อัยการสูงสุดนัดผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนสารสาสน์วิเทศน์ราชพฤกษ์ และ ผู้แทนจากทางโรงเรียน เจรจาไกล่เกลี่ยครั้งแรก กรณีครูทำร้ายเด็กนักเรียนภายในโรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์
จากกรณีที่อัยการสูงสุดนัดตัวแทนผู้ปกครอง และตัวแทนโรงเรียนสารสาสน์วิเทศน์ราชพฤกษ์ มาเจรจาไกล่เกลี่ยค่าเสียหายตัวเลขค่าเสียหายเยียวยาจิตใจครอบครัวละ 5 ล้านบาท รวม 26 ครอบครัว เป็นจำนวนมากกว่า 130 ล้านบาทนั้น
ล่าสุดวันนี้ (10 พ.ย.) นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ระบุว่า ผู้ปกครองได้ยื่นเรื่องต่ออัยการเพื่อฟ้องคดีทางแพ่ง ซึ่งอัยการได้รับเรื่องนี้เป็นกรณีพิเศษเนื่องจากเป็นคดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชนและเป็นคดีที่มีการละเมิดสิทธิร้ายแรงต่อเด็ก เพื่อไม่ให้โรงเรียนอื่นเอาเป็นเยี่ยงอย่าง ขณะนี้มีผู้ปกครองเรียกค่าเสียหายเยียวยา สภาพจิตใจรายละ 5 ล้านบาท รวม 26 ครอบครัว เป็นเงินกว่า 130 ล้านบาท ส่วนตัวมองว่าเป็นจำนวนที่ไม่มากเกินไป เพราะแพทย์ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าอีกนานแค่ไหนเด็กที่ถูกทำร้ายจะหายจากอาการหวาดกลัว วันนี้ตัวแทนทางโรงเรียนจะมาหรือไม่ ทางอัยการสูงสุดก็จะดำเนินการฟ้องร้องทางแพ่งตามขั้นตอนอยู่แล้ว
ขณะที่ ผู้ปกครอง เปิดเผยว่า ทุกวันนี้ลูกยังมีอาการหวาดผวา อารมณ์รุนแรง บางครั้งมีอาการทำร้ายตนเอง ส่วนอีกรายจะปิดประตูห้องทุกครั้งที่ได้ยินเสียงดังๆ อยากให้เข้าใจว่าลูกถูกทารุณกรรมและไม่ทราบว่าจะกลับมาใช้ชีวิตประจำวันเป็นปกติได้เมื่อไหร่ เงินเยียวยา 5 ล้านบาท ถือว่าไม่มากหากเทียบกับสภาพจิตใจของลูกและค่ารักษาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ที่ผ่านมาโรงเรียนได้คืนค่าเล่าเรียน 1 ภาคเรียนให้กับผู้ปกครองแล้วแต่ในเรื่องอื่นๆ เช่น ค่ารักษาทางจิตเวช ทางโรงเรียนยังไม่ให้ความช่วยเหลือ หากที่ผ่านมาทางโรงเรียนออกมารับผิดชอบคิดว่ายอดเงินจะไม่สูงเท่านี้ แต่โรงเรียนกลับไม่แสดงความรับผิดชอบใดๆ
ด้านนายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้เป็นการนัดไกล่เกลี่ยผู้ปกครองกับทางโรงเรียนซึ่งเป็นขั้นตอนทางกฎหมาย เป็นการลดคดีในชั้นศาลได้หากทั้ง 2 ฝ่ายสามารถเจรจาค่าเสียหายร่วมกันได้ โดยการเชิญครั้งนี้อัยการสำนักงานอัยการสูงสุดทำหน้าที่เป็นคนกลางเพื่อเชิญ 2 ฝ่ายมาพูดคุยอย่างสมัครใจ
แต่ทางผู้บริหารโรงเรียนสารสาสน์ ได้ตอบกลับทางจดหมายเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ขอปฏิเสธการไกล่เกลี่ยโดยแจ้งว่าไม่สมัครใจในการพูดคุย และมีความประสงค์ให้ศาลตัดสินค่าความเสียหาย ส่วนวันนี้ทางสำนักงานอัยการสูงสุดจะหารือร่วมกับคณะทำงานและผู้ปกครองซึ่งอาจจะทำหนังสือเชิญมาอีกครั้ง หากโรงเรียนไม่สมัครใจมาไกล่เกลี่ยก็จะทำหน้าที่ในการแนะนำชี้ช่องทางกฎหมายต่อไป
Advertisement