Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
เบิร์กลีย์ กรุ๊ป เปิดตัว ‘TRILLIUM’ London W2, Zone 1 คอนโดหรูย่าน Prime Central London จับกลุ่มนักลงทุนให้ผลตอบแทนสูง

เบิร์กลีย์ กรุ๊ป เปิดตัว ‘TRILLIUM’ London W2, Zone 1 คอนโดหรูย่าน Prime Central London จับกลุ่มนักลงทุนให้ผลตอบแทนสูง

6 ก.พ. 68
16:32 น.
|
16
แชร์

บริษัท เบิร์กลีย์ กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (Berkeley Group Holdings plc) ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์และผู้สร้างบ้านชั้นนำจากประเทศอังกฤษประกาศเปิดตัวโครงการใหม่ “TRILLIUM” London W2, Zone 1 บนทำเลศักยภาพ ย่าน Prime Central London เจาะกลุ่มนักลงทุน ราคาเริ่ม 28.6 ล้านบาท มั่นใจตลาดลอนดอนยังน่าลงทุน และเป็นโอกาสระยะยาวสำหรับนักลงทุน

นางสาวณชนกช์ ปัญญาหิตานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอลดีเอ็นลักซ์ ลิฟวิ่งส์ จำกัด เปิดเผยว่าบริษัท เบิร์กลีย์ กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (Berkeley Group Holdings plc) ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์และผู้สร้างบ้านชั้นนำจากประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยและพื้นที่เชิงพาณิชย์ในลอนดอนและเขต South East ของอังกฤษ ได้เปิดตัวโครงการใหม่ ภายใต้ชื่อ “TRILLIUM” London W2, Zone 1 บนทำเลศักยภาพ ย่าน Prime Central London รองรับความต้องการอสังหาริมทรัพย์คุณภาพ ทั้งในด้านสิ่งแวดล้อม และความสะดวกสบาย ย่านใจกลางกรุงลอนดอน เพื่อการลงทุน และ อยู่อาศัย โดยมีราคาเริ่มต้น 675,000 ปอนด์ หรือ 28.6 ล้านบาท

การพัฒนาโครงการดังกล่าว มีความเหมาะสมเพื่อการอยู่อาศัย โดยมุ่งเน้นไปที่การสร้างชุมชนที่ยั่งยืน และตอบสนองต่อความต้องการของสังคมสมัยใหม่ ซึ่งให้ความสำคัญในการออกแบบและพัฒนาโครงการที่เน้นคุณภาพด้านการก่อสร้างและการออกแบบที่พิถีพิถัน

ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทมีแบรนด์ในเครือหลายแบรนด์ที่เน้นพัฒนาตลาดเฉพาะ เช่น Berkeley Homes, St George, St James, St Edward, St William และ St Joseph ซึ่งแต่ละแบรนด์มีจุดเด่นในการพัฒนาโครงการที่หลากหลาย ตั้งแต่โครงการบ้านพักอาศัยหรูหราไปจนถึงพื้นที่อุตสาหกรรมที่ปรับเปลี่ยนเป็นพื้นที่อยู่อาศัย ที่สำคัญทางบริษัทให้ความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อมที่มีเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ โดยการออกแบบโครงการที่สอดคล้องกับแนวคิดของเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy)

นายฌอน บาร์เร็ตต์ กรรมการผู้จัดการ และ ผู้ก่อตั้ง บริษัท ฟายน์ แอนด์ คันทรี กล่าวถึงแนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษมองว่าในปี 2568 ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าราคาอสังหาริมทรัพย์อาจปรับตัวขึ้นประมาณ 2-4% หากเศรษฐกิจอังกฤษฟื้นตัวและธนาคารกลางอังกฤษ (Bank of England) ปรับลดอัตราดอกเบี้ย สถานการณ์ดังกล่าวจะช่วยกระตุ้นความเชื่อมั่นของผู้ซื้อและนักลงทุน โดยเฉพาะในย่านใจกลางเมืองและพื้นที่ที่มีการคมนาคมสะดวก เช่น ย่านธุรกิจสำคัญและพื้นที่ใกล้ระบบรถไฟใต้ดิน รวมถึงโครงการ Cross rail ที่ยังคงดึงดูดความสนใจจากผู้ซื้อและนักลงทุน

อย่างไรก็ตาม ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในลอนดอนยังมีความแตกต่างกันในแต่ละโซน โดยเฉพาะย่านใจกลางเมืองและพื้นที่ที่มีโครงสร้างพื้นฐานดียังคงมีดีมานด์สูงและราคามีแนวโน้มปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ย่านชานเมืองมีอัตราการเติบโตที่ชะลอตัว หากเศรษฐกิจอังกฤษมีเสถียรภาพและฟื้นตัวจะช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับผู้ซื้อ Real Demand กลุ่มคนทำงาน – นักศึกษาต่างชาติ และนักลงทุน (Investor) แถบเอเชียและตะวันออกกลาง ซึ่งยังคงให้ความสนใจตลาดอสังหาริมทรัพย์ในลอนดอน และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ระดับหรู (luxury property) โดยเฉพาะโครงการเพื่อการลงทุน

ขณะเดียวกัน ความสามารถในการซื้อที่อยู่อาศัยยังมีข้อจำกัด ทั้งการปรับตัวตามต้นทุนและการกู้ซื้อที่อยู่อาศัยที่สูงขึ้น โดยการเติบโตของรายได้จะช่วยให้ความสามารถในการซื้อที่อยู่อาศัยได้ในปีนี้ ทั้งนี้มองว่าปัจจัยและโอกาสในการลงทุนเช่าในลอนดอนยังมีแนวโน้มการแข่งขันที่รุนแรง เนื่องจากลอนดอนมีความต้องการ(Demand) การเช่ามากกว่าซัพพลาย (Property Supply) ที่มีอยู่ในตลาด ขณะที่ผลตอบแทนจากการปล่อยเช่า (Yield Guarantee) เพิ่มขึ้นทุกปี โดยเฉพาะย่าน Prime Central London (อ้างอิงจากผลประกอบการของโครงการ West End Gate) ที่ตั้งอยู่ใกล้กับตั้งโครงการ “TRILLIUM” London W2, Zone 1

ด้านนางนาเน็ต ฮวง หัวหน้าฝ่ายขาย เซนต์เอ็ดเวิร์ด โฮม บริษัท เบิร์กลีย์ กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ กล่าวถึงศักยภาพของทำเลที่ตั้งโครงการ “TRILLIUM” LONDON W2 Zone 1 ซึ่งอยู่ในย่าน West End ใจกลางกรุงลอนดอน หรือ ลอนดอน โซน 1 (London Zone 1) ถือเป็นย่านที่คนไทยคุ้นชิน โดยรายล้อมด้วยแลนด์มาร์คที่สำคัญ พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ด้วยศักยภาพทำเลที่ตั้งคอนโดมิเนียม TRILLIUM LONDON W2 เป็นย่านที่มีความต้องการสูง ทั้งกลุ่มลูกค้าซื้อเพื่อการลงทุน (Investor) และซื้อเพื่ออยู่อาศัยเอง (Real Demand) เพราะสามารถเดินทางไปยังถนนอ็อกซ์ฟอร์ด (Oxford Street) ได้อย่างสะดวกสบายและรวดเร็ว ซึ่งเป็นบริเวณที่อยู่ตรงข้ามกับ Edgware Road Station ใกล้กับสถานีแพดดิงตัน (Paddington)ที่เป็นสถานีหลักของกรุงลอนดอน และรายล้อมไปด้วยแหล่งสถานศึกษามหาวิทยาลัยชั้นนำของกรุงลอนดอน เช่น London Business School เป็นต้น

สำหรับรายละเอียดโครงการ TRILLIUM London W2, Zone 1 ตั้งอยู่บนพื้นที่โครงการทั้งหมด 3 ไร่ จำนวน 3 อาคาร รวมทั้งหมด 556 ยูนิต แบ่งออกเป็นแบบ Manhattan, 1-3 ห้องนอน ขนาดตั้งแต่ 40 - 109 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น £675,000 หรือ 28.6 ล้านบาท คาดว่าจะสร้างเสร็จภายในปี 2028

ด้านสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการพรั่งพร้อมไปด้วย พื้นที่สวนสาธารณะ ,สระว่ายน้ำ สระไฮโดร และสปาเท้า ห้องเกลือ ห้องอบไอน้ำ และซาวน่าอินฟราเรด ,ห้องอาหารส่วนตัว ห้องสตูดิโอและห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า,ห้องทรีตเมนต์สปา รวมถึงซาวน่า นอกจากนี้ยังมีพื้นที่พักผ่อนส่วนกลาง ไม่ว่าจะเป็นน้ำพุน้ำแข็ง,ห้องรับรองสำหรับผู้อยู่อาศัย ห้องฉายภาพยนตร์ และCo working Space พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกตลอด 24 ชั่วโมง และสามารถเข้าใช้ยิมภายในโครงการ West End Gate ได้เช่นกัน

นางแคเรน เจีย ผู้อำนวยการภูมิภาค เอเซีย ตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท เบิร์กลีย์ กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ กล่าวถึงด้านกลยุทธ์ทางการตลาดว่าทางบริษัทให้ความสำคัญในการทำการตลาดเชิงรุกในต่างประเทศเน้นการขายโครงการให้กับลูกค้าต่างชาติ โดยเฉพาะนักลงทุนจากเอเชียตะวันออกกลางผ่านการจัดโรดโชว์และงานนิทรรศการในต่างประเทศและการร่วมมือกับตัวแทนขายอสังหาริมทรัพย์ในต่างประเทศ เพื่อขยายฐานลูกค้าให้ครอบคลุมทั่วโลก

Advertisement

แชร์
เบิร์กลีย์ กรุ๊ป เปิดตัว ‘TRILLIUM’ London W2, Zone 1 คอนโดหรูย่าน Prime Central London จับกลุ่มนักลงทุนให้ผลตอบแทนสูง