แตกตื่น หนุ่มเจอไข่มุกยักษ์อ่าวไทยสีส้มหนัก 76 กรัม 38 กะรัต มูลค่าหลายสิบล้าน ขณะที่นักธุรกิจจีนบินด่วนขอตรวจสอบหากเป็นของแท้พร้อมทุ่มซื้อหลายสิบล้าน
จากกรณีที่ พระไพโรจน์ฐิตรตโณ พระลูกวัดเกาะเพชร หมู่ 6 ที่ ต.เกาะเพชร อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช แจ้งว่าประชาชนแตกตื่นกันออกเสาะหาหอยมุกกันอย่างคึกคักตลอดแนวชายหาดโดยเฉพาะในเวลากลางคืน หลังจากที่มีชาวบ้านคนหนึ่งพบหอยมุกบนชายหาดเมื่อนำกลับมาบ้านเพื่อแกะเอาเปลือกหอยที่แวววาวมาประดับกรงนกกรงหัวจุก แต่พบว่าภายในหอยพบมุกขนาดใหญ่สีส้มลักษณะกลมเกลี้ยงขนาดเล็กกว่าเหรียญ 5 บาทเล็กน้อย อยู่ภายในหอยที่ยังเป็นๆ มาทราบภายหลังว่าเป็นไข่มุกเมโล ซึ่งเป็นมุกที่หายากที่สุดในโลก และราคาแพงที่สุดในโลก ทำให้ชาวบ้านแตกตื่นแห่ออกเดินเสาะหาหอยชนิดเดียวกันที่คาดว่าคลื่นซัดขึ้นมาเกยตลอดแนวชายหาดใน ต.เกาะเพชร อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช
วันนี้ (3 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานเดินทางไปตรวจสอบเม็ดมุกยักษ์สีส้ม “มุกเมโล” ที่บ้านของนายหัสชัย นิยมเดชา อายุ 37 ปี ผู้พบหอยมุกยักษ์ล้ำค่าตัวดังกล่าวนำมุกที่แกะออกมาจากหอยมุกมาโชว์ให้ผู้สื่อข่าวดู โดยพบว่าเม็ดมุกมีลักษณะกลมเกลี้ยงสีส้มขนาดเกือบเท่าเหรียญ 5 บาท มีรูเล็กๆ เท่าเข็มหมุด 1 รู รวมทั้งหอยมุกที่เม็ดมุกอยู่ข้างในแต่ถูกแกะออกเป็น 2 ฝา พร้อมรังเนื้อเยื้อที่ยังอยู่ครบถ้วน
นายหัสชัย ผู้พบหอยมุกและไข่มุกสีส้มเม็ดดังกล่าวเปิดเผยว่า ก่อนพบหอยมุกตนนอนฝันมาหลายคืนติดต่อว่ามีคนแก่เดินถือไม้เท้าแต่งชุดขาวมีหนวดยาวเฟื้อยมาหา บอกว่าให้ตนออกไปพบที่ชายหาดมีของดีจะให้ จนล่าสุดตนฝันเหมือนเดิมและตื่นขึ้นมาเหมือนกับถูกสกดจิตลุกขึ้นเดินไปที่ชายหาดเหมือนคนไม่มีสติ จนไปพบลูกทุ่นสีแดงลูกหนึ่งมีหอยหลายชนิดหลายขนาดเกาะอยู่นับร้อยตัวโดยมีหอย 3 ตัว หลุดวางอยู่บนพื้นทราย ตนเหมือนถูกบังคับให้เดินไปหยิบหอย 3 ตัวแล้วเดินกลับบ้านด้วยอาหารเหม่อลอย และนำมาวางไว้ที่บ้าน 2 วัน
จนกระทั่งวันที่ 30 ม.ค.จึงแกะหอยทั้ง 3 ตัว จนพบเม็ดมุกขนาดใหญ่สีส้มอยู่ในหอยตัวใหญ่สุด ส่วนอีก 2 ตัวไม่พบอะไร โดยหลังจากทราบว่าเป็นเม็ดมุกที่ราคาแพง นายอานนท์หรือ “บังหมัด” พ่อของตนก็ออกไปแกะหอยที่ติดอยู่ที่ทุ่นนับร้อยตัวมาแกะดูด้านในก็ไม่พบเม็ดมุกแต่อย่างใด
ทางด้าน นายอานนท์ หรือ “บังหมัด” กล่าวว่าครอบครัวตนเป็นครอบครัวใหญ่มีลูก 4 คน ยังอยู่อาศัยรวมกันและประกอบอาชีพซื้อกุ้งจากบ่อเลี้ยงส่งขายที่ตลาดมหาชัย จ.สมุทรสาคร แต่ในปัจจุบันมีปัญหาโควิด-19 จนต้องปิดตลาดมหาชัย ตนจึงต้องส่งกุ้งไปขายที่ประเทศมาเลเซียแทน ในช่วงมรสุมจะมีคลื่นแรงพัดซัดเข้าหาฝั่งและมักจะซัดเอาสิ่งของมีค่ามาเกยตามแนวชายหาดเป็นประจำ เช่น เชือกป่านขนาดใหญ่ ทุ่นพลาสติกขนาดต่างๆ โฟมพลาสติกชนิดและขนาดต่างๆ บางครั้งพบขวดหัวเชื้อน้ำหอมจากต่างประเทศ ตรวจสอบราคา 7-8 หมื่นบาท รวมทั้งอำพันทะเลหรือ “อ้วกวาฬ” ชาวบ้านจึงมักจะออกไปเดินหาสิ่งของที่คลื่นซัดมาเกยชาดหาด
หลังจากสื่อมวลชนนำเสนอข่าวได้มีธุรกิจจาก จ.พังงา 2 รายติดต่อมาขอซื้อ รายแรกเสนอราคา 1 ล้านบาท รายที่ 2 ให้ราคาสูงถึง 5 ล้านบาท แต่ครอบครัวตนยังไม่ตัดสินใจขายเพราะเชื่อว่าจะสามารถขายได้ในราคาที่สูงกว่านี้มาก โดยล่าสุดได้มีผู้พิพากษาท่านหนึ่งติดต่อมาแจ้งว่าจะนำนักธุรกิจใหญ่จากประเทศจีนมาตรวจสอบว่าเป็นเม็ดมุกเมโลของแท้จริงหรือไม่ และจะขอซื้อเม็ดมุกสีส้มเม็ดดังกล่าว แต่ไม่แน่ใจว่าคณะของนักธุรกิจชาวจีนเขาเมืองไทยจะต้องผ่านการกัดตัวโควิด-19 เป็นเวลา 14 วัน หรือไม่ อย่างไรก็ตาม เพื่อความปลอดภัยจะนำเม็ดมุกไปเช่าตู้เซฟธนาคารเก็บรักษามุกเม็ดนี้ต่อไป
Advertisement