เปิด 11 พฤติกรรมหลังดู TikTok พบคนฟังเพลง-ทำอาหารตามอินฟลูฯ มากที่สุด

TikTok กลายเป็นแอพพลิเคชั่นคลิปสั้นจากจีนที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลกยุคนี้ก็ว่าได้ ด้วยจำนวนผู้ใช้ถึง 1 พันล้านคนต่อเดือนทั่วโลก และผู้ใช้ส่วนใหญ่เป็น Gen Z ที่กำลังมีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจขึ้นเรื่อยๆ ในฐานะฐานผู้บริโภคในอนาคต

ด้วยรูปแบบสื่อที่สั้นและดึงดูดความสนใจ และอัลกอริธึมที่ออกแบบมาเพื่อป้อนคอนเทนต์ที่ผู้ใช้ชื่นชอบแบบไม่สิ้นสุด TikTok จึงกลายเป็นแอพพลิเคชั่นที่บรรดานักการตลาดนิยมในการทำการตลาดแบบใช้อินฟลูเอนเซอร์เป็นผู้โฆษณาสินค้า หรือในที่นี้ก็คือผู้ผลิตคอนเทนต์ใน TikTok ที่สามารถ tie-in สินค้าในคอนเทนต์ได้แบบเนียนๆ จนผู้ชมอาจดูไม่ออกว่าเป็นโฆษณา

อัลกอริธึมของ TikTok ยังมีความสามารถทำให้ทุกอย่างเป็น ‘ไวรัล’ ได้ ไม่ว่าจะเป็นเพลง หนังสือ ภาพยนตร์ เทรนด์ หรืองานอดิเรกอื่นๆ ทำให้ TikTok เป็นแอพพลิเคชั่นที่สามารถทำให้บางสิ่งบางอย่างโด่งดังขึ้นในชั่วข้ามคืนหากเจอผู้ชมที่เหมาะสม และมีอิทธิพลต่อพฤติกรรมของผู้ชมสูง ดังนั้นเรามาดูผลสำรวจกันว่า TikTok มีอิทธิพลต่อผู้ใช้งานมากแค่ไหน 

 

สำรวจพบผู้ชม TikTok ฟังเพลงและทำอาหารตามอินฟลูเอนเซอร์มากที่สุด

จากการสำรวจพฤติกรรมผู้บริโภคและการใช้โซเชียลมีเดียของ Coefficient Capital บริษัทร่วมลงทุนจากนิวยอร์ก ผู้ใช้แอพพลิเคชั่น TikTok ในสหรัฐอเมริกาทำสิ่งเหล่านี้มากที่สุดหลังดูคลิป

1. ฟังเพลงใหม่ๆ จากที่เจอในคลิป (44%)
2. ลองทำอาหารและเครื่องดื่มตามคลิป (35%)
3. ได้งานอดิเรกใหม่ (29%)
4. ใช้ผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ใหม่ๆ ที่ไม่เคยใช้ (28%)
5. กลายเป็นแฟนคลับของวงดนตรีหรือศิลปินใหม่ๆ (28%)
6. ซื้อของที่เห็นผู้ผลิตคอนเทนต์ใช้ (27%)
7. พูดคำ หรือวลีที่คนใน TikTok พูด (22%)
8. ใส่ชุดที่เคยเห็นในคลิป หรือเปลี่ยนสไตล์การแต่งตัว (17%)
9. ไปเที่ยวในเมืองที่ตัวเองอยู่ หรือเมืองใกล้ๆ (17%)
10. ไม่เคยทำอะไรตามคลิป TikTok เลย (16%)
11. ไปเที่ยวต่างเมือง หรือต่างประเทศ (12%)

โดยจะเห็นได้ว่า TikTok มีอิทธิพลสูงมากทีเดียวในการทำให้ผู้ใช้ ‘ลองทำสิ่งที่ไม่เคยทำ’ ไม่ว่าจะเป็นการฟังเพลงอะไรที่ไม่เคยฟัง กินอะไรที่ไม่เคยกิน แต่งตัวในแบบที่ไม่เคยแต่ง หรือไปในสถานที่ที่ไม่เคยไป ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นแพลตฟอร์มในฝันสำหรับนักการตลาดที่ต้องการแนะนำสินค้าหรือบริการใหม่ๆ ให้กับผู้บริโภค เพราะสินค้าเหล่านั้นอาจติดตลาดได้ง่ายๆ หากกลายเป็นเทรนด์ไวรัลต่างๆ ใน TikTok

 

อะไรคือไวรัลที่สุดใน TikTok ประจำปี 2022

#cloudbread 

นอกจาก ‘เพลง’ ซึ่งเป็นสิ่งที่กลายเป็นไวรัลได้ง่ายที่สุดจากฟังก์ชั่นของ TikTok ที่เปิดให้ผู้ใช้นำเพลงมาประกอบคอนเทนต์ได้แล้ว ‘สูตรอาหารง่ายๆ’ ก็กลายเป็นเทรนด์ใน TikTok ได้ อย่างเช่น Cloud Bread ที่ใช้ส่วนผสมเพียง 3 อย่างคือ ไข่ขาว แป้งข้าวโพด และน้ำตาล ผสมกัน ตีให้ฟูแล้วนำไปอบ โดยปัจจุบันแฮชแท็ก #cloudbread มียอดชมแล้วมากถึง 3.4 พันล้านวิว

#BookTok 

นอกจากนี้ ยังมีสินค้าอื่นๆ อีกที่ได้รับอานิสงค์จากผู้ใช้ TikTok อย่างเช่น ‘หนังสือ’ จากแฮชแท็ก #BookTok ซึ่งเป็นแฮชแท็กวิเคราะห์และรีวิวหนังสือบน TikTok ที่มียอดผู้ชมรวมแล้วถึง 9.68 หมื่นล้านวิว โดยหนังสือที่นักอ่านหลายคนรวมไปถึงกลุ่มที่ไม่ใช้ TikTok น่าจะเคยเห็นผ่านตาอย่างแน่นอนในปีนี้อย่าง It Ends With Us ของ Colleen Hoover ก็เป็นหนึ่งในหนังสือที่โด่งดังขึ้นมาได้เพราะได้รับการพูดถึงบน TikTok เช่นกัน

#slushiecup 

หรือจะเป็นสินค้าในชีวิตประจำวันอย่าง RELPOM Slushie Maker Cup หรือแก้วเปลี่ยนเครื่องดื่มต่างๆ ให้กลายเป็นเกล็ดน้ำแข็ง ที่มียอดขายเพิ่มขึ้นถึง 2,078% ในรอบหกเดือนที่ผ่านมาหลังกลายเป็นไวรัลใน TikTok จนเกิด #slushiecup ที่มีคนเข้าไปใช้แก้วนี้ทำเครื่องดื่มต่างๆ เช่น น้ำอัดลม น้ำผลไม้ นม รวมไปถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ต่างๆ ให้กลายเป็นเกล็ดนำแข็งเป็นจำนวนมาก

#TikTokMadeMeBuyIt

โดยตัวอย่างอิทธิพลของ TikTok ที่มีต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคเห็นได้ชัดจากการเกิดแฮชแท็กอย่าง #TikTokMadeMeBuyIt ขึ้นมา ซึ่งเป็นแฮชแท็กที่ชื่อบ่งบอกอยู่แล้วว่าเป็นที่ให้ผู้ใช้ TikTok เข้ามาพูดถึงสินค้าที่พวกเขาซื้อตามจากการดูคลิป TikTok ซึ่งปัจจุบันมียอดชมรวมแล้วถึง 3.34 หมื่นล้านวิว 

#AmazonFinds 

หรือแฮชแท็กอย่าง #AmazonFinds ซึ่งเป็นแฮชแท็กที่รวมรีวิวสินค้าในชีวิตประจำวันต่างๆ ที่หาได้ในเว็บไซต์ Amazon ที่มียอดผู้ชมรวมแล้วถึง 3.48 หมื่นล้านวิว และทำให้สินค้าหลายรายการขายดีเป็นเทน้ำเทท่ามาแล้ว รวมไปถึง RELPOM Slushie Maker Cup ด้วย

 

ซึ่งจากตัวอย่างเทรนด์เหล่านี้จะเห็นได้ว่า คลิป TikTok เป็นสื่อหนึ่งที่กระตุ้นให้เกิดการบริโภคได้อย่างเป็นธรรมชาติมากที่สุด  คอนเทนต์ที่เป็นเทรนด์บน TikTok จะทำให้ผู้ชมอยากซื้อของมาลองใช้ หรือลองทำกิจกรรมอะไรต่างๆ ที่ไม่เคยทำด้วยตัวเอง โดยที่นักการตลาดไม่ต้องใช้การโฆษณาแบบตรงๆ เพราะผู้ใช้ส่วนมากบนแพลตฟอร์มนี้เป็นคนอายุน้อย และมีพฤติกรรม FOMO (Fear of Missing Out) ที่ชอบแห่ทำกิจกรรมใดกิจกรรมหนึ่งเพราะกลัวตกเทรนด์ และอยากได้ยอดเอนเกจเม้นจากการทำกิจกรรมเหล่านั้น 

เพราะแบบนี้เอง TikTok จึงเรียกได้ว่าเป็นเครื่องมือที่ใช้เปลี่ยน ‘พฤติกรรม’ ของผู้ชมได้ดีและเป็นธรรมชาติที่สุดอย่างหนึ่ง ผ่านการใช้กระแสสังคมกล่อมเกลาและผลักดันให้ผู้ชมทำตามสิ่งที่เห็นในขบวนคลิปสั้นที่ไม่มีวันหมดเหล่านั้น…ไม่เชื่อลองสำรวจตัวเองดูว่าคุณเคยเข้าข่าย 11 พฤติกรรมเหล่านั้นหลังเล่น TikTok หรือไม่ 

 

ที่มา: CNBC, Coefficient Capital