สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล มุ่งสู่การเป็นองค์กรวัฒนธรรมสีเขียว อย่างยั่งยืน

สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล มุ่งสู่การเป็นองค์กรวัฒนธรรมสีเขียว อย่างยั่งยืน ตั้งเป้าจะขึ้นสู่ในระดับ 5 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดภายใน 2-3 ปีข้างหน้า

คอนเทนต์แนะนำ

เปิดใจ น้องเฟิร์น นิสิตคณะเภสัชศาสตร์ ผู้ชนะเลิศออกแบบโลโก้ "หมูเด้ง"

"ใหม่ ดาวิกา" ไม่ทน! ฟ้องคนด่าแรง เอาเงินมาช่วยเหลือสัตว์

ตำนาน นางนพมาศ จากพิธี "จองเปรียง" สมัยสุโขทัย สู่ประเพณี "ลอยกระทง"

ปัจจุบันการดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมแบบยั่งยืน ถือเป็นสิ่งที่หลายองค์กรเริ่มตื่นตัวและหันมาให้ความสำคัญ สำนักงานสลากเองก็เป็นหนึ่งในองค์กรที่เริ่มดำเนินการเรื่องนี้มาอย่างจริงจังและต่อเนื่อง จนเกิดเป็นผลงานที่ชัดเจน พันโท หนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล (GLO) ได้เผยถึงเรื่องนี้ว่า สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลให้ความสำคัญกับความยั่งยืน โดยเฉพาะในเรื่องของสิ่งแวดล้อม ซึ่งล่าสุด สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ได้รับการรับรองจากกระทรวงอุตสาหกรรม ในการยกระดับเป็น “อุตสาหกรรมสีเขียว ระดับที่ 4" หรือ วัฒนธรรมสีเขียว (Green Culture) ซึ่งไม่ใช่เฉพาะในเรื่องของกระบวนการผลิตเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นระบบต่อเนื่อง ทุกคนในองค์กรให้ความร่วมมือร่วมใจดำเนินงานอย่างเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในทุกด้านของการประกอบกิจการ จนกลายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมองค์กร

นอกจากนี้ สำนักงานสลากฯ ยังได้ใบรับรอง Carbon Footprint Label จากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ตามเป้า ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลให้ความสำคัญกับเรื่องสิ่งแวดล้อม ซึ่งถือเป็นแนวทางหลักที่องค์กรกำลังมุ่งหน้าต่อไป เพื่อเข้าร่วมมือกับภาคีเครือข่ายในการไปสู่ความยั่งยืน

ทั้งนี้ การพิมพ์สลากกินแบ่งรัฐบาลในแต่ละงวด ย่อมส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สำนักงานสลากฯ ได้ตระหนักถึงเรื่องนี้จึงแก้ปัญหาในหลายด้าน เริ่มตั้งแต่ด้านพลังงาน ที่ผ่านมาใช้พลังงานไฟฟ้าทั้งเครื่องจักร เครื่องพิมพ์ ซึ่งการผลิตกระแสไฟฟ้ามาใช้ทำให้เกิดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก จึงได้หันมาใช้พลังงานไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์ นอกจากนี้การพิมพ์สลากกินแบ่งรัฐบาล ต้องใช้กระดาษจำนวนมาก ซึ่งก่อนหน้านี้แต่ละงวดจะพิมพ์ประมาณ 100 ล้านฉบับ หรือเดือนละ 200 ล้านฉบับ แต่เมื่อหันมาขายแบบออนไลน์มากขึ้นนั่นคือ สลากดิจิทัล จึงทำให้ประหยัดกระดาษเหลือเพียงเดือนละ 160 ล้านฉบับ หรืองวดละ 80 ล้านฉบับ และยังประหยัดพลังงานในด้านการขนส่งอีกด้วย

สำหรับรายได้ในการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลในแต่ละงวด 60% จะแบ่งเป็นเงินรางวัล อีก 40% จะแบ่งเป็นการนำส่งรัฐ และมาบริหารจัดการสำนักงานสลากฯ ซึ่งงบส่วนนี้จะนำมาใช้ดำเนินการเรื่อง "ระบบนิเวศเศรษฐกิจ" ซึ่งเป็นตัวชี้วัดกำหนดให้องค์กรของรัฐที่เป็นอุตสาหกรรมดำเนินภารกิจภายใต้การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ซึ่งสำนักงานสลากฯ ได้ดำเนินการเรื่องนี้ทั้งทางตรง เช่น การติดตั้งโซลาร์เซลล์ในโรงเรียนสลากกินแบ่งสงเคราะห์ซึ่งมีกว่า 77 แห่งทั่วประเทศ เปลี่ยนพลังงานสะอาดให้เป็นพลังงานแห่งอนาคต และทางอ้อม เช่น การจัดการแข่งขันฟุตบอลเยาวชน GLO Cup, โครงการ Seed Thailand, โครงการคิดดีแคมป์ เป็นต้น ซึ่งแต่โครงการมีการใส่คอนเทนต์และปลูกจิตสำนึกเรื่องสิ่งแวดล้อมลงไปให้เด็กๆ และเยาวชน

สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล มุ่งมั่นที่จะก้าวไปสู่การเป็นองค์กรวัฒนธรรมสีเขียว ตั้งเป้าจะขึ้นสู่ในระดับ 5 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดภายใน 2-3 ปีข้างหน้า เพื่อเน้นย้ำวัฒนธรรมองค์กรที่ดำเนินการอย่างเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นการแสดงถึงความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างยั่งยืนของสำนักงานสลากฯ อีกด้วย