GISTDA ขานรับนโยบายรัฐฯ ใช้ข้อมูลดาวเทียมร่วมบริหารสถานการณ์ฝุ่น PM2.5

GISTDA ขานรับนโยบายรัฐฯ ใช้ข้อมูลดาวเทียมร่วมบริหารสถานการณ์ฝุ่น PM2.5

คอนเทนต์แนะนำ

ดูเอาเอง! คางดำลั้นลาในบ่อจับกุ้งเจอปลาฝูงใหญ่ 6,000 กิโลกรัม

นายกฯ ประทับใจลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ครั้งแรก

บังแจ็ค ลั่น กู้ข้อมูลมือถือแตงโมได้เพิ่ม เตรียมไขคดีต่อเร็วๆ นี้

ดร.ปกรณ์ อาภาพันธุ์ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ หรือ GISTDA เปิดเผยภายหลังเข้าร่วมการประชุมติดตามการแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ที่มีนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ว่า ปัจจุบัน GISTDA ใช้ข้อมูลจากดาวเทียมในการติดตามสถานการณ์จุดความร้อน (Hotspot) ของประเทศไทย เพื่อนำข้อมูลที่ได้จากการวิเคราะห์ส่งให้กับหน่วยงานในพื้นที่นำไปบริหารจัดการได้อย่างรวดเร็วและทันต่อสถานการณ์ โดยจำนวนจุดความร้อนและขนาดพื้นที่เผาไหม้เป็นอีกหนึ่งสัญญาณที่สำคัญที่บ่งชี้ความรุนแรงของสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ในขณะเดียวกัน GISTDA ได้พัฒนาแอปพลิเคชันเพื่อดูค่าฝุ่น PM2.5 แบบรายชั่วโมงที่ชื่อว่า “เช็คฝุ่น” เพื่อให้ประชาชนได้รู้ปริมาณค่าฝุ่น PM2.5 ทุกๆชั่วโมงในแต่ละพื้นที่ซึ่งสามารถลงรายละเอียดได้ถึงระดับตำบล อีกด้วย

ทั้งนี้ การใช้ข้อมูลจากดาวเทียม และเทคโนโลยีต่างๆ มาเป็นเครื่องมือในการสนับสนุนการบริหารจัดการค่าฝุ่น PM2.5 นั้น สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลที่ต้องการจะแก้ปัญหา PM2.5 และนโยบายของกระทรวง อว. ที่มุ่งเน้นการใช้เทคโนโลยี นวัตกรรม และการวิจัย เพื่อการแก้ไขปัญหาสําคัญของประเทศ

ดร.ปกรณ์ กล่าวอีกว่า การใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีอวกาศ โดยเฉพาะข้อมูลจากดาวเทียม ถือเป็นนวัตกรรมสำคัญที่นำไปสู่การติดตามมลภาวะทางอากาศ และเฝ้าระวังการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในประเทศไทยรวมถึงอาเซียน รวมทั้งเป็นการเผยแพร่องค์ความรู้ให้กับหน่วยงาน สถาบันการศึกษา และผู้เกี่ยวข้องในระดับพื้นที่สามารถนำไปต่อยอดหรือใช้ประโยชน์จากข้อมูลให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในอนาคต และแน่นอนว่าข้อมูลที่เราได้จะถูกนำไปบอกต่อให้กับประชาชนคนไทยได้รู้เท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศของไทยและของโลก เพื่อการป้องกัน เฝ้าระวัง และติดตาม