลือกตั้งล่วงหน้าทางไปรษณีย์ ซึ่งทรัมป์อ้างว่า อาจมีการโกงผลการลงคะแนน พร้อมขู่ว่าจะดำเนินการทางกฏหมาย รวมถึงมีความเป็นไปได้ที่ตัวเขาอาจถึงขั้น ประกาศไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง 

เนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้ในปีนี้ มีการเปิดให้ลงคะแนนเลือกตั้งประธานาธิบดีล่วงหน้ามาแล้วหลายสัปดาห์ ซึ่งปรากฏว่า มีชาวอเมริกันมากกว่า 94 ล้านคน ที่ใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าไปแล้ว แบ่งเป็น ราว 34 ล้านคน เดินทางไปใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าตามหน่วยเลือกตั้งที่กำหนด และราว 60 ล้านคน ใช้สิทธิเลือกตั้งทางไปรษณีย์

ทั้งนี้ในระบบการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯซึ่งจะจัดขึ้นทุก 4 ปีนั้น ผู้มีสิทธิเลือกตั้งชาวอเมริกัน จะไม่สามารถเลือกประธานาธิบดีได้โดยตรง แต่ผู้มีสิทธิจะทำการลงคะแนนเลือก “คณะผู้เลือกตั้ง” ใน 50 มลรัฐทั่วประเทศ ซึ่งมีจำนวนคณะผู้เลือกตั้งรวมทั้งหมด 538 คน ก่อนที่คณะผู้เลือกตั้งเหล่านี้จะไปลงคะแนนเลือกประธานาธิบดีในขั้นต่อมา

ซึ่งหากผู้สมัครคนใด ได้คะแนนเสียงจากคณะผู้เลือกตั้งถึง 270 คะแนนก่อน ก็จะถือว่าเป็นผู้ชนะ และจะได้เป็นประธานาธิบดีคนต่อไป