ธุรกิจการตลาด

Hybe ทุ่ม 3 หมื่นล้านซื้อหุ้น SM ขึ้นแท่นผู้ถือหุ้นรายใหญ่แทน‘อีซูมาน’

10 ก.พ. 66
Hybe ทุ่ม 3 หมื่นล้านซื้อหุ้น SM ขึ้นแท่นผู้ถือหุ้นรายใหญ่แทน‘อีซูมาน’

Hybe Corporation บริษัทค่ายเพลงที่มูลค่าสุดที่สุดในเกาหลี ต้นสังกัดของ BTS บอยแบนด์ระดับโลก เตรียมก้าวขึ้นเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ SM Entertainment ค่ายเพลงเกาหลีอันดับ 2 ของเกาหลี หลังปิดดีลซื้อหุ้น 14.8% มูลค่ารวม 4.22 แสนล้านวอน หรือราว 1.1 หมื่นล้านบาท จาก ‘อีซูมาน’ ผู้ก่อตั้ง SM ได้สำเร็จ พร้อมเสนอซื้อหุ้นอีก 25% จากนักลงทุน ในดีลสนนราคากว่า 1.14 ล้านล้านวอน หรือราว 3 หมื่นล้านบาท

จากข้อมูลในเอกสารไฟล์ลิ่ง Hybe ได้เสนอซื้อหุ้นในราคาพรีเมียมที่สูงกว่าราคาปิดในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ ถึง 22% และหลังมีการรายงานข่าวดังกล่าวออกมา หุ้นของทั้ง Hybe และ SM ก็ดีดขึ้นรับข่าวดีทันทีหลังเปิดตลาด โดยหุ้นของ SM Entertainment ดีดขึ้นไปถึง 15.74% ไปอยู่ที่ 114,000 วอนต่อหุ้น เมื่อเวลา 12.00 น. วันนี้

 

ดราม่าชิงอำนาจในบริษัทเคป็อปที่เก่าแก่ที่สุดของเกาหลี

จากการรายงานของ Bloomberg ดีลระหว่าง Hybe และ อีซูมาน เกิดขึ้นหลังจาก อีซูมาน ยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อล้มดีลการซื้อขายหุ้น 9.05% ระหว่าง SM และ Kakao บริษัทเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดของเกาหลีใต้ ที่ทำให้ Kakao กลายเป็นผู้ถือหุ้นอันดับ 2 ใน SM เพราะดีลดังกล่าวทำให้สัดส่วนการถือหุ้นของอีซูมานลดลงเหลือ 16.8% จาก 18.5% และลดอำนาจในการบริหารจัดการบริษัทของอีซูมานลง 

ดังนั้น เพื่อรักษาอำนาจในการตัดสินใจต่างๆ ในบริษัทบางส่วนไว้ อีซูมานจึงตัดสินใจเสนอขายหุ้นให้ Hybe ซึ่งเป็นบริษัทค่ายเพลง และมีวิสัยทัศน์ในการทำธุรกิจคล้ายกัน โดยในเอกสารร่วมที่ Hybe และ อีซูมานยื่นให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของเกาหลี ‘บังชีฮยอก’ ผู้ก่อตั้ง Hybe กล่าวว่าเขาเห็นด้วยกับแผนของอีซูมานที่จะรุกเข้าสู่ธุรกิจบันเทิงใน Metaverse ในระบบหลายค่าย และแนวคิดด้านการทำธุรกิจแบบยั่งยืน

เขากล่าวว่าหลังได้เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นที่ใหญ่ที่สุดของ SM แล้ว เขาจะผลักดันให้มีการปฏิวัติระบบการทำงานของ SM ให้มีความโปร่งใสและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น หลัง SM ตกเป็นเป้าโจมตีของผู้ถือหุ้นที่เป็นนักเคลื่อนไหวหลายรายในเกาหลีที่ผลักดันให้ SM มีความโปร่งใสในการทำงาน และให้ผลตอบแทนกับนักลงทุนมากขึ้นเมื่อปีที่ผ่านมา

ล่าสุดหลังจากข่าวดีลดังกล่าวออกมา ทางทีมผู้บริหารของ SM ก็ออกมาปล่อยเอกสารคัดค้านการซื้อหุ้นดังกล่าวทันที โดยกล่าวว่าการที่ Hybe เข้ามาซื้อหุ้น SM เป็นความพยายามเข้ามาควบรวมบริษัทของบริษัทคู่แข่ง และการเข้ามาบริหารของ Hybe จะทำลายอัตลักษณ์และวิสัยทัศน์ในการดำเนินธุรกิจที่เป็นของ SM ไปหมด และขอให้นักลงทุนสนันสนุนแนวทางการดำเนินธุรกิจใหม่ของ SM ในยุค SM 3.0 ที่มุ่งกระจายอำนาจในการบริหารให้กับทีมบริหารมากกว่าผู้บริหารคนเดียวคืออีซูมานอย่างที่ผ่านมา

SM Entertainment เป็นบริษัทค่ายเพลงเคป็อปแรกของเกาหลีใต้ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 1989 (ในชื่อ SM Studio) โดย อีซูมาน ศิลปิน โปรดิวเซอร์ และนักธุรกิจ ที่เป็นต้นสังกัดของศิลปินรุ่นบุกเบิกของวงการเคป็อบ เช่น H.O.T และ S.E.S และศิลปินเคป็อบชื่อดังมากมายเช่น TVXQ, Super Junior, Girls’ Generation, EXO, Red Velvet, NCT และ aespa ทำให้เป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงในแง่ของวิสัยทัศน์ และความกล้าในการสร้างสรรค์ผลงานเพลงที่แปลกใหม่ 

ส่วน Hybe Corporation เป็นบริษัทน้องใหม่ที่ถูกก่อตั้งในปี 2005 โดยบังชีฮยอก และเติบโตขึ้นมาเป็นบริษัทค่ายเพลงที่มีมูลค่าสูงที่สุดในเกาหลีใต้ได้อย่างรวดเร็วด้วยความโด่งดังของ BTS ปัจจุบันมีศิลปินอยู่ในสังกัดมากมายเช่น Seventeen, Tomorrow X Together, Enhypen, NewJeans และ Le Sserafim

Hybe มีชื่อเสียงในด้านการ takeover และการเข้าไปลงทุนในค่ายเพลงอื่นเพราะมีแผนดำเนินกิจการแบบ Multi-label หรือระบบหลายค่าย โดย Hybe ได้เข้าซื้อกิจการค่ายเพลงเกาหลีแล้วหลายราย เช่น Source Music, Pledis Entertainment และ KOZ Entertainment และกำลังจะขยายกิจการเข้าซื้อค่ายเพลงต่างชาติคือ Quality Control ที่เป็นต้นสังกัดของศิลปินฮิปฮอปและแร็ปเปอร์ดังอย่าง Lil Baby และ Migos 

นี่จึงถือได้ว่าเป็นดราม่าใหญ่ในวงการเพลงเกาหลีทีเดียวเพราะหมายความว่าในตอนนี้อีซูมานกำลังขายหุ้นของตัวเองให้แก่คู่แข่งคนสำคัญเพื่อรักษาอำนาจของตัวเอง และหันหลังให้คนในบริษัท ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ 'อีซองซู' ซึ่งเป็นหลานชายของเขาเอง เพราะเขาไม่เห็นด้วยกับการดึง Kakao ซึ่งเป็นบริษัทที่มีอิทธิพลมากอยู่แล้วในเกาหลีมาเป็นหุ้นส่วนใหญ่ของบริษัท ซึ่งผลจะเป็นอย่างไร และสุดท้ายใครจะได้ครอง SM ต่อไปนั้นก็คงต้องติดตามกัน

 

ที่มา: Bloomberg, Reuters

advertisement

Relate Post

SPOTLIGHT