สธ.ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง ปม วีไอพีลัดคิวฉีด วัคซีนโควิด ที่เชียงใหม่
สธ.ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง ปม "วีไอพี" ลัดคิวฉีด วัคซีนโควิด ก่อนแพทย์ ที่เชียงใหม่
คอนเทนต์แนะนำ
จากกรณีเพจดัง เพจ Infectious ง่ายนิดเดียว ได้โพสต์ถึงประเด็นการฉีดวัคซีน ระบุมีวีไอพี ที่ได้รับการฉีดวัคซีนก่อนแพทย์ นั้น
วันนี้ (2 มี.ค.2564) นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ชี้แจงกรณีข่าวการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้กลุ่มวีไอพีที่ไม่อยู่ในเงื่อนไขการได้รับวัคซีนกลุ่มแรก ว่า ทางกระทรวงสาธารณสุขได้ส่งจัดวัคซีนไปให้ จ.เชียงใหม่ โดยทางจังหวัดได้กำหนดกลุ่มเป้าหมาย 1,450 คน และได้มีการระบุรายชื่อและนัดหมายให้มาฉีด ซึ่งในจำนวนดังกล่าว เป็นเจ้าหน้าที่สาธารณสุข 73 คนในวันแรก และจนท.อื่นๆ อีก 300 คน
แต่ในวันแรกของการฉีดนั้นเกิดระบบขัดข้องและเจ้าหน้าที่บางคนยังไม่มั่นใจ ทำให้จำนวนผู้ที่แสดงความจำนงค่อนข้างน้อยน้อย แต่เมื่อวันที่ 28 ก.พ. ทำให้หลายคนเกิดความมั่นใจมากขึ้น เมื่อถึงวันที่ฉีดจริงก็มีผู้เข้ามาติดต่อขอฉีดมากขึ้น ทำให้เกิดความขลุกขลักบางประการเกิดขึ้น
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เผยสาเหตุ "บิ๊กตู่" เลื่อนฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกาเข็มแรก ติดปัญหาเอกสาร
- นายกรัฐมนตรี ทำพิธีรับมอบวัคซีนโควิดล็อตแรก 2 แสนโดสจากประเทศจีน
- สาธารณสุข พร้อมส่งวัคซีนโควิดล็อตแรก เผยผลข้างเคียงในสหรัฐฯ ส่วนใหญ่จะเจ็บปวดบริเวณที่ฉีด
ภาพรวมการฉีดวัคซีนวันแรกของ จ.เชียงใหม่ จึงฉีดไป 140 ราย เป็นเจ้าหน้าที่สาธารณสุข 73 ราย เจ้าหน้าที่อื่นๆ ที่ปฏิบัติหน้าที่ 67 ราย
“เจ้าหน้าที่อื่นๆ มีคนสอบถามว่าเป็นวีไอพีหรือเปล่า ขอนำเรียนว่าวัคซีนที่ฉีด จะฉีดในกลุ่มเป้าหมายที่เป็นเจ้าหน้าที่อื่นๆ ที่ทำหน้าที่ควบคุมโควิด-19 มีโอกาสสัมผัสผู้ป่วย ไม่ว่าจะเป็นหัวหน้าส่วนราชการ ฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ เช่น ทหารก็จะมีนายทหารยศสัญญาบัตรมาฉีดด้วย ฉะนั้น ที่บอกว่าเป็นวีไอพี ก็คงไม่ตรงตามข้อเท็จจริงทั้งหมดทีเดียว เพราะมีบุคลากรอื่นๆ มาฉีดด้วย ซึ่งการดำเนินการต่างๆ เป็นไปตามเป้าหมายที่ สธ.และ ศบค.กำหนด โดยทางผู้ว่าราชการและคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่จะแถลงในรายละเอียดที่ครบถ้วนอีกครั้ง” นพ.โอภาสกล่าว
นพ.โอภาสกล่าวว่า อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้อยู่ในความสนใจของประชาชน ทาง นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัด สธ. จึงตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงในรายละเอียดเรื่องนี้ เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่า สธ.ดำเนินการอย่างตรงไปตรงมาตามระบบของวิชาการทางการแพทย์การสาธารณสุข และทางระบาดวิทยา ไม่มีการปกปิดข้อมูล และจะนำเรียนความคืบหน้าเป็นระยะ
Advertisement
